แฉต่อ! ชายอ้างเป็นนักการเมือง ยันม.ดังพิษณุโลก ขายวุฒิฯจริง เคยถูกขอให้ช่วยวิ่งเต้น

กรณีนางสาววิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษ์ และ ปุ๊กกี้ อดีตสมาชิกมูลนิธิ ออกมาเปิดเผย ว่าถูกเสนอขายวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมกับการออกมาแถลงผลสอบสวนของมหาวิทยาลัยว่าพบมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจริง



ล่าสุดวันนี้มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาตัวชายคนหนึ่ง ที่อ้างว่าอยู่ในแวดวงนักการเมือง มาเปิดตัวพร้อมยืนยันว่ารู้เรื่อง ว่า มีการซื้อขายวุฒิการศึกษากันได้จริง



ชายดังกล่าว อ้างว่า เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา เคยได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยที่ตกเป็นข่าว ให้ช่วยวิ่งเต้นพูดคุยกับผู้ใหญ่ เพื่อช่วยเคลียร์กรณีที่มหาวิทยาลัยดำเนินการกำหนดตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัยจำนวน 51 คน ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ กกอ. กำหนด แต่สุดท้ายเมื่อไปตรวจสอบแล้วว่า มหาวิทยาลัยดำเนินการไม่ถูกต้องจริง จึงถอนตัวเพราะไม่สามารถช่วยเหลือได้



ชายคนนี้ ระบุว่า จากกรณีดังกล่าว จึงเชื่อว่า มหาวิทยาลัยมีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง ประกอบกับตัวเองเคยพบบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นผู้หญิง เสนอขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี ราคา 300,000 บาท โดยขั้นตอนไม่ได้เป็นการนำเงินเข้าไปซื้อ แล้วจะได้วุฒิการศึกษาออกมาเลย แต่เป็นการนำรายชื่อ บุคคลที่จะซื้อใส่ในระบบนักศึกษาย้อนหลัง เพื่อให้ตรงกับภาคเรียน รวมทั้งยังมีการซื้อขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาโทด้วย แต่ไม่ทราบราคา



ชายคนนี้บอกว่า สาเหตุที่วันนี้ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็เพื่อจะเพิ่มน้ำหนักให้กับกรณีของปุ๊กกี้ว่า มีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง



ด้านนายชาญชัย ฉายบุ ทนายความ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า ที่ประธานมูลนิธิและนายเกษียร ที่เป็นเจ้าของบัญชี ที่รับโอนเงิน ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก็ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะในบันทึกประจำวัน ที่ระบุยอดเงิน 49,500 บาท ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า ปลายทางของเงินนั้นอยู่ที่ใคร พร้อมทั้งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ข้อความแชทที่ซ้อลักษ์นำมาแสดงนั้นเป็นความจริงหรือไม่



โดยวันพรุ่งนี้เขาพร้อมซ้อลักษ์ จะไปแจ้งความเอาผิดคู่กรณีฐานฉ้อโกง ที่ สภ.เมืองสกลนคร รวมถึงการปลอมแปลงลายเซ็นต์ซ้อลักษ์ไปจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิด้วย



ขณะเดียวกันนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า หากพบว่ามีหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริงก็ต้องจัดการเพราะเสียหายกันไปหมด หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือ (อว.) ก็ต้องจัดการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าใบปริญญาซื้อขายกันได้เมื่อไรก็เสียหายกันไปหมด กับคุณภาพทางการศึกษา เพราะประเทศไทยไม่ได้มีชื่อเสียงที่โดดเด่นทางด้านการศึกษาอยู่แล้ว และก็มีปัญหาอยู่แล้วว่าคนจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยน้อยลง เพราะคนที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้นก็ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ



ฉะนั้น จึงขอถือโอกาสเมื่อมีการร้องเรียน ทำให้การศึกษามีคุณภาพมากขึ้น หากมีหลักฐานจริงก็ต้องจัดการไม่ให้เกิดขึ้น

โดย panwilai_c

6 ก.ค. 2567

16 views

EP อื่นๆ