สังคม

รวมทีมทนาย The Avangers ช่วยเหลือผู้เสียหาย แฉแม่ข่ายให้ออกมาแจ้งความ "บอส" ทุกคน

โดย kanyapak_w

2 ชั่วโมงที่แล้ว

158 views

รวมทีมทนาย The Avangers ช่วยเหลือผู้เสียหาย แฉแม่ข่ายให้ออกมาแจ้งความ ก่อนโดน "บอสพอล" โยนให้กลายเป็นแพะ เพจสายไหมต้องรอดแฉพาพยานคนสำคัญรุ่นก่อตั้งดิไอคอนให้ข้อมูลนักการเมืองใหญ่หนุนหลัง เตือน "บอสพอล" ตกอยู่ในอันตราย ผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม


วันนี้ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เวลา 10.00 น. ทีมทนายรวมตัวกันประกอบด้วยทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ,ทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ,ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ,ทนายเกิดผล แก้วเกิด ,นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ สายไหมต้องรอด,มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ,ทนายรัชพล ศิริสาคร,ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ,ทนายพัฒน์ทนายเมียหลวง , อี้ แทนคุณ พาผู้เสียหายจากการกระทำของบริษัท The icon แจ้งความดำเนินคดีบอสทุกคน ในความผิดตาม พรก.การกู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ,ฉ้อโกงประชาชน ,พรบ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฟอกเงิน



นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน วันนี้มีการรวมตัวทนายความเพื่อให้มาดูแลผู้เสียหายทั้งหมดโดยจะให้ทนายแต่ละคนดูแลผู้เสียหายประมาณ 10 คนจะดูแลตั้งแต่วันที่แจ้งความ และจนกว่าผู้เสียหายจะได้รับเงินเยียวยา พร้อมบอกว่าเจตนา ของทีมทนายความ คือต้องการให้ผู้เสียหายมั่นใจ พร้อมบอกว่าทีมทนายยินดีที่จะช่วยเหลือผู้เสียหาย



ซึ่งเมื่อวานนี้ตนและทีมทนายก็ได้มีการดูในรายการโหนกระแสเห็นว่าบอสพอมีการร้องไห้ทนายตั้มมองว่าเป็นการเรียกกระแส เพราะในอีกรายการนึงที่ไปออกเดอะแสตนดาร์ด ก็มีการพูดในเชิงลักษณะที่จะไม่มีการรับผิดชอบผู้เสียหายอีกทั้งยังมีการโยนความผิดหรือโยงคดีต่างๆให้กับทางแม่ข่ายทำเหมือนกับตัวเองไม่รู้เรื่องแต่แท้จริงแล้วคนที่ทำธุรกิจ และเป็นบอสใหญ่จะมาบอกว่าตนเองไม่รู้เรื่องนั้นมองว่าเป็นไปไม่ได้



ทนายตั้มจึงฝากไปถึงแม่ข่ายที่กลัวว่าจะได้รับความเดือดร้อน ให้ติดต่อมาหาทีมทนายความ เพราะหากไม่เข้ามาให้ข้อมูลก็จะตกเป็นแพะในเรื่องนี้ อย่างสโลแกนของบอสพอลที่บอกว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” กรณีนี้มองว่าบอสพอลก็จะพาทุกคนไปติดคุกกันให้หมดมาเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วยให้หมด แม้แต่ดารา นักการเมือง ทนายความ นักร้องเรียน ที่รับเงินรายเดือน รวมถึงแม่ข่ายที่บอสพอลมีการโยนความผิดไปให้



ทนายตั้ม บอกว่าตนเองได้คุยกับทนายความทั้งหมด ทุกคนไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ และไม่มีการรับเคลียทุกกรณี จะมาเอาเงินให้พวกเราหยุดออกสื่อ ไม่มีวัน พวกเราจะช่วยเหลือจนกว่าผู้เสียหายจะได้เงินและต้องได้มากที่สุด พร้อมฝากไปถึงรัฐบาลบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ก็มีการตั้งหน่วยงานหลายหลายงานเพิ่มมาบูรณาการกัน เช่นปปง.ให้มียึดทรัพย์



ส่วนเรื่องของรายได้ที่พวกดารามีส่วนในยอดขายด้วยถึงแม้ว่าทนายความทางนายกันต์ กันตถาวร จะมีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องแต่ทุกอย่างก็ชัดเจนในการกระทำของบอสใหญ่ เนื่องจากทางบอทใหญ่มีการรับสารภาพเองในรายการจึงมองว่าตรงนี้ตำรวจสามารถเก็บมาเป็นพยานหลักฐานได้



และได้มีการตั้งข้อสังเกตจากทางประชาชนว่าทำไมถึงไม่มีการดำเนินคดี เช่นนำเอาตัวไปฝากขังและไม่ให้ประกันตัวเหมือนผู้ต้องหารายอื่นๆที่ผ่านมา ทนายตั้ม เองก็ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมยังไม่มีการออกหมายจับแต่ยังเป็นเพียงแค่ผู้กล่าวหาเท่านั้นเบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดเพราะ พรก. กู้ยืมเงิน ฉ้อโกงประชาชน และพรบ.คอมพิวเตอร์



ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ บอกว่าตอนนี้มีแม่ข่ายอัดคลิปข่มขู่พยาน และข่มขู่ว่าใครมาแจ้งความจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ ซึ่งตนเองเห็นหลักฐานพวกนี้แล้ว และมองว่าการที่แม่ข่ายมาอักคลิปขู่เป็นการยุ่งเหยินพยานหลักฐานและข่มขู่ ซึ่งตนจะรวมรวมพยานทั้งหมดมาแจ้งความ ยันคดีนี้ไม่มี มวยล้ม จะมาเคลียร์กันไม่ได้ ส่วนที่บอสพอลบอกว่า “ผู้เสียหายโง่เองซื้อไปขายไม่ได้” ตนมองว่าทางคดีตำรวจวางรูปคดีไว้แล้ว และการาที่คุณไปโฆษณาชวนเชื่อทำให้เค้ามาซื้อกับคุณ และให้ทีมมาเฉียดเขาให้เค้าไปหาลูกทีมมาอีก แบบนี้มันคือแชร์ลูกโซ่



เช่นเดียวกับทนายรัชพล ที่บอกว่าพฤติกรรมรูปแบบของบริษัทเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ และสิ่งที่หลายคนออกมาทั้งดาราก็ไม่พูดเรื่องรายได้ แต่บอสพอลพูดเองว่าจ่ายรายเดือน ซึ่งถ้าบอสอื่น แม่ข่าย รับสารภาพ ก็จะบรรเทาผลร้าย



ทนายแก้ว มนต์ชัยจงไกรรัตนกุล ขอให้มั่นใจว่าทนายทุกคนช่วยเหลือ และเคียงข้างประชาชนและอยากให้แม่ข่ายมาเป็นพยานกัน และแม่ข่ายควรออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเป็นประโยชน์ เพราะ ประชาชน เดือดร้อน บอสพอลจะอ้างว่าไม่รู้งบบริหาร เงินแผนการตลาดเป็นไปไม่ได้ ที่จะคลอดแผนการตลาดออกมาโดยไม่รู้ย้ำว่าขอให้แม่ข่ายออกมาให้ข้อมูลรวมถึงพนักงานภายในโรงงานก็ขอให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ



ทนายรณรงค์ บอกว่าได้รวบรวมผู้เสียหายในไลน์กลุ่มไว้ 1,200 คน กระจายอยู่ในที่หลายจังหวัด ช่วงกลางปีที่ผ่านมาปรึกษาแต่ไม่ได้เป็นข่าว หลังจากนั้นก็มาให้ข้อมูลว่ามีคนมาประสานงานมีการจ่ายค่าเคลียร์ไปแล้ว 7 หลัก ซึ่งก็แปลกดีที่มีคนมารับจ้างเคลียร์การประสานงานให้ด้วย หลังจากนั้นหากไปดูประวัติศาสตร์คดีแชร์ลูกโซ่ คดีฟอเร็กซ์ ก็ไม่กล้าที่จะยึดทรัพย์สิน ดังนั้นก็ควรโอนคดีไปกรมสอบสวนคดีพิเศษแต่ถ้าจะให้ไวก็ควรให้สอบสวนกลางเป็นคนทำซึ่งหลังจากนี้จะมีการตัดสินใจกันอีกหนึ่งครั้ง ทั้งนี่อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบคดีย้อนหลัง5ปีว่ามีการมาแจ้งความหรือไม่ จะได้มาดูกันว่า สน.ไหนหมกเรื่องไว้ไม่อยากให้มีเทวดาบางโรงพัก



ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ ‘สายไหมต้องรอด‘เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากบุคคลหนึ่งที่อ้างว่าเคยอยู่ในเครือข่าย “ดิไอคอนกรุ๊ป” ตั้งแต่สมัยก่อตั้งบริษัท ซึ่งมีการไปดูระบบหลังบ้านต่างๆ ให้ข้อมูลว่า บริษัทนี้ รวมถึงบอส... ซึ่งตนเองไม่ขอเอ่ยชื่อว่าใคร มีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล ซึ่งจะขอใช้คำว่า “เทวดา” มีการเซ่นไหว้เทวดา โดยมีการใช้เงินสดแปลงเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เรียกว่า USTD ซึ่งผู้ที่ให้ข้อมูลกระทั่งว่า มีหลักฐานว่า บอส… ไปเบิกเงินสดที่ไหน และไปแลกเป็นเงินคริปโตสกุล USTD ที่ไหน ซึ่งทราบว่าไปแลกเงินกับกลุ่มจีนเทา จึงเอาข้อมูลมาให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพราะมีความเชื่อมั่นว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ



นายเอกภพ ยังบอกอีกว่าหากวันนี้ยังมีใครโทรศัพท์มาหาตนเองเพื่อให้ไม่พูดอะไร ตนเองจะเอ่ยชื่อ พร้อม ฝากไปถึงแม่ข่ายและบอสบางคนที่อยู่ในกลุ่มบอส 3 คนที่เป็นตัวจักรสำคัญของเรื่อง ว่าวันนี้บอสใหญ่เอาคุณเป็นเหยื่อ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าเหยื่อมักจะไม่รอด ดังนั้นควรรีบออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ



รวมถึงตัวบอสพอลด้วยเช่นกัน เพราะการที่มีคลิปสนทนารับสินบนหลุดออกมา ตนเองเชื่อว่าไม่ได้หลุดออกมาจากฝั่งที่มีการเรียกรับผลประโยชน์หรอก ส่วนจะหลุดจากฝั่งไหนเชื่อว่าบอสพอลเองก็ทราบดี วันนี้เชื่อว่าเทวดาคงจะไม่พอใจ เพราะกังวลว่าการเจรจาของเขากับบอสพอลน่าจะถูกบันทึกเสียงไว้ ดังนั้นหากบอสพอลหายไป คนที่เรียกรับผลประโยชน์ก็จะปลอดภัย วันนี้ตนเองเชื่อว่าบอสพอตกอยู่ในอันตราย จึงขอให้มาร่วมมือกับพวกเราและมาเปิดข้อมูลเถอะว่าใครเป็นคนเรียกรับ แล้วจะปลอดภัย



ส่วนเมื่อวานที่บอสพอไปออกรายการโหนกระแสแล้วไม่พูดถึงเรื่องนี้ ตนเองก็เข้าใจได้ว่าถูกเทวดาบอกว่าไม่ต้องพูด เดี๋ยวจะจัดการทุกอย่างให้ วันนี้บอสพอลจึงเลือกจะอยู่นิ่ง แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้เทวดาไม่ปลื้มแล้ว วันนี้ขอให้เอาทรัพย์สินเงินดิจิตอลที่มีไปขาย แล้วมาชดใช้ประชาชนที่ยากลำบาก



ผู้สื่อข่าวถามว่าเทวดาที่พูดถึงอยู่พรรคไหน สีไหนขอให้ใบ้หน่อย


นายเอกภพ ไม่ตอบ บอกว่าถ้าพูดแล้วจะรู้เลย แต่ยืนยันว่าเทวดามีหลายสี พร้อมฝากบอกผู้ใหญ่ในรัฐบาล ทั้งรัฐบาลก่อนและรัฐบาลปัจจุบัน ขอให้หยุดการกระทำ แล้วไม่ต้องให้หน้าเสื่อติดต่อแทน รวมถึงผู้ใหญ่ใน สคบ. ว่าทำอะไรอยู่ ระวังหากเขาเปิดโปงขึ้นมาจะหน้าหงายทั้งหมด และฝากบอกตำรวจบางหน่วยงานที่รับเครื่องเซ่นอยู่ ขอให้หยุดการกระทำ พร้อมบอกว่า ตนเองทราบมาว่ามีตำรวจในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ทราบเรื่องนี้ด้วย แต่ยังเชื่อมั่นในตัวผู้บัญชาการ




ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามต่อว่าขณะนี้เทวดาอยู่ต่างประเทศหรือไม่ นายเอกภพ ยืนยันว่า เทวดาอยู่ที่ประเทศไทย เมื่อถามว่าตอนนี้เทวดาไปเที่ยวจีนอยู่หรือไม่ นายเอกภพ ตอบว่า “ตอบไม่ได้ครับ เดี๋ยวตอบแล้วจะรู้ครับ”



เมื่อถามว่าตอนนี้เทวดายังอยู่ในรัฐบาลหรือไม่ นายเอกภพก็บอกว่า “ตอบไม่ได้ หากตอบจะรู้” ส่วนเมื่อถามว่าเทวดาเคยมีข่าวกับจีนเทาหรือไม่ นายเอกภพบอกว่า “มีหลายคน”



เมื่อถามต่อว่าเทวดา “เคย” อยู่ในรัฐบาลหรือไม่ นายเอกภพ ตอบเพียงว่า “เทวดามีอำนาจมาก” ก่อนที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จะแทรกว่า น่าจะเป็นเทวดาระดับใหญ่กว่าที่มีคลิปเสียง



เมื่อสื่อถามว่า เทวดาดูแลนานแค่ไหนแล้ว นายเอกภพ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการให้รัฐมนตรีคนหนึ่งเป็นหน้าเสื่อคอยคุย ส่วนปัจจุบันจะมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลหรือไม่ ตอบไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าเป็นผู้ชาย แต่อายุเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ เพราะจะชี้ชัดเกินไป รวมถึงไม่ตอบว่าเป็นคนที่ออกสื่อบ่อยๆ หรือไม่



เมื่อถามเทวดาท่านนี้อยู่ในเมืองหรือไม่ นายเอกภพ ยังไม่ทันตอบ แต่นายษิทราแทรกขึ้นมาก่อนว่า “อยู่ในป่า…หรือเปล่า“ ก่อนที่นายเอกภพจะบอกว่า “ไม่เข้าใจคำถาม” ก่อนบอกต่อว่า “เทวดาอยู่บนฟ้า” พร้อมย้ำว่าเทวดาชอบกินเงินดิจิตอล



พร้อมบอกว่า ตนเองมีข้อมูลว่าสมาชิกในเครือข่าย “ดิไอคอนกรุ๊ป” จากที่บอสพอลเปิดเผยว่า มีสมาชิกปี 2565 เกือบ 500,000 คน ตนเองมีข้อมูลว่า ในปี 2556-2567 หลังมีดาราเข้ามาร่วมโปรโมท มีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้น / / รวมถึงกรณีที่บอสพอพูดในรายการว่าทุกคนต้องเปิดบิลกับบริษัทเท่านั้น ตัวเองมีหลักฐานว่าการเปิดบิลนั้น มีการจ่ายกับแม่ทีม ไม่ได้เปิดที่บริษัท ซึ่งตัวเลขต่างๆ คงต้องให้ตำรวจขยายผล



ด้านพยานที่จะเข้าให้ข้อมูลกับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเคยเป็นบุคคลที่ทำงานกับบริษัทดิไอคอน และดูแลระบบหลังบ้าน ให้สัมภาษณ์เบื้องต้นว่าตนเองมีข้อมูลและเดี๋ยวจะเอาข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินกับบุคคลบางคน ที่เรียกว่า เทวดา ส่วนจ่ายเงินแบบไหนนั้น พยานระบุว่า จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จ่ายไปหลักหมื่นล้านบาท ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเทวดา มีหลายคน ที่จ่ายให้และเทวดาจะคุ้มครอง4หน่วยงานหลัก หน่วยงานที่ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค ปคบ.-ดีเอสไอ -สอท.



โดยเทวดาเป็นคนเอาเงินไปจัดสรรให้แต่ละหน่วยงานเอง แต่เทวดาไม่ได้รับโดยตรง ซึ่งจะมีหน้าเสื่ออีกที



พอนักข่าวถามว่า เปลี่ยนรัฐบาลแล้วเปลี่ยนเทวดาด้วยหรือไม่ พยานไม่ขอตอบขอให้ข้อมูลกับตำรวจทั้งนี้เหตุผลที่ตัดสินใจออกมาให้ข้อมูล เพราะไม่อยากให้ประชาชนโดยเอารัดเอาเปรียบไปมากกว่านี้



แท็กที่เกี่ยวข้อง  ดิไอคอน ,ดิไอคอนกรุ๊ป

คุณอาจสนใจ

Related News