ร้องคดีไม่คืบถูกการ์ดร้านอาหารทำร้ายดั้งหักชดใช้ 3,000

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2566  นางสาคร  อายุ 54 ปี และนายพิษณุ  อายุ 28 ปี ลูกชาย ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณีนายพิษณุ ถูก ทำร้ายจนจมูกหัก แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น แล้วตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2566 แต่ตำรวจยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และคู่กรณีก็ยังไม่เยียวยาและยังไม่ถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย



นางสาคร อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายส้มตำที่ตลาดต้นตาล ส่วนกรณีที่ร้องเรียนอยากให้สื่อมวลชนเข้ามาช่วยเหลือก็เนื่องจากว่า ขณะที่ลูกชายไปเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้าย วันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมาในเมืองขอนแก่น แล้วถูกทำร้ายร่างกาย จนจมูกหัก ต้องนำส่งโรงพยาบาล รักษาตัว 1 วัน 1 คืน แพทย์ก็ให้ออกจาก รพ.แต่ต้องพักงานรักษาตัวที่บ้านอีก 1 อาทิตย์ ขณะเดียวกันหลังแจ้งความต้องตระเวนหาชื่อที่อยู่ของคู่กรณี ซึ่งก็คือคนที่ทำร้ายลูกชาย เพื่อนำมามอบให้ตำรวจ จนได้ชื่อที่อยู่ของคู่กรณี หลังจากนั้นมารดาของคู่กรณีก็มาคุย โดยขอจ่าย 3,000 บาทแล้วจบกัน แต่ตนและลูกชายไม่ยอม เพราะเงิน 3,000 บาท ไม่คุ้มกับการที่ต้องบาดเจ็บ โดยที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน แต่มาทำร้ายร่างกายกันเช่นนี้ เสียงาน เสียรายได้ จึงอยากให้คู่กรณีมาเยียวยาเป็นเงิน 20,000 บาท ส่วนทางกฏหมายก็ให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย



นายพิษณุ  อายุ 28 ปี ลูกชาย กล่าวว่า ขณะเล่นน้ำกับเพื่อนๆอยู่ริมถนนดรุณสำราญ ในเมืองขอนแก่น ช่วงเย็นจึงชวนแฟนกลับบ้าน แต่แฟนไม่กลับ จึงโกรธแฟนและเดินออกจากจุดที่เล่นน้ำอยู่ จากนั้นเพื่อนที่เป็นการ์ดในร้านอาหารเดินมาคุยด้วย ขณะคุยกับเพื่อน นายแบงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนก็เดินมาหาพร้อมกับพูดว่า เป็นอะไรกัน จึงตอบว่า เป็นเพื่อนกัน แล้วก็ถูกนายแบงค์ใช้แก้วสแตนเลส ทุบที่ใบหน้า จนบาดเจ็บ เพื่อนๆพากันเข้าไปห้าม และเอานายแบงค์ออกไป จากนั้นเพื่อนๆก็เรียกรถกู้ชีพมารับตนส่งที่รพ.ขอนแก่น เพื่อให้แพทย์รักษาบาดแผลที่บาดเจ็บ



“ที่ผ่านมาตำรวจเรียกมาสอบสวน 1 ครั้ง แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบชื่อที่อยู่นายแบงค์ ตำรวจจึงทำอะไรไม่ได้ มารดาจึงต้องหาที่อยู่ของนายแบงค์มาให้ตำรวจ และขณะนี้ทราบชื่อที่อยู่นายแบงค์แล้ว จึงเดินทางเข้าให้ปากคำตำรวจอีกครั้ง โดยตำรวจแจ้งว่า ให้นำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ หลังจากนั้นตำรวจจะออกหมายเรียกนายแบงค์มาสอบสวนและถ้าออกหมายเรียกแล้ว นายแบงค์ไม่มาตำรวจจะออกหมายจับ ในส่วนของการเยียวยานั้น ตนและมารดาเรียกร้องค่าทำขวัญเป็นเงิน 20,000 บาท ส่วนคดีก็ให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป”



ทางด้าน พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบสวนผู้เสียหายและมารดาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสอบสวรปากคำพยาน จากนั้นก็จะออกหมายเรียก เรียกตัวนายแบงค์มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องการเยียวยานั้น ให้คู่กรณีตกลงกันเอง แต่ในทางกฏหมายและคดี ก็ต้องว่ากันต่อไป คนทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่การดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายนั้น ต้องพร้อมด้วย พยาน หลักฐาน เมื่อทุกอย่างครบถ้วนก็ดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย