ยายม.6 โอดไร้เงินค่าทำขวัญ รับผิดแทนหลานทำร้ายรุ่นน้อง

กรณีเด็กนักเรียน ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้องชั้น ม.1 จนบาดเจ็บปากแตกต้องเย็บถึง 5 เข็ม สาเหตุเพียงแค่รุ่นน้องทำลูกตะกร้อกระเด็นโดนรถจักรยานยนต์ของตัวเอง จนนางลัดดา ขันธะเจริญศักดิ์ มารดาของนักเรียนชั้น ม.1 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสว. (สอบสวน) สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับเด็กนักเรียน ม.6 ในข้อหาทำร้ายร่างกายเหตุเกิดบริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 18 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางหอมหวน อายุ 63 ปี ยายของนายเก่งเจริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ

นางหอมหวน เปิดเผยว่า ตนและสามีรับเลี้ยงหลาน ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวที่สามีพาไปทำมาหากินอยู่กรุงเทพ ทิ้งหลาน 2 คนให้เลี้ยงคือนายเก่ง และน้องอีกคน ขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4 ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก 2 คนให้เดือนละ 3 พันบาท ส่วนสามีของตนก็พิการขาหัก มีเบี้ยคนชรา 600 บาท และเบี้ยผู้ผู้พิการอีกเดือนละ 600 บาทก็พออาศัยได้เลี้ยงชีพถูไถไปได้ นอกจากหลาน 2 คน ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวแล้ว ยังมีลูกชายอีกหนึ่งคน อาศัยอยู่ด้วยกัน

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กม.1 ที่ถูกทำร้าย ก็ได้พากันเดินทางมาหาตน เพื่อพูดคุยกันบ้างแล้วเกี่ยวกับค่าทำขวัญและค่าเยียวยาอื่น ๆ ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดแทนหลานทุกอย่าง ทำอย่างไรได้เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว หลานของตนผิดที่ไปทำร้ายรุ่นน้อง ตนก็ขอรับผิดแทนทุกอย่าง จะให้กราบขอโทษตนก็พร้อมกราบเพื่อลูกเพื่อหลาน จะให้ทำอย่างไรก็จะยอมทำทุกอย่าง แต่เรื่องเงินเรื่องทองนั้น ก็อย่างที่เห็นตนคงไม่มีให้ ถ้าจะเรียกร้องกันถึง 4-5 หมื่นบาท

นายแสงทอง ตาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกตินายเก่ง จะเป็นคนขยันทำงานเก็บเงินเก็บทอง ที่ผ่านมาได้หยุดเรียน 1 ปี เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพฯ กับพ่อแม่ จนสามารถเก็บเงินได้ 3 หมื่นบาท จึงนำเงินมาดาวน์รถมอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ไปโรงเรียน ต้องส่งค่างวดถึง 70 งวด รวมเป็นเงินถึง 2.8 แสนบาท จ่ายงวดละ 3 พันกว่าบาท ทำให้หลานหวงรถคันนี้มาก ๆ ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง หลังเกิดเหตุตนก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาช่วยหลาน ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรม และหวังว่าคงจะสามารถพูดคุยตกลงกันได้

นายเก่งเจริญ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนนั่งเรียนหนังสืออยู่ข้างใน ก็ได้ยินเสียงครูเรียกให้ตนไปดูรถมอเตอร์ไซค์ ตนก็เดินออกไปดู เห็นน้องเล่นตะกร้ออยู่ใกล้ ๆ ตรงที่จอดรถ และตะกร้อกระเด็นไปโดนล้อ ตนก็ตั้งใจว่าจะไปย้ายรถออกไปจอดที่อื่น แต่น้องเขากลับจับลูกตะกร้อโยนใส่เฟรมรถ ตนจึงโมโหขาดสติลงมือทำร้ายรุ่นน้อง ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษน้องและครอบครัวด้วย เพราะที่ทำไปเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบและขาดสติ ตนขอจดจำไว้เป็นบทเรียนต่อไป และจะมีการนัดเจรจาตกลงกันที่โรงพักในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.)