สังคม

สธ. รายงานมีข้อมูลผู้ป่วยฝีดาษลิงเดินทางพักเครื่องในไทย

โดย onjira_n

30 พ.ค. 2565

10.4K views

ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อโควิด 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า เดือน มิถุนายน 2565 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการปรับการรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายงานเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการและเข้าสู่ระบบการรักษาเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของโรคประจำถิ่น และสอดคล้องไปกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์



ส่วนการตรวจหาเชื้อ ATK ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับบุคคลทั่วไปให้ตรวจหาเชื้อ ATK เฉพาะที่มีอาการป่วยเท่านั้น แต่กรณีพนักงานสถานบันเทิง ยังต้องตรวจATK ทุกสัปดาห์ รวมถึง กลุ่มผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 // ผู้สัมผัส // กลุ่มที่ต้องทำงานกับผู้สูงอายุและเด็ก



ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษลิง นพ.จักรรัฐ ระบุว่า พบผู้ป่วยยืนยัน 1 รายมีประวัติเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องในสนามบินในไทย 2 ชั่วโมงเพื่อเดินทางต่อไปประเทศออสเตรเลีย ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยง 12 ราย เป็นผู้โดยสารและลูกเรือในสายการบิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามอาการ เบื้องต้น ทั้ง 12 ราย ไม่มีอาการ



ขณะที่มีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าข่ายอาการ 5 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์ 3 ราย ที่เป็นพี่น้อง โดยเดินทางเข้าไทยเพื่อมาเรียนมวยไทยภูเก็ต และพบว่าทั้ง 3 คน มีอาการเข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง มีตุ่มนูนใส ตามลำตัว แต่เมื่อนำไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR จาก 2 ห้องปฏิบัติการ คือ ของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิกโรงพยาบาลจุฬาฯ พบผลยืนยันเป็น โรคเริม



หลังการสอบสวนโรคทำให้ผู้ป่วยเข้าข่ายอีก 2 รายที่ใช้บริการยิมกับผู้ป่วย3 รายแรก จากการใช้อุปกรณ์ในยิมร่วมกัน โดยผลตรวจจากห้องแล็บ ก็เป็นโรคเริม จากกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 20 ราย เป็นผู้สอน และคนที่เข้ามาเล่นในยิม เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 5 ราย เข้ารับการรักษาที่บำราศนราดูร



ขณะนี้มีการรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษลิง ใน 32 ประเทศ ซึ่งมีรายงานยอดผู้ป่วยทั้งหมด 406 ราย และผู้ต้องสงสัยเข้าข่าย 88 ราย ประเทศที่พบการระบาดหนัก 5 ประเทศ นอกทวีปแอฟฟริกา คือ อังกฤษ // เยอรมัน// สเปน // โปรตุเกส และแคนนาดา ยืนยันขณะนี้ยังไม่พบผู่ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย





ด้านแนวทางการเฝ้าระวัง กระทรวงสาธารณสุขได้ นิยามผู้ป่วยสงสัย คือ อาการมีไข้ // เจ็บคอ // มีไข้ // ต่อมน้ำเหลืองโต // มีผื่นตุ่มนูน บริเวณแขนขา และใบหน้า และมีประวัติเชื่อมโยงกับระบาดวิทยา ภายในระยะเวลา 21 วัน หรือกิจกรรมที่มีการรายงานผู้ป่วยฝีดาษลิง และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ป่า หรือนำเข้าจากแอฟฟริกา



ส่วนผู้ที่เข้าข่ายสงสัย ต้องมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด คือ สัมผัสโดยตรงกับผิวหนังผู้ป่วย หรือ สัมผัสสิ่งของที่อาจปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่นเสื้อผ้าผู้ป่วย // ผู้สัมผัสร่วมบ้าน เช่น อาศัยอยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยหรือ ใช้ห้องน้ำหรืออุปกรณ์ในห้องน้ำร่วมกับผู้ป่วย // ผู้สัมผัสที่อยู่ภายในห้อง หรืออยู่ใกล้ ผู้ป่วยฝีดาษลิง ภายในระยะ2เมตร หากพบผู้ป่วยในประเทศไทยจะต้องได้รับการยืนยันจากผลห้องปฏิบัติการก่อนเข้าสู่ระบบการรักษา ตามอาการและแยกกักตัว จนครบ 21 วัน



ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ฝากถึงแพทย์ หากพบผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการ เข้าข่ายโรคฝีดาษลิงสามารถแจ้งยืนยันกับกระทรวงสาธารณสุขได้ทันที เนื่องจาก แพทย์ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นโรคฝีดาษลิงมาก่อน เพราะหายไปจากประเทศไทยนานมาก จึงไม่สามารถคัดกรองอาการด้วยการแยกลักษณะตุ่มหนองที่เกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องใช้การตรวจหาเชื้อ RT-PCR จากห้องปฏิบัติการเท่านั้น



คุณอาจสนใจ

Related News