จับหนุ่มตระเวนลักไฟท้าย ใช้ไขควงขโมยภายใน 1 นาที ขายออนไลน์ได้กว่า 1 ล้านบาท

สืบปากเกร็ดรวบหนุ่มตระเวนลักไฟท้ายรถยนต์นานกว่า 5 เดือน ขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก รายได้เฉลี่ยกว่า 1 ล้านบาท

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 24 พ.ย.66 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.แสงระวี ภูสอาด สว.สส.สภ.ปากเกร็ด  พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายศุภเชษฐ์  บุญเพียร อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี 821/2566 ลงวันที่ 17 พ.ย.66 ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้ผลการจับกุม

โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องไม่มีเลขที่บริเวณชั้น 1 ของโรงงานเย็บผ้า ซอยสรงประภา 1 แยก 4 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง คือ 1.รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน (ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุลักทรัพย์) 2.เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเกตุ 3.ไขควงสีลายธงชาติสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 อัน (เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุลักทรัพย์) 4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง (ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายไฟท้ายที่ได้มาจากการลักทรัพย์)

นายศุภเชษฐ์  ให้การรับสารภาพว่า ตนตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ไฟท้าย LED รถกระบะลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในเมืองทองธานี โดยก่อเหตุเพียงคนเดียวกับไขควง 1 อัน โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที ต่อไฟท้าย 1 คู่ เพราะตนมีประสบการณ์เป็นคนชอบแต่งรถเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์อยู่แล้ว

โดยจะก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืนไม่มีคน และนำไปขายผ่านเพจเฟซบุ๊กเจ้าประจำที่ที่รับซื้อ โดยตนขายในราคา 5,000 บาท เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายค่างวดรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุและนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วงนี้ตนตกงานไม่มีเงินมาเลี้ยงดูเมียและลูก

สุดท้ายนี้อยากขอโทษทางผู้เสียหายที่ตนได้ก่อเหตุไป ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคดีถูกจับมาก่อน ที่ก่อเหตุเพียงแค่ไม่มีเงิน และไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับการเสพติดและการพนัน

พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่วันที่ 29 ก.ย.66 และวันที่ 31 ต.ค.66 เวลาประมาณ 02.52 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุทรัพย์ไฟท้ายรถยนต์ บริเวณช่องจอดรถยนต์ข้าง ตึก CB คอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  ต่อมาวันที่ 23 พ.ย.66 เวลาประมาณ 10.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี

จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหา ได้ทำงานอยู่ที่โรงงานเย็บผ้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายจับ เข้าจับกุมตัวขณะที่ผู้ต้องหากำลังนอนพักอยู่ที่ห้องพักชั้น 1 ของโรงงานเย็บผ้าดังกล่าว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ได้ออกหมายจับไว้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน

พร้อมรับว่าตนเองก่อเหตุลักทรัพย์ไฟท้ายมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 66 ถึงปัจจุบัน สร้างความเสียหายมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท ก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้กับประชาชน จำนวนมาก โดยไฟท้ายรถยนต์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์ตนเองได้นำไปขายในราคาคู่ละ 5,000 บาท ให้กลุ่มนายทุนภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยติดต่อซื้อขายกันผ่านเฟซบุ๊ก

ซึ่งบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดกับนายศุภเชษฐ์ เป็นกลุ่มนายทุนที่อยู่พื้นที่จังหวัดชุมพร ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจได้อยู่ระหว่างขยายผลเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เพราะอาจเข้าข่ายความผิดฐาน รับซื้อของโจร  ส่วนประชาชนท่านใดถูกผู้ต้องหารายนี้ขโมยไฟท้ายรถสามาถติดต่อประสานงานได้ที่ สภ.ปากเกร็ด