ครูเครียด ม.2 ลักเงิน 7 แสนซื้อไอโฟนแจกเพื่อน นอกนั้นใช้เกลี้ยง ร้านมือถือซวย โดนด้วยรับซื้อของโจร

ครูสาวเครียด ถูกเด็กนักเรียนหญิง ม.2 ข้างบ้าน เข้ามาขโมยเงิน 7 แสนบาท ไปซื้อไอโฟนแจกเพื่อน 11 เครื่อง และให้เพื่อนชายคนสนิทอีก 3 แสนบาท หวั่นคดีไม่คืบ ล่าสุดได้เงินคืนแค่ 120,000 ส่วนที่เหลือเด็กอ้างไม่เหลือแล้ว

นางรุ่งรัตน์ อายุ 42 ปี เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอห้วยคต ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองถูกนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 คนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้าน ได้ฉวยโอกาสเดินเข้าข้างหลังบ้าน แล้วเข้ามาขโมยเงินภายในห้องนอน ซึ่งเก็บไว้ในกระเป๋าห่อด้วยผ้าขาว บริเวณชั้นล่างของโต๊ะ จำนวน 700,000 บาท หลังจากนั้นนำไปแบ่งให้กับพรรคพวกนักเรียนด้วยกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ครูรุ่งรัตน์ บอกว่า บ้านตนเองเปิดเป็นร้านขายของชำ ซึ่งเด็กหญิง อายุ 14 ปี เคยย่องเข้ามาทางหลังบ้าน มาขโมยเงินที่ใส่ไว้ในกระติกเก็บเงินมาแล้วครั้งหนึ่ง จำนวน 2,000 บาท เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นครอบครัวตนเองจับได้ เด็กก็ยอมรับว่าเอาไปจริง และคืนเงินให้ทั้งหมด ตนเองจึงไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง และได้ตักเตือนไปในครั้งนั้น

กระทั่งวันเกิดเหตุครั้งล่าสุด เด็กเข้ามาก่อเหตุซ้ำ ในช่วงที่ตนเลี้ยงลูกอยู่หน้าร้าน ส่วนแม่ของตนออกไปที่นา ทำให้ไม่มีใครรู้ แต่หลังจากที่เด็กเข้ามาขโมยเงินแล้ว ตนได้ข่าวจากเพื่อนบ้านว่า เด็กหญิงคนนี้ได้ใช้เงินอย่างสะพัดจนเป็นที่น่าผิดสังเกต ตนเองจึงไปตรวจสอบเงินและสิ่งของภายในบ้าน พบว่าเงินหายไปจริงๆ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน หลังจากนั้นได้ติดตามตัวเด็กหญิงคนนี้ มาสอบถาม และเด็กยอมรับสารภาพว่าเอาไปจริง

โดยนำเงินทั้งหมดไปให้กับพวกเพื่อน พร้อมกับไปซื้อมือถือไอโฟนให้กับเพื่อนรวม 11 เครื่อง จนเงินไม่เหลือแล้ว ตนพร้อมกับแม่จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยคต เพื่อให้ติดตามเงินมาคืน เนื่องจากตอนนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะเป็นเงินที่กู้ยืมมาและส่วนหนึ่งเป็นเงินเก็บ ซึ่งเตรียมจะนำไปไถ่ถอนที่ดิน ตอนนี้กลัวจะไม่ได้เงินคืนมา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมด้วย

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ทีมข่าวได้สอบถาม พันตำรวจเอก บุญเชิด จันทร์มณี ผู้กำกับการ สภ.ห้วยคต อุทัยธานี กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ทยอยเรียกผู้ต้องหา และเด็กคนอื่นๆ มาสอบปากคำ ซึ่งทราบว่าเด็กนำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้านในห้างแห่งหนึ่ง จำนวน 11 เครื่อง และส่วนหนึ่งนำเงินไปให้เพื่อนชายคนสนิท 2 คน เป็นเงิน 300,000 บาท

จากนั้นตำรวจชุดสืบสวน ได้ไปติดตามโทรศัพท์ไอโฟนได้คืนมาทั้งหมด 11 เครื่อง โดยให้เจ้าของร้านมารับซื้อคืน เพื่อนำเงินส่งคืนเจ้าของ ได้คืนทั้งหมด 120,000 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 580,000 บาท เด็กอ้างว่าใช้ไปหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีอาญา ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า เด็กอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี ถ้ากระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ อยู่ในความดูแลของสถานพินิจ

ส่วนคดีทางแพ่ง ทราบว่าผู้เสียหายได้ตั้งทนายความเข้ามาไกล่เกลี่ยกับผู้ปกครองเด็ก เพื่อให้ชดใช้เงินที่ขโมยไป แต่ถ้าไม่มีให้ก็ต้องฟ้องร้องเป็นคดีความกันต่อไป นอกจากนี้ได้ดำเนินคดีร้านที่ขายโทรศัพท์ให้กับเด็ก ในข้อหารับซื้อของโจรด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dk6LufNuZyY