สังคม
รวบ 'นักกฏหมาย' บ.ไฟแนนซ์ ลอบขายยาเสพติด ตามผับในเชียงใหม่ ผตห.อ้างมีไว้เพื่อเสพเท่านั้น
โดย chiwatthanai_t
28 ส.ค. 2566
107 views
วันที่ 28 ส.ค. 66 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและดูความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดที่จำหน่ายในแหล่งสถานบันเทิงหลายแห่งของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาหนึ่งในสองคนขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวน ส่วนอีกหนึ่งรายที่เป็นฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ ไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ไม่ยินยอมให้ปากคำและปฏิเสธข้อกล่าวหา
ภายหลังจากการสอบสวนกว่าครึ่งชั่วโมง พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ให้ข้อมูลว่า วันนี้มาติดตามและเร่งรัดคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดในข้อกล่าวหาค้ายาเสพติดเคตามีนและยาอี ซึ่งจำหน่ายตามสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาทั้งหมด 2 คน คือ นายภัทรพล อายุ 22 ปี และนายอชิรญ์วิชญ์ อายุ 42 ปี จับกุมได้เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 01.50 น.บริเวณลานจอดรถหน้าร้านพื้นที่ ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
ผู้ต้องหาในครั้งนี้ถือเป็นตัวหลักที่ขายยาเสพติดในสถานบันเทิง หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทฯ ที่ทำเกี่ยวกับไฟแนนซ์ ทำการยึดรถของบริษัทฯ และมาเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวด้วย ได้ไปซื้อยาเสพติดมาขาย ประกอบกับเปิดร้านจำหน่ายสุราบังหน้า เบื้องต้นทั้งสองรายให้การว่าซื้อมาเพื่อเสพ แต่ปฏิเสธเรื่องการซื้อมาจำหน่าย โดยข้อกล่าวหา "ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาอี) ไว้เพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท2 (เคตามีน) ไว้เพื่อการค้าอันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน" ส่วนผู้ต้องหาที่สองคือ นายอชิรญ์วิชญ์ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม "มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ด้านการขยายผลนั้น ในวันนี้ก็ได้มาเร่งรัดให้มีการสืบสวนว่ายาเสพติดนั้นมาจากไหน ใครเป็นผู้เสพ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง การจับกุมในเคสนี้ ถือเป็นเคสที่สามแล้วที่มีการจับกุมต่อเนื่องกัน ก่อนหน้านี้มีการจับกุมในเขตพื้นที่ สภ.ภูพิงค์ และ สภ.สันกำแพง ในครั้งนี้อยู่ในเขต สภ.เมืองเชียงใหม่ พฤติกรรมของผู้ต้องหาพึ่งขึ้นมาได้ 2 - 3 เดือน ส่วนลูกค้าก็เป็นกลุ่มทั่วไปที่ชอบเที่ยวสถานบริการ ร้านอาหาร ร้านเหล้า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการคุมเข้มมาโดยตลอดเรื่องของสถานบริการ การตรวจยาเสพติดบางครั้งอาจจะต้องหาเชิงลึกในด้านการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในสถานบริการ ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาทุกคน ของกลางในคดีนี้มียาเสพติดเคตามีน จำนวน 15 ซอง และยาเค จำนวน 4 เม็ด และส่วนตัวผู้ต้องหาเมื่อเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็จะนำยาเสพติดไปจำหน่ายที่นั่น บางครั้งอาจจะไม่ได้นำติดตัวไป แต่เมื่อมีคนต้องการก็ให้ลูกน้องนำไปส่งให้ ทำให้เกิดการแพร่กระจายในหลายร้านของจังหวัดเชียงใหม่
แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ต้องต่อสู้คดี ส่วนใหญ่คดีเกี่ยวข้องยาเสพติดก็จะมีทนายมาต่อสู้คดีกับผู้จับกุมอยู่แล้ว แต่ที่ต้องมาเร่งรัดคดีเพราะต้องการขยายผลถึงเครือข่ายต่างๆ ให้เรียบร้อยและรวดเร็ว