รวบ ‘อดีตนักบิน’ ลวงสาวมีเซ็กส์แล้วแอบถ่ายคลิปไปขาย ผู้ต้องหาปฏิเสธ อ้างตัวเองเป็นเหยื่อ

ตำรวจบุกรวบอดีตนักบิน หลอกลวงสาวมามีเพศสัมพันธ์แล้วแอบถ่ายคลิป นำไปขายในกลุ่มลับ พบมีคลิปที่แอบถ่ายไว้มากกว่าพันคลิป ขณะผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้ทำ อ้างเป็นเหยื่อเพราะซื้อบริการแล้วถูกแอบถ่าย

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ได้เปิดปฏิบัติการเข้าจับกุม อดีตนักบินของสายการบินแห่งหนึ่ง หลังมีผู้เสียหายแจ้งความว่า ถูกอดีตนักบินรายนี้ ซึ่งรู้จักกันทางโลกโซเชียล หลอกให้รักจนมีความสัมพันธ์กัน สุดท้ายถูกแอบถ่ายคลิป แล้วนำไปขายในกลุ่มลับ

ตำรวจได้เข้าค้นทั้งหมด 2 จุด คือ บ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามคำแหง 112 พบตัวนายภัทรวิทย์ พิพิธภัณฑ์ อยู่ภายในบ้าน ซึ่งตำรวจได้ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และฮาร์ดดิสต์ไว้เป็นหลักฐาน ส่วนจุดที่ 2 เข้าค้นที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายอรรถพล หล่าบรรเทา

พลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายมาแจ้่งความว่า ถูกนายภัทรวิทย์ ซึ่งรู้จักผ่านทางโลกโซเชียล ทั้งอินสตราแกรม เฟซบุ๊ก และทินเดอร์ โดยนายภัทรวิทย์ จะสร้างโปรไฟล์เป็นนักบินสายการบินแห่งหนึ่ง จากนั้นก็จะถูกนายภัทรวิทย์ชักชวนไปที่ห้องพักเพื่อมีความสัมพันธ์กัน

ต่อมาปรากฏว่าผู้เสียหายพบว่ามีคลิปภาพในลักษณะอนาจารไปปรากฏในแอพพลิเคชัน VK และแพลตฟอร์มอื่นๆ พร้อมกันนี้ยังมีการแปะเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของผู้เสียหาย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายภัทรวิทย์ ได้เปิดห้องพักเพื่อนัดเหยื่อมามีเพศสัมพันธ์และแอบถ่ายคลิป ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชเทวี 13 ครั้ง โดยในปี 2564 มีการเปิดห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว 7 ครั้ง

นายภัทรวิทย์ จะขายคลิปแอบถ่ายของเหยื่อในลักษณะของการเปิดรับสมาชิกในกลุ่มลับ โดยพบว่ามีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก เนื่องจากพบคลิปลับลามกมากกว่า 1 พันคลิป โดยเหยื่อเมื่อถูกถ่ายคลิปก็จะถูกกรรโชกทรัพย์ แต่หากใครไม่จ่ายเงินก็จะต้องเสียตัว

ขณะที่นายภัทรวิทย์ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนถ่ายคลิปแล้วนำคลิปไปขายหรือข่มขู่ผู้เสียหาย ส่วนผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยเป็นผู้หญิงที่ซื้อบริการ โดยมีนายหน้าอีกคนเป็นคนจัดหามาให้ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายเพราะถูกแอบถ่ายและมีภาพปรากฏในคลิป

ส่วนนายอรรถพล ยอมรับว่ารู้จักกันผ่านกลุ่มไลน์ ที่มีการซื้อบริการ

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัตินายภัทรวิทย์ พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันที่ สภ.สำโรงเหนือ และมีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม

เบื้องต้นดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลที่มีลักษณะอันลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Vi7UuIAyiUo