ชาวบ้านสะท้อนผลกระทบ หลังไฟไหม้นิคมฯมาบตาพุด พ้อปกป้องแต่โรงงาน ละเลยเยียวยาปชช.

ความเคลื่อนไหวหลังเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมีบริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินอล ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง วันนี้ตำรวจได้ชี้แจงสาเหตุที่ขอให้ญาตินำศพผู้เสียชีวิตกลับมากลับมาผ่าชันสูตรครั้งที่สอง รวมทั้งยืนยันว่าได้คืนร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติตั้งแต่ 10 โมงเช้าที่ผ่านมาแล้ว ส่วนในพื้นที่วันนี้ชาวบ้านเรียกร้องให้การนิคมอุตสาหกรรมสนใจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชนมากกว่าที่เป็นอยู่



วันนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามเหตุถังเก็บสารเคมีบริษัท มาบตาพุด แท็งค์ เทอร์มินอล ภายใน นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เกิดเหตุระเบิดและเพลิงลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านชุมชนหนองแฟบ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง



โดยมีนายอิทธิ แจ่มแจ้ง ประธานชุมชน พร้อมชาวบ้านเข้าให้ข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้กล่าวหาการนิคมว่า ปกป้องแต่โรงงาน ไม่เคยลงพื้นที่มาดู มาเยียวยาประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่มีความกังวลมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากเกิดเหตุในช่วงกลางคืนชาวบ้านจะต้องทำอย่างไร



ด้านนายยุทธศักดิ์ เปิดเผยว่า ยอมรับการเข้าระงับเหตุที่ชาวบ้านมองว่าช้า จนทำให้มีการลุกไหม้ และปะทุขึ้นมาอีกรอบยาวนาน มีผลกระทบวงกว้างขึ้น เนื่องมาจากต้องมีเป็นพื้นที่แคบ ไม่ใช่พื้นที่โล่งและการติดตั้งระบบดับเพลิงด้วย แต่ในทางเทคนิคถือว่าไม่ช้า เจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดโฟม และน้ำพยายามดับไฟอย่างเต็มที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ก็ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง ที่มองว่าการเข้าระงับเหตุล่าช้าไป แต่ยืนยันที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการปกป้องวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของ

ชาวชุมชนในพื้นที่ และเร่งรัดโรงงานต้นเหตุ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงสิ่งแวดล้อมด้วย



ด้านพันตำรวจเอกปัญญา ดำเล็ก ผู้กำกับการตำรวจภูธรมาบตาพุด ชี้แจงกรณีที่ให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาผ่าชันสูตรละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจเมื่อคืนนี้ หลังญาตินำร่างออกจากโรงพยาบาลระยอง เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จังหวัดเชียงราย และเดินทางถึงจังหวัดอ่างทองแล้วนั้น



เหตุผลที่ต้องนำร่างมาผ่าชันสูตรเพราะโรงพยาบาลระยอง ระบุผลในเบื้องต้นว่า ตกจากที่สูง แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุมีการรั่วไหลของสารเคมี ซึ่งสารที่ออกมาทำให้เกิดเพลิงไหม้อาจจะส่งผลต่อร่างกาย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอความอนุเคราะห์ญาติ นำร่างผู้ตายกลับมาผ่าที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำร่างตรวจทางพยาธิวิทยา หาสาเหตุของการเสียชีวิต โดยจะเก็บผลเลือด เขม่าจากปอด และเก็บตัวอย่างทางผิวหนัง และของเหลวตามร่างกายว่าได้รับสารเคมีหรือไม่ และมีผลอย่างไรต่อร่างกาย ก่อนที่จะตกลงมาจากที่สูงหรือไม่



โดยร่างของผู้เสียชีวิตมาถึงสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ประมาณ 4 ทุ่ม จากนั้นแพทย์ได้ผ่าชันสูตรและเก็บตัวอย่างสารต่างๆในร่างกาย และญาติก็รับร่างของผู้เสียชีวิตกลับไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 10 โมงเช้าที่ผ่านมา



ส่วนผลของการผ่าพิสูจน์ ทั้งของเหลวในร่างกาย ผลเลือด ปอด กระเพาะอาหาร หลอดลม และผิวหนัง ยังต้องรอส่งตรวจห้องปฏิบัติการโดยละเอียดก่อน