สังคม

ถอดบทเรียน ผู้แบกรับผลกระทบที่ดินทำกิน จากโรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง

โดย parichat_p

12 พ.ค. 2567

70 views

โรงงานวิน โพรเสส จังหวัดระยอง ทำให้ชีวิตของนายเทียบ สมานมิตร เกษตรกรบ้านหนองพะวา เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นหนึ่งในหลายคน ที่ผืนดินเสื่อมโทรมไปมากจากสารเคมี แต่การทำสวนเกษตรก็เป็นส่วนเดียวที่จะเยียวยาความทุกข์ใจและความเครียดเขาได้ นายเทียบ จึงตัดสินใจลงทุนซื้อดินจากที่อื่นมาปลูกต้นไม้และปลูกหลายชนิดเพื่อให้ธรรมชาติคัดสรรว่า ต้นที่แข็งแรงก็มีโอกาสจะอยู่รอด วิธีนี้แม้ไม่ช่วยให้มีรายได้ดีขึ้น แต่ช่วยให้ไม่ต้องเครียด ที่ยังเห็นต้นไม้เติบโตขึ้นมาได้


เดิมทีเดียวยางพาราเป็นพืชชนิดเดียวที่นายเทียบ สมานมิตร ปลูกไว้บนที่ดินแปลงนี้เนื้อที่ราว 37 ไร่ และเป็นพืชหลักที่สร้างรายได้ให้นายเทียบ ที่อายุเลยวัย 60ปีมาแล้ว


แต่หลังจากโรงงานวินโพรเสส มาซื้อโรงงานร้าง ต่อจากกิจการทำปลอกสายไฟที่เจ๊งไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่นั้น นายเทียบ ก็กังวลว่าอาชีพและวิถีชีวิตของเขาอาจได้รับผลกระทบจากการตตั้งกิจการรีไซเคิลขยะ


ความกังวลใจของนายเทีบบ ไม่เกินจริง เพราะตั้งแต่ปี 2556 หรือ10 กว่าปีมาแล้ว อยู่ๆบ่อดินกักเก็บน้ำไว้ใช้ในของนายเทียบ เต็มไปด้วยน้ำสารเคมี สีดำเข้ม เจ้าหน้าที่มาตรวจพบฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง ต้นยางพารารอบสวนนายเทียบ ทะยอยยืนต้นตาย


ในเวลาไล่เลี่ยะกัน ต้นยางอีกจำนวนมากทะยอยตายเพิ่มขึ้น แม้แต่ไม้ยืนต้นอย่างกระถินเทพา ที่ปลูกไว้ใช้สอยเนื้อไม้ ก็แห้งตาย


ตลอดหลายปีมีหลายหน่วยงานมาช่วย ทั้งในแง่การบำบัดน้ำเสีย การพยามกำจัดสารในโกดัง และการฟ้องร้องให้วินโพรเสส เยียวยา ซึ่งแต่ละเรื่องดังกล่าว ล้วนแต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาดำเนินการ และยังไม่มีแนวทางชัดเจนเรื่องการฟื้นฟูสภาพดินของลุงเทียลและชาวบ้านคนอื่นที่ได้รับผลกระทบ


ลึกๆแล้วลุงเทียบเป็นเกษตรกรที่ไม่ต้องการต่อสู้กับใคร แม้แต่ในการฟ้องร้องคดีทางแพ่งที่เขาเป็นโจกท์ที่ 1 ในบรรดา 15 คนนั้น เขาฟ้องเพราะหวังว่าจะมีการฟื้นฟูที่ดินเขาและที่สาธารณะ แต่วันนี้ชนะคดีมาเกือบ 3 ปี มีตัวเลขจะได้เงินชดเชยให้ทุกคนรวมกันประมาณ 20 ล้านบาท ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เหลือผู้ฟ้อง 13คน แต่ยังไม่มีสักคนได้เงินชดเชยแม้แต่บาทเดียว


ตอนนี้ลุงเทียบ เลือกที่จะฟื้นฟูหัวใจการเป็นเกษตรกรของเขาด้วยการกลับมาปลูกพืชสวนอีกครั้ง เขาบอกว่า ใต้ผืนดินลงไปราวๆ 3 เมตร น่าจะมีสารเคมีปนเปื้อนแล้ว - ลุงเทียบ จึงไปซื้อหน้าดิน จากที่อื่นเที่ยวละ 700 บาท ปลูกต้นไม้ได้ 2 ต้น นำดินมากองทั่วสวนแล้วปลูกไม้ผลหลายชนิด จากนั้นก็ขุดร่องสวนเพื่อดักน้ำเสีย ไม้ผลหลายชนิดที่ลุงเทียบปลูก ถูกตัดรากแก้ว ให้เหลือเพียงรากฝอย เพื่อจะได้ไม่หยังรากลงลึกถึงใต้ดินที่ปนเปื้อน


ไม้ผลหลายชนิดของลุงเทียบ เริ่มเห็นผล ทุเรียนอายุ 3 ปี หลายต้นเติบโตดี มะม่วงสายพันธ์จากญีปุ่น ไต้หวัน หรือสายพันธ์ไทยอย่าง เขียวใหญ่ น้ำดอกไม้ ก็โตดี น้อยหน้าเพชรปากช่อง หรือมะขามเทศเพชรโนนไทย ก็โตดี ลุงเทียบบอกว่า มันเป็นสวนที่เยียวยาจิตใจไม่ให้ห่อเหี่ยว เมื่อเทียบกับสวนที่ปนเปื้อนสารเคมี


วันนี้ลุงเทียบ แทบไม่มีความหวังว่าในชีวิตที่เหลืออยู่ ที่จะเห็นการฟื้นฟูผืนดินอาบสารเคมีนี้ให้กลับมาชีวิตอีกครั้งหรือไม่ แต่ลุงเทียบ เหมือนคนอื่นๆในหมู่บ้านยังหวังเต็มเปี่ยมว่า อย่างน้อยก็ว่าสารเคมีที่นี่ถูกย้ายออกไป เพื่อที่จะมีความหวังว่า ที่ดินที่จะเป็นมรดกตกถึงลูกหลานของเขา ไม่ใช่มรดกที่ปนเปื้อนสารเคมี

คุณอาจสนใจ

Related News