ไฟไหม้ถังสารเคมีมาบตาพุด ชาวบ้านป่วยหนักเกือบ 100 คน ทารก 8 เดือน เม็ดเลือดแดงแตก

จากเหตุเพลิงไหม้โรงงานในจังหวัดระยองเมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) ทำให้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบด้านสุขภาพเกือบ 100 คน ในจำนวนนี้เป็นทารกวัย 8 เดือน เม็ดเลือดแดงแตก เพราะสูดดมควันพิษ



ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้วหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แทงก์สารเคมีในนิคมมาบตาพุด จังหวัดระยอง แม้จะสามารถควบคุมเพลิงได้แล้วตั้งแต่เย็นวานนี้ (9 พ.ค.) พบแท็งก์สารเคมี 1 แทงก์เสียหายทั้งหมด ส่วนอีกแท็งก์ที่อยู่ใกล้กันถูกเปลวไฟได้รับความเสียหายบางส่วน เหตุการณ์นี้ผู้บาดเจ็บ 3 คน คือ นาย ณิชฌาน ติ๊บประสอน นายโชคชัย ชูชุ่ม และนายจักรลักษณ์ ถิ่นระแก้ว นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นาย นพพร เรือนมา ทั้งหมดเป็นพนักงานของโรงงานที่ขึ้นไปตรวจสอบแทงค์ขณะเกิดเหตุ



แต่วันนี้มีประชาชนโดยรอบพื้นที่โรงงานทยอยเดินทางไปตรวจสุขภาพที่ศาลาเอนกประสงค์ข้างวัดตากวน ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตั้งแต่เช้า หลังเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรม ร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้นำบุคลากรกรทางการแพทย์ มาตั้งโต๊ะเพื่อให้บริการตรวจสุขภาพ



ทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณแม่พาทารกวัย 8 เดือนมาเข้ารับบริการ ซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดว่า น้องมีอาการตาแดง น้ำตาไหล สอบถามคุณแม่ ทราบว่า น้องอาเจียนหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ และตาแดง ซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจแล้ว แพทย์บอกว่า มีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ซึ่งเกิดจากการสูดดมสารเคมี และตัวคุณแม่เองก็มีอาการอาเจียนเป็นเลือดด้วย



เช่นเดียวกับนางสาว นุชนารถ ชัยมงคล 1 ในประชาชนที่มาเข้ารับบริการ บอกว่า บ้านของเธออยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงแค่มีคลองกั้นเท่านั้น จึงได้กลิ่นเหม็นค่อนข้างแรง หลังเกิดเหตุแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เริ่มมีอาการแสบคอ แสบตา ตาแดง และน้ำตาไหลตลอดเวลา เมื่อคืนนี้ซื้อยาหยอดตามาหยอดแต่ไม่ดีขึ้น เช้าวันนี้จึงมาตรวจและเจ้าหน้าที่ทำเรื่องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมาบตาพุด แต่ก็ยังกังวลว่าอาจจะมีอาการข้างเคียงมากกว่านี้



ตั้งแต่เวลา 08.30-13.00 น. ได้มีประชาชนเข้ามารับบริการตรวจสุขภาพแล้ว 190 ราย โดยพบว่า เป็นกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง 43 ราย คือ มีอาการไอเล็กน้อย เจ็บคอ มีผื่นขึ้น แสบตา และกลุ่มที่มีอาการรุนแรง 67 ราย คือ มีอาการอาเจียน ปวดศีรษะ ซึ่งกลุ่มนี้ต้องทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนอีก 80 ราย พบว่าไม่มีอาการ แต่มาตรวจสุขภาพเพราะมีความกังวล



และอีก 1 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน คือ กลุ่มชาวประมงเรือเล็กตากวน อ่าวประดู่ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ มีอาชีพจับสัตว์ทะเลไปขายปรากฎว่าชาวบ้านบอกว่าเหตุการณ์เมื่อวานทำให้ขาดทุนกันยับเยิน ขายของไม่ได้ ต้องเททิ้ง และหลังเกิดเหตุของก็จะขายยากขึ้น เพราะคนกังวลว่า อาหารทะเลจะมีสารเคมีปนเปื้อนหรือไม่ ดังนั้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Th7DjCwpPOY