ปชช.ใกล้โรงงานระยองไฟไหม้ กว่า 50 ราย ป่วยเข้ารพ. แม้จนท.ยันผลตรวจน้ำ-อากาศ ปกติ

จากเหตุโรงงานเก็บสารเคมีระยองไฟไหม้ ตอนนี้ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติใน 2 ตำบล คือ ตำบลบางบุตร และตำบลหนองบัว ซึ่งได้จัดให้มีศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ อบต. ทั้ง 2 แห่ง มีหน่วยปฐมพยาบาล จนถึงตอนนี้มีประชาชนเข้ามาขอรับการตรวจรักษาแล้ว 55 ราย ส่วนมากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน



เมื่อถามถึงแผนการฟื้นฟูหลังจากนี้ เพราะเคยมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกากสารเคมีในโรงงานมาตลอด นาย กัฬชัย ระบุว่า เป็นความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งทางจังหวัดจะคอยกำชับ หากไม่ทำตามก็อาจต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่วนในพื้นที่จะมีโรงงานลักษณะเดียวกันนี้อีกกี่โรงงานที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ ได้ถามทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ



จากประเด็นนี้ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ภายในบ้านหนองพะวา หมู่ 4 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานที่เกิดเหตุ พบป้ายข้อความ "ชาวบ้านหนองพะวา ให้ขนย้ายของเสียอันตรายออกไป รัฐต้องเร่งฟื้นฟูแผ่นดินแหล่งน้ำกลับมา"



ชาวบ้านที่เป็นหนึ่งผู้เรียกร้องเรื่องนี้ เล่าว่า ป้ายนี้ชาวบ้านได้นำมาติดไว้นานหลายปีแล้ว คัดค้านโรงงานที่ปล่อยของเสียออกมาจนชุมชนได้รับผลกระทบมา โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2564 ชาวบ้านเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำเน่าเสีย ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายหลายสิบไร่ และคนที่ใช้น้ำก็มีอาการแพ้เป็นผื่นคัน จึงพากันไปตรวจสอบก็พบสภาพน้ำเสีย ที่น่าจะมีการปนเปื้อนจากสารเคมี ที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานนี้



จนกระทั่งประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว ชาวบ้านเคยรวมตัวกันเข้าไปพูดคุยเจรจากับทางเจ้าของโรงงาน ให้ขนย้ายของเสีย และสารเคมีออกไปให้ ทางโรงงานก็รับปาก ซึ่งชาวบ้านก็เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอด ก็เห็นรถขนสารเคมีขับเข้าออกตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวานนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าสารเคมีทั้งหมด ไม่เคยถูกนำออกไป และยังอยู่ในสภาพที่เป็นการจัดเก็บที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย



ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมอนามัยเก็บตัวอย่างน้ำ จากอ่างเก็บน้ำประปาในพื้นที่หมู่ 4 / หมู่ 8 / และหมู่ 11 ตำบลบางบุตร แล้วนำมาตรวจสอบ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คุณภาพน้ำยังอยู่ในระดับมาตรฐาน ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่ามีการปนเปื้อนสารเคมี



ส่วนสภาพอากาศโดยรอบโรงงานนายสุนทร อุปมาณ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยภายหลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศในช่วงเช้าว่าบริเวณท้ายลม รัศมี 4-5 กิโลเมตร ยังคงได้กลิ่นสารเคมีอยู่ แต่ถือว่าคุณภาพอากาศดีกว่าเมื่อวานนี้ เนื่องจาก เปลวเพลิงได้ลดลงแล้วเหลือเพียงแต่กลุ่มควันบางๆ ซึ่งอากาศถือว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประชาชนสามารถที่จะกลับเข้าที่พักได้ แต่อาจจะยังได้กลิ่นสารเคมีบ้างไปจนกว่าควันจะหายไปทั้งหมด



ซึ่งจากสถานการณ์ไฟไหม้โรงงานสารเคมีที่ จ.ระยอง ก่อนประชุม ครม.วันนี้ นักข่าวไปถาม พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าตัวบอก ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีความผิดสังเกตอะไร ตรวจสอบแล้วสภาพอากาศก็ปกติ ไม่เป็น อันตรายกับประชาชน



พลตำรวจเอก พัชรวาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นให้กรมควบคุมมลพิษ ไปตรวจสอบสภาพอากาศ ในพื้นที่ตั้งแต่ 300 เมตร ถึง 10 กิโลเมตร พบว่าสภาพอากาศเป็นไปตามมาตรฐานปกติ ไม่เป็น อันตรายกับประชาชน ส่วนเรื่องความไม่ชอบมาพากล ว่าไหม้จริง หรือจงใจทำลายหลักฐานนั้น ก็ได้ให้กรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบแล้ว และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีความผิดสังเกตอะไร



นักข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะมีปัญหาสารเคมีรั่วไหลในหลายพื้นที่ พลตำรวจเอกพัชรวาท ย้ำอีกว่าให้ กรมควบคุมมลพิษดูแลอยู่ ปัจจุบันโรงงานมันเยอะ แต่ได้มีการสั่งการไปแล้ว



แล้วเรื่อง แอมโมเนียรั่วที่ชลบุรี ก่อนหน้านี้ มีปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ พลตำรวจเอกพัชรวาท บอกว่า "เอ๊ ไม่มีนะ"



นักข่าวถามอีกว่า อยากบอกพี่น้องประชาชนยังไงบ้าง เพราะตอนนี้หลาย หวาดกลัว พลตำรวจเอกพัชรวาท บอกว่า ถ้าประชาชนอยู่ใกล้ๆโรงงานอันตราย ในพื้นที่ เขาคงระวังตัวอยู่แล้ว ซึ่งเราก็พยายามเตือนอยู่แล้ว



ผลกระทบจากโรงงานสารเคมีไฟไหม้ ล่าสุดพบมีชาวบ้านเริ่มมีอาการคัน บางคนแพ้เป็นผื่นจุดแดงดำ ด้าน ผอ. โรงพยาบาลแนะนำวิธีป้องกันตัวเองให้รีบอาบน้ำสบู่



นายแพทย์ ภาณุวัฒน์ มุกดาสนิท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านค่าย จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ออกมาอยู่ที่ศูนย์อพยพก่อน และมีประชาชนบางส่วนที่ ยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ ตนก็แจ้งให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่้อป้องกันสารเคมี และการสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และถ้าหากไปสัมผัสสารถูกสารเคมี แล้วเกิดมีอาการคัน เบื้องต้นให้รีบอาบน้ำสบู่ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์ทันที



ขณะที่ชาวบ้านหลายรายเริ่มมีอาการคัน ขึ้นผื่นตามผิวหลัง บางรายสูบดมอากาศเข้าไปแล้ว รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็น อย่างเช่น นางสาวบุญชื่น โชติภักดี ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ เล่าว่า ตนก็เริ่มมีอาการคันตามผิวหนัง ทั้งที่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่โรงงานที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งตนอยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ยังมีอาการคันตามผิวหนัง และมีกลิ่นติดเสื้อผ้า



น.ส.บุญเรือน เมือนแสน อายุ 63 ปี บอกว่า บ้านอยู่ใกล้กับโรงงานที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโล. ที่บ้านมีสามีเป็นผู้ป่วยติดเตียง เวลาตนเดินออกไปนอกบ้านจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นที่โชยมาตามลม ลมพัดมาแล้วพัดผ่านไป เพราะบ้านอยู่เหนือลม แต่ถ้าได้สูบดมกลิ่นนานกว่านี้ก็อาจจะเป็นลมแน่ๆ



ซึ่งขณะนี้มี 2 ตำบลที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ คือตำบลบางบุตร กับตำบลหนองบัว ของอำเภอบ้านค่าย จำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากสูดดมกลิ่นควัน มี 55 คน บางคนมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน แต่ก็อาการดีขึ้นแล้ว และทยอยกลับบ้านกันหมดแล้ว

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ZYDM6r-j-Cs