สังคม

ยังมีควันพร้อมปะทุ! เข้าสู่วันที่ 6 ไฟไหม้โรงงานสารเคมีระยอง – เร่งชันสูตรชายดับปริศนา บ้านห่างโรงงาน 8 กม.

โดย thichaphat_d

27 เม.ย. 2567

105 views

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เข้าสู่วันที่ 6 ยังไม่สงบ ยังคงพบกลุ่มควันไฟพร้อมจะปะทุตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณโกดังที่ 5 มีกลุ่มควันไฟเกิดขึ้นเป็นจุดๆ จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำสเปรย์ ป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่า ใต้พื้นล่างมีช่องสี่เหลี่ยม ขนาดตั้งแต่ 1 เมตรคูณ 1 เมตร ซึ่งเป็นเป็นบ่อสำหรับเก็บสารเคมีสารกัดกร่อนที่ไม่สามารถเก็บในถังได้มีหลายบ่อ ประกอบกับพื้นที่ข้างล่างไม่รู้มีสารเคมีอะไรบ้างที่ทับถมกัน โดยเฉพาะร่องน้ำข้างกำแพงโกดังพบมีกลุ่นควันจำนวนมากด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ยังไม่มอดสักที

ด้านทีมดับเพลิงเช้านี้ ได้เตรียมใช้อุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า spear pice เสียบลงไปด้านล่างกองสารเคมีบริเวณโกดังที่ 3 พร้อมกับเร่งฉีดสารดับเพลิง f-500 ให้สารอะลูมิเนียมดรอสจับตัว เพื่อลดอุณหภูมิภายในให้ความร้อนที่อยู่ด้านล่างลดลง ทิ้งไว้ 15-20 นาทีต่อจุด จะทำให้สามารถดับได้

ย้อนไปเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ มาตรวจกองสารเคมีในโกดังที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างกากตะกรันอะลูมิเนียมมาตรวจสอบด้วย เพื่อให้สามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล รวมทั้งจะมีนำปูนขาวหรือหิน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าดินและทรายเข้ากลบในโกดัง 3 อีกด้วย  ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน ระดมกำลังและเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ เร่งดับไฟ เนื่องจากวันนี้ (27 เม.ย.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์

ขณะที่บริเวณวัดหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการนำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา หรือโดรนภาคพื้นชื่อ วรนภา เตรียมเข้าช่วยทีมดับเพลิงในการปฏิบัติการดับเพลิงครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังทีมแพทย์ รพ.บ้านค่าย รพ.ระยอง มาตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพประชาชน และมีหน่วยงานต่างๆ มาเตรียมความพร้อมรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายวันนี้อีกด้วย

ในส่วนของ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรมเดินทางไปตรวจสอบโกดังเก็บสารเคมีดังกล่าว จากนั้นเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมาก เพราะมีสารเคมีชนิดต่างๆจำนวนมาก อีกทั้งอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาของศาลปี 64 ให้บริษัท วิน โพรเสสดำเนินการกำจัด ทั้งหมด แต่กว่าจะดำเนินการจริงจังก็ต้นปี 65 อ้างว่าหาผู้รับเหมาที่เหมาะสมไม่ได้ กระทั่งเกิดความล่าช้าจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการวางเพลิงชัดเจน มีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ส่วนโรงงานแห่งนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมย้ำกับวินโพรเสสให้จัด รปภ.เข้าเวรยามตลอดเวลาและติดกล้องวงจรปิดเอาไว้จะไปตรวจดูว่าช่วงเวลานั้นมีใครเข้าออกบ้าง เป็นประเด็นที่จะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยได้

“จากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะทำ 2 เรื่องคือเรื่องแรก เดิมโรงงานแห่งนี้ต้องคำพิพากษาของศาลจะขอให้อัยการจังหวัดยื่นขอแถลงศาลขอเปลี่ยน แปลงวิธีการจัดการให้กรมโรงงานฯเข้ามาดำเนินการจัดการเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ และสารเคมีในโรงงาน อันนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และ 2.การบริการจัดการงบประมาณที่จำเลยนำเงินไปวางที่ศาล ขอให้กรมโรงงานฯเป็นผู้จัดการ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการจัดการกับสารเคมีภายในโรงงาน ทั้งที่ไหม้ไปแล้วและยังไม่ไหม้” นายจุลพงษ์กล่าว

-----------------------

พบชาย วัย 43 ปี เสียชีวิตในบ้าน อยู่ใต้ลมห่างจากโรงงานสารเคมีไฟไหม้ 8 กม. แต่กรีดยางห่างจากโกดัง 3-4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เร่งชันสูตรหาสาเหตุการตาย

วานนี้ (26 เม.ย.67) ตำรวจ สภ.หนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักกลางสวนยางพารา พื้นที่ ม.8 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ  

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ปลูกอยู่กลางสวนยาง ในห้องนอนพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายทัศพงษ์ พันธ์ยิ่งยศ อายุ 43 ปี สภาพศพสวมกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อกีฬานอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผล

สอบสวน นางศรัญญา การุณ อายุ 48 ปี พี่สะใภ้ผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองระยอง และมีงานเสริม คือ ไปกรีดยางที่สวนยาง ห่างจากโรงเก็บสารเคมีที่ไฟไหม้ ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก่อนจะพบเป็นศพ ช่วงหัวค่ำวันที่ 25 เม.ย.67 ผู้ตายยังปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย และไม่มีโรคประจำตัว โดยนั่งรับประทานอาหารเย็นกัน ก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน พอตื่นเช้ามา คิดว่าผู้ตายตื่นสาย จึงจะไปปลุก แต่พบว่าตัวซีดเหลือง ตาเหลือก ตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.ท.สมชาติ สังข์เงิน หัวหน้างานสอบสวน สภ.หนองกรับ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการตาย แต่จากการดูสภาพพบผู้ตายนอนหลับแล้วตายไปเลย โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลตามร่างกาย ทั้งนี้ จะส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.บ้านค่าย เพื่อสาเหตุการตาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานไฟไหม้หรือไม่ เพราะชุมชนดังกล่าวอยู่ใต้ลม อยู่ห่างจากโรงงานสารเคมีไฟไหม้ 8 กม.


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/RSVBnoa0-oE

คุณอาจสนใจ

Related News