สังคม

'คุณแก้ม' เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ขอโทษคู่กรณีทั้ง 3 ร้าน ทั้งน้ำตา ที่ไปยื่นโนติส ชี้แค่อยากผลักดันให้ชาไทยมีคุณค่า

โดย weerawit_c

2 ก.ย. 2566

715 views

วานนี้ (1 ก.ย.) คุณแก้ม กาญจนา ทัตติยกุล ผู้ก่อตั้งผู้ก่อตั้งแบรนด์ Pang Cha (ปังชา) เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ออกมาขอโทษพร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ ให้กับเจ้าของร้านรายย่อยที่ใช้ชื่อว่าปังชา ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งโดนเรียกเงิน 102 ล้านบาท และมีอีก 2 รายที่จังหวัดสงขลา จากกรณีดราม่า ‘ปังชา’ สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ และมีการยื่นโนติสอ้างว่าจะมีการฟ้องร้านค้าต่าง ๆ ที่ใช้คำว่าปังชาด้วย  ซึ่งเจ้าตัวเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล


คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ้าของร้านทั้ง 3 ร้าน ที่ไปยื่นโนติส ว่า  “ตรง ๆ จากใจเลยนะค่ะทุกท่าน ด้วยบารมีขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พ่อขุนเม็งราย ด้วยบรามีของหลวงปู่ทวด วัดห้วยปลากั้ง องค์พระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม พี่ไม่ได้โกหก พี่ไม่ได้เฟค พี่ขออโหสิกรรม พี่ขอโทษ พี่ขอขมาน้อง  ๆ ทั้งทางใต้สงขลา หากความผิดพลาดที่พี่ทำด้วยความตั้งใจสร้างแบรนด์เพื่อประเทศไทย ไม่ใช่ เพื่อตัวเองคนเดียว แล้วมันทำให้น้อง ๆ มีความทุกข์ พี่ขอรับผิดเพียงคนเดียว สิ่งที่พี่ทำทั้งหมดไม่ได้มีความตั้งใจจะทำร้ายคนรวยหรือคนจน”


คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ระบุอีกว่า ตนเองทำไปเพราะแค่อยากผลักดันให้ชาไทยมีคุณค่า มีแบบอย่างที่ดี การยื่นโนติสไปยังร้านเล็ก ๆ นั้น แม้ว่าจะมีการระบุจำนวนเงิน แต่ด้วยความสัจจริง ตนไม่คิดเก็บเงินร้านเล็ก ๆ เลยสักบาท พร้อมระบุว่า “พี่เก่งนะคะ ถ้าพี่ช่วยเหลือน้อง ๆ ได้ ในการสร้างแบรนด์ พี่จะเอาภูมิปัญญาที่พี่รู้ที่มาทำลายตัวพี่ในวันนี้ พี่อยากช่วย ให้พี่ช่วยสอนก็ได้พี่ยินดี เพื่อเป็นการชดเชย”


คุณแก้ม กล่าวว่า ตนทุ่มเทมาด้วยความคิดและมันสมอง ยืนยันว่า ตนไม่สามารถทำธุรกิจจากการลอกเลียนแบบใครได้ โดยคุณแก้มยังได้ร้องไห้กล่าวถึงความพยายามในการสร้างแบรนด์ของตัวเอง ยืนยันว่าถ้วยทองเหลืองที่ไปจดลิขสิทธิ์ มันมาจากภูมิปัญญา มาจากการคิดค้น ด้วยความคิดของตัวเอง เราเสียใจที่สุดที่ตอนนี้มันไปอยู่ในมือของต่างชาติ


การจดสิทธิบัตร เจ้าหน้าที่เซ็นเขาตรวจสอบหมดแล้ว ตนต้องการเรียกร้องสิทธิ์ “ถ้วยทองเหลือง” นั้น คนไทยใช้ได้หมด ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา 3 วันแล้ว ถ้วยใบนั้นเป็นงานทองเหลืองของไทย กว่าจะตีได้ หล่อได้ ทุกอย่างออกแบบมาจากตน ตนไม่สามารถทำธุรกิจจากการก๊อปปี้ วันนี้ถ้วยใบนั้นไปอยู่กับคนต่างชาติแล้ว


คุณแก้ม กล่าวว่า ตนทำงานมาด้วยเงิน 8,000 บาท ตนต้องการสร้างแรงบันดาลใจ และให้คุณค่ากับเครื่องหมายการค้า ตนเชื่อในภูมิปัญญาที่คนไทยมองข้าม วันที่ตนไปจดสิทธิบัตร เพราะตนมองว่า สักวันต่างชาติต้องเอาชาไทยไปเหมือนต้มยำกุ้ง ตนทำด้วยความศรัทธา ตนมองว่าทุกคนต้องมีเครื่องหมายการค้าของตัวเอง ไม่อย่างนั้นทุกคนจะทำธุรกิจของตัวเองอย่างไร


ตนต้องการให้เครื่องดื่มไทยมีคุณค่า พอแต่งงานและได้โอกาสทำธุรกิจทำอาหาร จึงทำทุกอย่างเพื่อจดแบรนด์ การจดสิทธิบัตรเป็นการเรียนรู้ ลิขสิทธิ์สำคัญกับทุกอย่าง เช่น มะพร้าว ทุเรียน ที่กลายไปเป็นของประเทศอื่นแล้ว หากตนจะโดนก็ขอให้เป็นบทเรียน แต่ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของสิทธิ์บัตรและเครื่องหมายการค้า ที่ตอนนี้ถ้วยของตนถูกต่างชาติเอาไปแล้วแต่คนบอกว่า ตนกลับไปก๊อปปี้คนอื่น


คุณแก้ม ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องโลโก้ว่าไม่ได้มีเจตนาเรื่องการก๊อบปี้ลายของสุรายี่ห้อดัง โดยตนได้จ้างบริษัทให้ออกแบบ และต้องการให้แสดงออกถึงความเป็นไทย แต่ไม่รู้ว่าบริษัทที่ออกแบบเอาจากไหน ส่วนในตอนประชุมเป็นคนบรีฟเองว่าคอนเซปต์ ได้บอกว่าเราชอบศิลปะแบบไทย ๆ ชอบแนวทางคล้าย ๆ กับรีเจนซี่ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแบบใคร โดยใช้ภาพของตัวคุณแก้มเองเป็นต้นแบบ ซึ่งคุณแก้มไปใส่ชุดไทยถ่ายแบบ มีคลิปทั้งหมด  


พร้อมบอกว่า “ตอนนี้ทุกคนใช้คำว่า ปังชาได้เลย ฝากถึงประเทศไทยให้ช่วยกันทำชาไทย”  ตนเองทำไปอยากผลักดันให้ชาไทยมีคุณค่าถึงได้บ้าเรื่องลิขสิทธิ์จนเกินไป ยินดีชดเชยจากความรู้และภูมิปัญญาที่มี


เมื่อถามว่า ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นจะรับเงินจริงไหมและจะยื่นฟ้องทุกร้านที่มีคำว่าปังเย็นหรือไม่ คุณแก้ม ยืนยัน ไม่เคยคิดจะรับเงินแม้แต่บาทเดียว แก้มหาได้แต่สิ่งที่ส่งโนติสเรามองเรื่องภูมิปัญญา เรามองน้อยไปหน่อย รู้สึกผิด ที่ทำให้พี่นอนไม่หลับ ไม่ได้อยากไปรังแกหรือแกล้งร้านเล็ก ๆ เป็นความผิดของพี่โดยตรง


ส่วนตัวเลขมองในเรื่องของสิทธิบัตร และแบรนด์ดิ้งอย่างเดียว หลังกการในการตั้งตัวเลข ตนไม่อยากมานั่งอธิบายในนี้ ส่วนถ้าร้านทั้ง 3 ร้านจะฟ้องกลับ จะทำอย่างไรนั้น คุณแก้ม ตอบว่า ยอมรับในสิ่งที่ตัดสินใจ ยินดี ถ้าจะฟ้องกลับ ส่วนที่อยากให้ช่วยเยียวยา ชดเชยอะไรบ้าง ขอให้บอกมา


ขณะที่นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของฝั่งร้านลูกไก่ทอง ยอมรับว่า มีการออกโนติสไปจริง และก็คงต้องขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้ แต่ก็ต้องขอให้สังคมเข้าใจว่า เราทุกคนล้วนได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายเดียวกัน ก็คือกฎหมายในเรื่องลิขสิทธิ์


ทนายยืนยันว่า คำว่า “ปังชา” ที่ทางบริษัทไปจด มันได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย มันจดลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาได้ เพราะแบรนด์นี้ สินค้านี้ ถูกขายถูกใช้จนแพร่หลาย มันพิสูจน์มาแล้ว จนผ่านการขออนุญาต ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทั้งหมด


สำหรับร้านต่าง ๆ ที่ใช้ชื่อปังชา ซ้ำกับชื่อร้านที่เราไปจดลิขสิทธิ์ ถ้าเขาไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คนสับสนเข้าใจผิด เราก็ไม่มีเจตนาจะเรียกเงินจากเขา หากมันทำให้เขาเสียขวัญ หรือเกิดความตกใจ ทางเราต้องขอโทษ และเสียใจต่อเหตุการณ์นี้


ส่วนเรื่องภาชนะถ้วยที่ใส่ กรณีของร้านคุณนุ๊ก ที่บอกว่าซื้อมาจากจตุจักร ทางทนายบอกว่า ภาชนะแบบที่ร้านของเราไปจดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นไอเดีย เป็นการออกแบบ ที่ได้รับความคุ้มครอง เพราะฉะนั้นการใช้ภาชนะที่ดูแล้วมีความคล้าย หรือดูแล้วตั้งใจทำให้คล้ายหรือสับสน เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน


ทนายอรรณนพ ยืนยันว่า ทางเราตั้งใจจะเจรจากับทุกคน หลายร้านมีการออกจดหมาย ออกโนติสไปก่อนหน้า โดยไม่ได้มีเนื้อหาเข้มข้นแบบนี้ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ต้องส่งไปใหม่ให้มีความเข้มข้นกว่าเดิม ยืนยันว่าต้องการพูดกันในฐานะมนุษย์ ก่อนที่จะใช้กฎหมายมาบังคับอยู่แล้ว


ทีมข่าวพยายามสอบถามคุณแก้มเพิ่มเติม แต่ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ เพิ่มเติม โดยเจ้าตัวยังคงมีสีหน้าและท่าทางที่อิดโรย และร้องไห้เป็นระยะ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเดินทางกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ


ขณะที่ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ภาพกระเช้าดอกไม้ที่วางอยู่ในสตูดิโอถ่ายทำรายการ พร้อมเขียนข้อความว่า "แขกที่รับดอกไม้ขอโทษลืมดอกไม้ไว้ทั้งหมดเลย สงสัยไม่สะดวกเอาขึ้นเครื่อง" พร้อมเขียนเพิ่มเติมว่า "เขาแค่ลืม คงไม่ใช่เขาไม่เอาดอกไม้หรอกมั้ง"



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/SEb81WlAkv8

คุณอาจสนใจ

Related News