ข่าวโซเชียล

‘หมอปาย’ ยอมรับ คำขอโทษ ฝากคู่กรณี ควรเคารพซึ่งกันและกัน

โดย attayuth_b

1 มี.ค. 2567

129 views

‘พญ.ธารดาว’ เปิดใจ หลังคู่กรณีชาวต่างชาติ ขอโทษหากมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เผยหลายข้อมูลที่คู่กรณีแถลง ขัดแย้งกับคำพูดในวันเกิดเหตุ


พญ.ธารดาว จันทร์ดำ หรือ หมอปาย เปิดใจหลังคู่กรณีชายชาวต่างชาติ และภรรยา ยกมือไหว้ขอโทษออกสื่อว่า ส่วนตัวตนเองยอมรับคำขอโทษดังกล่าวไว้ หากเป็นการขอโทษที่มาจากความจริงใจ จิตสำนึกลึกๆ ของเค้าก็ยินดีรับไว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ว่ากันตามกฏหมาย

และตนเองดูแถลงข่าวของคู่กรณีบางช่วงบางตอน เช่น ประเด็นที่ชาวต่างชาติยืนยันว่าเป็นการสะดุด และมีภาพบาดแผลนิ้วเท้ามาให้สื่อดู ส่วนตัวคุณหมอมองว่าอย่างไร คุณหมอถามกลับว่าถ้าหากสะดุดล้ม คนเราจะอุทานจะพูดว่าอย่างไร ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะพูดเป็นคำยาวๆ (get the fu*k of) ส่วนเรื่องที่ว่าเท้าสะดุดล้มนั้น นิติวิทยาศาสตร์เป็นตัวที่บอกได้อยู่แล้วว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง ส่วนตัวก็ยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสะดุดล้มเป็นการเข้ามาเตะตนเอง

สำหรับประเด็นที่ภรรยาของชาวต่างชาติหวาดกลัว เพราะก่อนหน้ามีชาวจีนเดินขึ้นมา ตนเองมองว่า ถ้าไม่อยากให้คนนั่งอยู่หน้าบ้าน ส่วนตัวจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดู แต่หากเห็นว่าเป็นผู้หญิงสองคน ก็อาจสอบถามดีๆ หรือเดินเข้ามาบอกก็ได้ว่าไม่อยากให้นั่ง

ส่วนประเด็นเรื่องการพูดภาษาไทยนั้น คุณหมอบอกว่า คู่กรณีเข้ามาอยู่บนพื้นแผ่นดินไทย คิดว่าน่าจะซึมซับอะไรบ้าง เพราะเค้าบอกกับคุณหมอว่าเค้าพูดไทยได้ ซึ่งทางตัวชายชาวต่างชาติพูดกับตนเองในคืนนั้นว่า I can speak Thai ,so you are local Thai เพราะฉะนั้นยืนยันว่า ฝ่ายคู่กรณีพูดว่า "local Thai" จริงๆ และมีการพูดภาษาไทยกับคุณหมอด้วยเช่น "you รู้ไหม you trespass ติดคุกนะ you ติดคุก"

ส่วนการเตะ ฝ่ายคู่กรณียอมรับกับแฟนของคุณหมอว่าเตะจริง โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่แฟนคุณหมอตามมาแล้วถามว่า why you kick the women ? Are you afraid of her? ชายคู่กรณีก็ตอบว่า " it was just an easy kick. if it was you I do much worst" ซึ่งหมายความว่าเค้าแค่เตะเบาๆเอง ถ้าเป็นคุณ (หมายถึงแฟนคุณหมอ) เค้าทำมากกว่านี้อีก

การออกมาแถลงข่าวของเค้าที่บอกว่าเป็นการสะดุดล้มหรือประเด็นอะไรต่างๆก็ตามคนที่ตัดสินไม่ใช่คุณหมอแต่เป็นศาล ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์นี้ คนที่โดนกระทำลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน คนที่โดนทำร้ายร่างกายจะมีบาดแผลในจิตใจ ซึ่งตนเองหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ยังไม่กล้าไปที่จุดเกิดเหตุ หรือไปชี้จุดเมื่อวานนี้ก็ยังมือสั่น เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายอีกและการทำร้ายร่างกายไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ยอมรับอยู่แล้ว

ท้ายสุด คุณหมอฝากถึงคู่กรณี เป็นภาษาอังกฤษว่า ตนเองคิดว่าควรที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน และถ้าคุณแสดงความเสียใจจากก้นบึ้งของหัวใจ คุณควรพูดความจริง เพราะสังคมควรที่จะได้รับรู้ความจริง การที่เราทำดีกับคุณไม่ได้หมายความว่า คุณจะปฏิบัติแย่ๆ กับพวกเขาได้ เพียงเพราะคุณรวยกว่า มีอำนาจมากกว่า หรือมีคนหนุนหลัง

ด้านคุณพ่อเกษม จันทร์คำ พ่อขอหมอปาย ส่วนตัวมองว่าคู่กรณีกระจัดกระจาย วิตกกังวล ทางเราไม่ได้จะมาซ้ำเติมอะไร การมาพูดว่าจะเป็นหมอ หรือไม่เป็นหมอไม่ควรจะมาแยกตรงนี้ คุณพ่อถามกลับว่าเป็นหมอแล้วจะมีสิทธิพิเศษอะไรหรอ เพราะจุดเกิดเหตุก็เป็นเส้นทางสาธารณะ สิ่งที่ทางคู่กรณีได้กล่าวขอโทษ ทางเราก็รับผ่านทางสื่อแล้ว เราเข้าใจแล้วและไม่ได้จองล้างจองผลาญอะไร หากกรณีนี้ไม่เป็นข่าวคิดว่าจะออกมายอมรับหรือไม่ คุณพ่อบอกว่าขนาดเป็นข่าวแล้ว เค้ายังไม่ยอมรับ

หลายประเด็นที่คู่กรณีออกมาแถลงที่ออกมาชี้แจงกับสื่อมีหลายประเด็นก็พูดขัดแย้งกันเอง ซึ่งเจ้าตัวก็มีสิทธิ์พูด แต่หากพูดกัน ดักทางทางกฏหมาย การให้ข้อมูลว่าขาดสติ หรือบันดาลโทสะ มันจะทำให้โทษเบา ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วในคดีนี้เป็นเพียงคดีลหุโทษอยู่แล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/xl6olFbtjvE

คุณอาจสนใจ

Related News