อาชญากรรม

รวบครบแก๊ง! 2 อดีตดาบตำรวจ ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า จี้ชิงรถ-เงินสดพ่อค้าน้ำเต้าหู้

โดย nut_p

27 ก.ค. 2566

203 views

รวบครบแก๊ง! 2 อดีตดาบตำรวจ ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า จี้ชี้ชิงรถกระบะ เงินสด 3,000 บาท พ่อค้าน้ำเต้าหู้ อ้างมีปัญหาเรื่องเงิน พบประวัติฆ่าคน เสพยา จนถูกให้ออกจากราชการ



ความคืบหน้า การติดตามจับกุมตัว 2 คนร้ายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อเหตุใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ชิงทรัพย์ นายจีรวัตร ชำนาญเวช อายุ 25 ปี พ่อค้าน้ำเต้าหู้ ก่อนจะได้ทรัพย์สินเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีขาว ยี่ห้อ Toyota ซึ่งเป็นของนายจีรวัตร พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือและเงินสดจำนวน 3,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 นั้น



ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 นาฬิกา วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าว ผู้ต้องหารายที่ 1 คือดาบตำรวจบรรเทิง แตงอ่อน หรือ ดาบเทิง อายุ 51 ปี อดีตนายดาบตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนรายที่ 2 คือดาบตำรวจปฏิวัติ สมหวัง หรือ ดาบท็อป อายุ 50 ปี อดีตนายดาบตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี



สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรท่าเรือ ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามรถยนต์กระบะของผู้เสียหายที่ถูกชิงไป กระทั่งพบว่า รถคันดังกล่าว ถูกขับไปจอดทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีดาบเทิง เป็นผู้ขับรถนำไปจอดทิ้งไว้ ส่วนตัวของดาบเทิงเอง ได้ขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ก่อนจะถูก สกัดจับเอาไว้ได้ในพื้นที่ของสถานีตำรวจภูธรสบปราบ จังหวัดลำปาง และนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนดาบตำรวจปฏิวัติ หรือดาบท็อป เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรีใกล้เคียงกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว



พลตำรวจโทธนายุตม์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลว่า ที่ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน จึงมาร่วมมือกันลงมือก่อเหตุ โดยเลือกเหยื่อเป็นรถที่มีสภาพใหม่เพื่อจะสามารถนำไปขายให้ได้ราคา



เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ร่วมกันดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยมีอาวุธ โดยแต่งเครื่องแบบตำรวจ โดยร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรอง เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในกาย ข้อหารวมกันแต่งกาย โดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายตำรวจทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจเพื่อกระทำความผิดอาญา ข้อหาร่วมกันสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ์เพื่อกระทำความผิดอาญา และข้อหาร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร



ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุทั้งสองคน พบว่า ดาบเทิง มีประวัติ ก่อคดียิงคนตาย 2 ศพ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และถูกให้ออกจากราชการตำรวจเมื่อปี 2560 ขณะที่ ดาบท็อป มีประวัติเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวพันกับยาเสพติด ก่อนจะลาออกจากการเป็นตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีเมื่อปี 2564



ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุทั้งสองคน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมการลงมือก่อเหตุจริง โดยได้ไปขอยืมรถยนต์เก๋งสีดำซึ่งเป็นรถของลูกชายดาบเทิง และขอยืมรถจักรยานยนต์ จากบ้านแม่ยายของดาบเทิง เพื่อนำมาใช้ในการก่อเหตุ โดยสาเหตุที่เลือกรถของพ่อค้าน้ำเต้าหู้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นรถที่มีสภาพใหม่น่าจะขายได้ราคา โดยไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งใด ๆ กับพ่อค้าน้ำเต้าหู้รายนี้มาก่อน



พลตำรวจโทธนายุตม์ ยังได้กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งสองคนซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าเป็นภัยของสังคม ไม่สามารถปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้ จะต้องถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด



ซึ่งนอกจากความผิดในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์แล้ว จะได้ให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลว่า ดาบเทิง มีเพื่อนร่วมขบวนการหรือไม่ เพื่อจะได้ขยายผลนำตัวมาดำเนินคดีให้ครบทั้งหมด พร้อมกันนี้ยังได้ฝากไปถึงประชาชน หากพบว่า มีผู้ที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตั้งด่านตรวจ ในช่วงเวลากลางคืน และสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปแล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้เข้าไปตรวจสอบได้ทันที

คุณอาจสนใจ

Related News