ยายร่ำไห้ เข้าเมืองไปขายทองส่งเงินให้หลาน เจอ 2 สาวหลอกจะไปส่ง จี้ชิงทรัพย์ ปืนขู่ ปล่อยทิ้งกลางทาง

วันที่ 26 มี.ค.67 ศูนย์วิทยุ สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีคนถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่ข้างสระน้ำสาธารณะในพื้นที่บ้านหนองเสม็ด หมู่ 4 ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์จากนั้น พ.ต.ต.ชัยชนะ จันทาฤทธิ์ สวป.(ชส.) สภ.นางรอง พร้อมด้วยสายตรวจตำบลบ้านสิงห์, ฝ่ายสืบสวน สภ.นางรอง นำกำลังเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนางเกียรติ อายุ 72 ปี ยังอยู่ในอาการตกใจ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกหญิงสาว 2 คนหน้าตาดี ชิงเอาทองรูปพรรณหนักกว่า 6 บาทไป เหตุเกิดในเขตพื้นที่ อ.เมือง บุรีรัมย์ ชุดสืบสวนจึงพามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมือง บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุ

สอบถามนางเกียรติ เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลานทำงานอยู่กรุงเทพฯ โทรมาบอกว่าไม่มีเงิน ไม่มีข้าวกินแล้ว สงสารหลาน จึงตั้งใจจะเอาแหวนทองหนัก 50 สตางค์ ไปขายในตัวเมือง จึงเดินไปนั่งรอรถโดยสารที่ศาลาข้างทางถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง

จากนั้นได้มีหญิงสาวขับรถเก๋งมาถามทาง ตนจึงบอกไป ก่อนที่คนขับรถบอกว่าจะอาสาพายายไปส่งตัวเมือง นางเกียรติ เล่าด้วยว่า ตนเห็นผู้หญิงหน้าตาดีทั้งสองคน คนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี อีกคนอายุประมาณ 40 ปี จึงขึ้นรถมาด้วย ระหว่างทางตนไม่พูดว่าจะไปไหน ไม่ได้บอกว่าจะเอาทองไปขาย พยายามระวัง เพราะเป็นคนแปลกหน้า โดยเฉพาะทองรูปพรรณหนัก 5 บาท และเหรียญในหลวงกรอบทองอีก 1 บาท ที่สวมอยู่ในคอตนปิดมิดชิดมองไม่เห็น

สาวทั้งสองถามว่า ยายจะไปซื้ออะไร จึงตอบไปว่าจะไปซื้อผ้าไหมมาทอ ทั้งสองบอกว่าจะขอซื้อ 10 ผืน คิดเป็นเงิน 3,000 บาท บอกว่าจะจ่ายเงินเอาไว้เลย แต่ตนไม่เอา เพราะยังไม่ได้ทอผ้า หลังจากตนลงจากรถ สาวทั้งสองบอกว่าจะไปกราบอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 แล้วขับรถออกไป

จากนั้นตนได้เอาทองไปขายในร้านทอง ได้เงินมา 14,100 บาท เอาเงินใส่กระเป๋าอย่างดี ทันใดนั้นหญิงสาวที่มาส่งขับรถย้อนมา บอกว่าจะไปส่งยายที่บ้าน เพราะจะไปดูที่ดินที่จะซื้อแถว ต.บ้านบัว จึงนั่งรถกับทั้งสองมาอีก ระหว่างนั่งในรถ ตนบอกว่าบริเวณที่ดินที่จะไปซื้อติดกับที่ดินกับตนเองจะขาย 2 ล้าน ทั้งสองบอกว่า ”งั้นไปดูที่ดินของยายก่อน” จากนั้นทั้งสองได้ขับรถออกไปเรื่อยๆ แต่รู้ว่านอกเส้นทางที่จะกลับบ้านของตน

เมื่อขับไปไม่ได้นานหนึ่งในหญิงสาวได้กลับเข้ามานั่งคู่กับตน แล้วลงมือล็อกแขน บังคับเอาทรัพย์สินของตนไป ตนพยายามจะสู้แต่เห็นปืนของคนร้ายทั้งสอง และยังขู่จะยิงทิ้ง จึงยกมือไหว้ขอชีวิต คนร้ายได้ปลดเอาสร้อยคอหนัก 5 บาทจากคอไป 1 เส้น แหวนน้ำหนัก 1 สลึงอีก 1 วง เงินสดที่ขายทองมาได้อีก 14,100 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง รวมมูลค่าที่สูญไปกว่า 200,000 บาท จึงอยากจะให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและเอาทรัพย์สินของตนกลับคืนมา ตอนนี้สงสารหลานที่ไม่มีเงินกินข้าวอยู่กรุงเทพฯ เพราะตอนนี้ยายหมดตัวแล้ว