ญาติ ด.ญ.12 ถูกฆ่าโบกปูน ทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน เห็นสภาพห้องที่อยู่ ถึงกับร่ำไห้

วันนี้แม่ของน้องปีใหม่ พร้อมหลวงตา และญาติสนิท เดินทางมาทำพิธีเชิญวิญญาณที่บ้านเช่าหลังเกิดเหตุ แต่ทุกคนต้องช็อคเมื่อได้เห็นห้องนอนของน้อง เพราะมันคือห้องเก็บของ ที่แทบไม่มีแม้ทางเดิน



ห้องนอนของน้องปีใหม่ อยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน เป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านหลัง หน้าห้องเป็นประตูไม้ พอเปิดเข้าไป ด้านในจะมีแต่กองลังกระดาษสูงท่วมหัว กับหัวเตียงเก่าๆ วางอยู่กลางห้อง สภาพเหมือนห้องเก็บของมากกว่าห้องนอน แต่ที่น่าสังเกต คือ หลังหัวเตียง ถูกกั้นเป็นพื้นที่เล็กๆ มีความกว้างประมาณ 1 ฟุตกว่าๆ ถูกปูด้วยผ้า คล้ายกับทำเป็นที่นอน ซึ่งนี่คือ จุดที่น้องปีใหม่ใช้เป็นที่นอน และภายในห้องยังพบข้าวของส่วนตัวของน้องปีใหม่อีกหลายอย่าง แต่ไม่มีชุดนักเรียน ทันทีที่ป้าของน้องปีใหม่มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ถึงกับร้องไห้ออกมาทันที



ขณะที่ห้องนอนใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านเป็นของ นางสาว นิรมล พรหมคุณ หรือ มิ้น และนาย ยุทธนา มาดี หรือ แจ๊บ ป้าและลุงเขยของน้องปีใหม่ กลับมีที่นอน มีตู้เสื้อผ้า มีโต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ในสภาพดีเหมือนห้องนอนทั่วไป ซึ่งแตกต่างจากห้องของน้องปีใหม่ และภายในห้องนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดด้วย



แต่มีเรื่องที่น่าแปลกอย่างหนึ่ง เพราะตอนที่ขึ้นมาด้านบน ประตูห้องชั้น 2 แม้จะไขกุญแจแล้วก็ไม่สามารถเปิดได้ทันที ต้องออกแรงดันอยู่นานแต่ก็ไม่เปิด จนแม่ของน้องปีใหม่พูดว่า "ปีใหม่เปิดให้แม่หน่อยลูก" ประตูก็สามารถเปิดได้ทันที



ส่วนการเชิญวิญญาณของน้องปีใหม่ พระที่นิมนต์มาทำพิธี คือ หลวงตาแท้ๆ ของน้องปีใหม่ ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวจากจังหวัดอุทัยธานี ตั้งใจมารับ "หลาน" กลับบ้านด้วยตัวเอง // ซึ่งขณะจะเริ่มทำพิธีที่ห้องครัวของบ้าน ระหว่างเตรียมอาหาร อยู่หน้าซิงค์ล้างจานจุดที่วางถังน้ำแข็งที่ซุกร่างน้องไว้ อยู่ๆ ฝาครอบตะเกียงแก้ว ที่ใช้ประกอบพิธี อยู่ ๆ ก็ตกลงไปแตกที่พื้น ทำให้เสียเวลาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเริ่มพิธีได้



อาหารที่ทางครอบครัวเตรียมมาให้น้องปีใหม่ 1 ในนั้น มีทั้งขนมและผลไม้ที่น้องชอบ รวมถึง "พิซซ่า" หากจำได้ในแชทที่น้องปีใหม่คุยกับแม่เมื่อ 1 เดือนก่อน เคยบอกว่า "อยากกินพิซซ่า แต่ผ่านมา 2 ปี ก็ยังไม่ได้กิน" แต่วันนี้พิซซ่ามาอยู่ตรงหน้าน้องแล้ว ในวันที่น้องไม่ได้โอกาสลุกขึ้นมากินได้



ทางครอบครัวน้องปีใหม่ ใช้เวลาประกอบพิธีภายในบ้านราว 1 ชั่วโมงกว่า ก่อนที่แม่ของน้องปีใหม่จะออกมาให้สัมภาษณ์เคลียร์ใจทุกเรื่อง ทั้งแชทที่ระบุว่า "ปีใหม่" น้อยใจแม่ ที่ไม่เคยมีเวลาให้ ขอเงินก็ไม่ได้ และเรื่องที่ชาวเน็ตต่อว่าเธอที่ไม่ยอมรับลูกไปอยู่ด้วย แม่น้องปีใหม่ ยืนยันว่า เธอพยายามดูแลลูกให้ดีที่สุดแล้ว ไม่เคยทิ้งหรือขาดการติดต่อ แต่ลูกสาวยืนยันขออยู่กับป้ามิ้นเพื่อมาเรียนหนังสือและช่วยงานที่บ้าน



ก่อนจะเดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี หลวงตาได้บอกกับนักข่าวว่า ตลอดที่มีการทำพิธีภายในบ้านได้กลิ่นหลานสาวตลอดเวลา เชื่อว่า หลานสาวจะเดินาทงกลับไปที่บ้านพร้อมกัน



ส่วน "แจ๊บ" เมื่อช่วง 11 โมงครึ่งที่ผ่านมา ตำรวจสน.บางเขนคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรกแล้ว ใน 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ เสพยาเสพติด พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์ และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อนที่ "แจ๊บ" จะขึ้นรถยังยืนยันกับนักข่าวว่า "มิ้น" ร่วมทำร้ายน้องด้วย ซึ่งตำรวจก็มีหลักฐานเป็นคลิปวงจรปิดทั้งหมดแล้ว และขอโทษที่ทำร้ายน้องจนเสียชีวิต



ส่วนมิ้นถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ช่วยผู้ต้องหาที่เป็นผู้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น หรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และ ไม่ให้การช่วยเหลือบุคคลที่ตกอยู่ในอันตราย มิ้นเข้ารับทราบข้อหาตั้งแต่ตี 1 ที่ผ่านมาแล้ว และพรุ่งนี้ตำรวจจะพาตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเช่นกัน



ขณะที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กรณีของน้องปีใหม่ที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาที่เสียชีวิต ทายาทมีสิทธิได้รับการเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ ได้แก่ ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ไม่เกิน 40,000 บาท รวมเป็นเงิน 110,000 บาท

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qaCzQ09nD5M