แกะรอยหาที่มาถังสารเคมีในโกดังใหม่ อ.อุทัย พบบางส่วนโยงโรงงาน จ.ระยอง

หลังจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจพบว่าโกดังของบริษัทซันเทค เคมิคอล แอนโลจิสติก ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลักลอบเก็บสาร เคมีอันตรายไว้จำนวนมาก ทั้งที่บริษัทนี้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการรีไซเคิลขยะไม่อันตรายเท่านั้น



ข่าว 3 มิติ ยังพยายามแกะรอยที่มาของถังสารเคมี จนพบว่าร่องรอยว่า ถังสารเคมีบางถัง มาจากโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง แต่เหตุใดจึงมาเก็บในโกดังนี้ ที่อนุญาตให้ประกอบกิจการรีไซเคิลขยะไม่อันตรายเท่านั้น



นี่คือ 1 ในหลายร้อยถังที่พบในโกดังของบริษัทซันเทค เคมิคอล แอนด์โลจิสติก ข้างถังติดฉลากกำกับระบุว่าเป็นสารช่วยทำงานของกระบวนการ ข้อบ่งชี้บอกว่า ไม่จัดเป็นสารอันตรายตามข้อกำหนด GHS หรือระบบการจัดกลุ่มสารเคมี เพื่อจำแนกว่าสารนั้นๆ อันตรายมากหรือน้อย และถังนี้ก็แสดงข้อควรระวัง คือล้างมือให้สะอาดหลังจากหยิบจับ และให้พบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น



ตามฉลากระบุว่า ถังนี้เป็นของโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งข่าว 3 มิติ ขอปกปิดไว้ ตัวโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง



ข่าว 3 มิติตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่าบริษัทนี้ มีกากที่เหลือจากอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่นโซเว้นท์ ถังเหล็กปนเปื้อน 200 ลิตร บรรจุภัณฑ์ปนเปื้อน รวมถึงสารเคมีเสื่อมสภาพ ทั้งกรด และด่าง เป็นต้น



กากวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเหล่านี้ บริษัทเจ้าของกากจะว่าจ้างบริษัทเอกชน ที่ได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสากรรม รับไปกำจัดหรือบำบัด ในตารางนี้ ช่องขวามือสุดคือทะเบียนโรงงานที่รับไปกำจัด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทะเบียนโรงงานเลขที่ 3-106-7/57 อย. เป็นหนึ่งในผู้มารับกากวัสดุที่นี่ไปกำจัด



เมื่อตรวจสอบเลขทะเบียนโรงงานดังกล่าว ซึ่งข้อมูลที่ไม่ใช่ความลับ และเปิดเผยบริษัทเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบได้ปรากฎว่า เลข3-106-7/57 อย. เป็นทะเบียนโรงาน ของบริษัทเอกอุทัย จำกัด



ข้อมูลนี้บ่งชี้บริษัทเอกอุทัย เป็นหนึ่งในผู้มารับกากวัสดุไม่ใช้แล้วจากโรงงานไปกำจัด บำบัดหรือรีไซเคิล ซึ่งโรงงานนี้ที่อยู่ระยอง ก็เป็นเจ้าของถังเบาท์สารเคมี ที่พบในบริษัทซันเทค นั่นเอง



อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ ไม่ยืนยันว่า เฉพาะถังสารเคมีนี้ ได้ถูกลำเลียงออกจากโรงงานที่ระยอง โดยบริษัทเอกอุทัย แล้วนำมาเก็บไว้ที่โกดังบริษัทซันเทค เคมิคอล หรือไม่ หรือบริษัทซันเทค อาจจะรับถังนี้มาจากบริษัทผู้รับกำจัดรายอื่นที่ไม่ใช่เอกอุทัย ก็เป็นได้



แต่ถึงอย่างนั้น ข่าว 3 มิติ ก็พบความเชื่อมโยงบางอย่าง ระหว่างบริษัทซันเทค ที่อยู่ห่างจาก และบริษัทเอกอุทัย 4 กิโลเมตรครึ่ง และอยู่ห่างจากโกดังที่อำเภอภาชี 17 กิโลเมตร และเบาะแสนั้นคือทะเบียนรถบรรทุก



ข่าว 3 มิติ เริ่มตรวจสอบจากฐานข้อมูล ที่มีหลายพันรายการ ที่บริษัทเอกอุทัยในฐานะผู้รับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม และบริษัทอื่นในฐานะผู้ก่อกำเนิดกาก แจ้งไว้ในระบบว่านำรถเหล่านี้ไปรับกากวัสดุจากโรงงาน ซึ่งต้องเป็นรถที่ได้รับอนุญาตขนย้ายสารเคมีจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีเอกสาร วอ.8 กำกับด้วย โดยจัดหมวดหมู่ทะเบียนรถบรรทุกไว้



จากนั้น ตรวสอบจากสมุดบันทึกเข้าออกที่โกดังอำเภอภาชี ซึ่งพบสารเคมีถูกเก็บไว้ที่นั่น จะเห็นว่าผู้บันทึกลงรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัด ทั้งเวลาเข้าออก และกิจกรรมของรถที่มา เช่นลงของ ขึ้นของ ทอยของหรือถ่ายโอนเปลี่ยนคัน ซึ่งรายละเอียดที่โกดังภาชี นับร้อยรายการ



จากนั้น ก็ตรวจสอบจากสมุดที่เขียนด้วยปากกาสีแดง ของโกดัง บริษัทซันเทค เคมีคอล ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งเข้าตรวจเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แม้ว่าจะมีรายการบันทึกในสมุดเล่มนี้ น้อยกว่าที่ โกกังในอำเภอภาชี แต่กลับพบทะเบียนรถ ที่เข้าและออกโกดัง ตรงกันมากกว่า 30 รายการ และ ในจำนวนนี้ประมาณ 10 คัน เชื่อมโยงกับบริษัทเอกอุทัย นั่นคือ



เช่นทะเบียน 83-7032 นนทบุรี บริษัทเอกอุทัย เคยไปรับภาชนะปนเปื้อน และกากสี ของบริษัทรายหนึ่ง เมื่อ 12 และ 21 ธันวาคม 2565 (ลำดับที่ 1924) และ 21 ธันวาคมวันเดียวกันนั้น รถคันนี้ ก็เข้าโกดังที่อำเภอภาชีระบุว่าเพื่อลงของ หลังจากนั้น รถคันนี้ ก็เข้าไปที่โกดัง บริษัทซันเทค เคมิคอล -ในวันที่ 22 ธันวาคม



หรืออีกหนึ่งตัวอย่างคือ รถทะเบียน 71-1106 แจ้งเป็นของบริษัทเอกอุทัย ไปรับบรรจุภัณฑ์ปนเปื้อนเมื่อวันที่ 22 ธค.65 รถคันเดียวกันนี้ ที่เขียนว่า เข้าไปทำงานที่โกดังอำเภอภาชีหลายวันเวลา และเมื่อตรวจสอบจากสมุดบันทึก ที่โกดังโรงงานซันเทค ก็พบว่ารถทะเบียนเดียวกันนี้ ก็วิ่งไปโกดังซันเทค หลายวัน เวลา เช่นกัน



ข่าว 3 มิติยังตรวจสอบพบทะเบียนรถอีกหลายคัน ที่ได้รับอนุญาตในนามบริษัทเอกอุทัย ที่วิ่งเข้าออกระหว่างโกดัง ที่อ.ภาชี กับโกดังบ.ซันเทค ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดรถขนส่งสารเคมีที่มีใบอนุญาต วอ.8 หรือขนส่งวัตถุอันตราย จึงวิ่งเข้าออกโกดังเถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนโรงงานในอำเภอภาชี และยังวิ่งเข้าออกโกดังโรงานซันเทค ที่ อ.อุัย หรือเป็นไปได้หรือไม่ทั้งสามแห่งนี้เชื่อมโยงกัน



และหากข้อมูลนี้ถูกตรวจสอบว่าเป็นจริง บริษัทหรือโรงงานที่เป็นต้นกำเนิดกากอุตสาหกรรมจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ในกรณีที่กากเคมีที่ว่าจ้างให้บริษัท นำไปกำจัดอย่างถูกวิธีนั้น กลับถูกนำไปเก็บและทิ้งโดยไม่ได้บำบัดแต่อย่างใด