กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งตามหาแคดเมียมที่ยังสูญหายอีก 5 พันตัน เชื่อยังไม่ถูกส่งขายต่างประเทศ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 07 เมษายน 2567 นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส) นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด นายก อบต.บางน้ำจืด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบที่บริษัท ในพื้นที่ ม.6 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังจากที่นายจาง กรรมการบริษัทฯ ได้แสดงเจตนาเข้าพบ ร.ต.อ.จำนงค์ เนยขำ รองสารวัตร สภ.ย่อยบางน้ำจืด เพื่อร้องขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า บริษัทได้รับฝากของจากบริษัทแห่งหนึ่ง และนำมาเก็บรักษาไว้ น้ำหนักรวมประมาณ 1,034 ตัน ซึ่งของที่รับฝากไว้ไม่ทราบว่าเป็นแร่ที่มีสารปนเปื้อนอันตราย (แคดเมียม) หรือไม่ แต่จากลักษณะถุงบิ๊กแบ็กมีความคล้ายคลึงกันรวมถึงตัวเลขที่ระบุ ตามที่ปรากฏในข่าวสารต่างๆ จึงมาขอลงบันทึกเป็นหลักฐานไว้ และยินยอมให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ


เบื้องต้นจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ถุงบิ๊กแบ็กที่ทาง นายจาง กรรมการบริษัทฯ ได้ให้เข้าตรวจสอบนั้นเป็นถุงที่บรรจุกากแร่แคดเมียมจริง และมีตัวเลขชนิดเดียวกันกับบริษัทฯ ที่พบเป็นแห่งแรก โดยมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 1,034 ตัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดไว้ทั้งหมด และมีการเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบเพื่อหาค่าความเข้มข้นของสารอันตราย (แคดเมียม) อีก ทั้งยังจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสุขภาพของประชาชนโดยรอบ รวมถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อม ตามมาตรการต่างๆ


นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนคือ การส่งกากแร่แคดเมียมและสังกะสี กลับไปอยู่ที่บ่อฝังกลบเดิมในจังหวัดตาก ซึ่งตอนนี้ทางต้นทางได้มีการเตรียมหลุมฝังกลบรอรับกากแร่อันตรายเหล่านี้แล้ว


ส่วนต่อมาคือ การหาของหายที่มีทั้งแบบรับมาส่งขายต่อ หรือรับมาแล้วนำมาฝากไว้ เพื่อรอส่งขายต่อ โดยตอนนี้ก็ตามกลับมาได้มากพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังต้องตามส่วนที่ขาดหายกันต่อไป ซึ่งก็ได้สนธิความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน เข้าตรวจสอบเส้นทางการขนย้ายกากแร่แคดเมียมเหล่านี้เพื่อนำไปสู่สถานที่กักเก็บ หรือสถานที่รับซื้อ พร้อมกับมีการแจ้งความดำเนินคดีแต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังต้องไปวางแผนเพื่อการป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคต หารอยรั่วให้ได้ว่ามาจากตรงส่วนใด จะได้มีการวางมาตรการอุดรอยรั่วเหล่านั้นและจัดตั้งคณะกรรมการฯ ดำเนินการตามนโยบายต่อไป


ขณะที่นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงถึงตัวเลขที่ตอนนี้เป็นประเด็นสงสัยของคนไทยทั่วประเทศว่า จริงๆ แล้ว แคดเมียมถูกขุดส่งออกมามีปริมาณเท่าไหร่ จากเดิมที่เคยเป็นข่าวมีตัวเลขมากถึง 15,000 ตัน ต่อมาข้อมูลลดลงเหลือเพียง 13,832 ตันเท่านั้น โดยอธิบายข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่า เดิมทีทางผู้ประกอบการในจังหวัดตาก ได้ยื่นขอนำออกไว้ราวๆ 15,000 ตัน แต่มีปริมาณที่นำออกจริงจากการชั่งน้ำหนักยอดสุทธิอยู่ที่ 13,832 ตัน พบที่บริษัทในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จำนวน 3,040 ตัน , โรงงานย่านคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จำนวน 4,400 ตัน และ บริษัทในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร อีก 1,034 ตัน คงเหลือที่ต้องตามหาต่อไปอีกราวๆ 5,358 ตัน


ซึ่งก็เชื่อว่าจะได้ทราบผลในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน ส่วนที่สังคมสงสัยว่าจะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศบ้างหรือยังนั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบเชื่อได้ว่า ยังไม่มีการส่งออกไปขายต่างประเทศ เพราะการจะนำสินค้าที่เป็นอันตรายเหล่านี้ออกนอกประเทศ หรือนำเข้าในประเทศได้นั้น จะต้องมีขั้นตอนและระบบที่ชัดเจน และต้องได้รับอนุญาตจากทั้งประเทศต้นทางและปลายทางด้วย


นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ตามที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า โรงงานใดที่มีการกักเก็บกากแร่แคดเมียม หรือมีถุงสินค้าที่มีลักษณะเดียวกันกับที่ตรวจพบทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร และชลบุรีนั้น ขอให้รีบแสดงตัวโทษหนักจะได้กลายเป็นเบาลง


อย่างเช่นสถานประกอบการแห่งนี้ ที่พอพบถุงบิ๊กแบ็กต้องสงสัยก็เข้าไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และแสดงเจตนาให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบนั้น แม้จะพบความผิดจริงและต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ก็จะได้รับการผ่อนหนักให้เป็นเบาลงได้ ดังนั้นสถานประกอบการใดที่พบถุงบิ๊กแบ็กในลักษณะเดียวกันนี้ ขอให้รีบแจ้งมายังอุตสาหกรรมจังหวัด ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อนำสู่การตรวจสอบต่อไป


ด้านนายจาง กรรมการบริษัทฯ เล่าว่า ตนเองเป็นเหมือนนายหน้า หรือ พ่อค้าคนกลาง มีหน้าที่ในการจัดซื้อของจำพวกอะลูมิเนียม ทองแดง เพื่อส่งขายให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง บางครั้งก็ซื้อมาขายไป แต่ถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุกากแร่สารแคดเมียมเหล่านี้ ตนไม่ได้ซื้อมา เพียงแค่ยอมรับฝากจากบริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้น เพราะความสนิทสนมกันในฐานะคู่ค้าและเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ซึ่งทางบริษัทที่นำมาฝากไว้ อ้างว่าอาคารโรงงานใกล้จะหมดสัญญาเช่าแล้ว จึงขอเอามาฝากที่โรงงานตนเป็นการชั่วคราว แล้วประมาณช่วงเดือนหน้าจะมาย้ายออก กระทั่งตนไปเห็นในข่าวว่าเป็นถุงลักษณะเดียวกัน จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปลงบันทึกประจำวันและให้เจ้าหน้าที่ฯ เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะนำกากของเสียอันตรายเหล่านี้มาไว้ที่โรงงานแต่อย่างใดทั้งสิ้น


ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ชุดปฏิบัติการได้เข้าตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เชิญทางเจ้าของบริษัทฯ ไปให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับแสดงหลักฐานการนำเข้า และขายสินค้าทุกประเภทในโรงงาน รวมถึงหลักฐานการทำงาน ว่าตรงกับใบที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ อีกทั้งยังจะต้องประกอบกับผลการตรวจวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย และนำไปสู่การค้นหากากสารแคดเมียมที่เหลือต่อไป