น้องชายติดยารอบำบัด ฉุนพี่ชายพูดจาแหย่ประสาท ไม่ทำงาน บีบคอสลบก่อนต่อยจนดับคาบ้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 66 ร.ต.อ.บรรจบ จ้อยศรีเกตุ รองสารวัตรสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งเกิดเหตุน้องชายลงมือฆ่าพี่ชายจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 9/2 หมู่ที่ 4 ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อัครเดช ศุกระกาญจน์ รอง ผกก.ป.สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดอ่างทอง



บริเวณที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง และบริเวณใต้ถุนบ้านพบโต๊ะแคร่ไม้ มีขวดเหล้าขาว ไฟแช็ก เสื้อแขนยาว บังโคลนรถจักรยาน และกระเป๋าวางอยู่ พบนาย สุเทพ แก้วอร่าม หรือ เป็ด วัย 48 ปี ผู้ก่อเหตุ สวมเสื้อยืดสีเทาแขนสั้น นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ นั่งรอมอบตัวอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้าน



จาการสอบถามเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. ได้นั่งดื่มเหล้ากับพี่ชายและเพื่อนอีก 1 คน ก่อนที่พี่ชายจะขึ้นไปนอนบนบ้าน ส่วนเพื่อนก็แยกย้ายกลับบ้าน ตนเองจึงขึ้นไปพูดคุยกับพี่ชาย แล้วพี่ชายชอบแหย่ประสาท คือไม่ทำการงานอะไรเอาแต่นอน และชอบเอาฉี่ใส่ถังวางไว้บนหัวนอน รวมทั้งไม่ยอมกินข้าวปลา ที่ตนเองไปขอข้าววัดมาให้กิน รวมทั้งส้มเขียวหวานบอกให้กินก็ไม่กิน ตนเองทำงานรับจ้างวันละ 50-100 บาท กลับมาบ้านเหนื่อย จะต้องใช้ฟืนหุ้งข้าวหาข้าวปลาให้กิน แต่ยังมาพูดจาแหย่ประสาท จึงโมโหใช้มือขวาบีบลูกกระเดือกจนสลบแน่นิ่ง แล้วใช้กำปั้นต่อยไป 100 กว่าครั้ง ตอนแรกยังไม่ตายตนเองก็เข้าไปนอน ตอนเช้าได้ไปบอกชาวบ้านว่าฆ่าพี่ตายแล้วรอมอบตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนเองไม่ได้ใช้ยาเสพติด แต่รอเข้ารับการบำบัติในวันที่ 15 ก.พ. ตอนนี้ดื่มสุราอย่างเดียว



ด้านชั้นบนของบ้านบริเวณนอกชานเรือน มีเต๊นท์ตั้งอยู่ และพบศพ นาย มะนัส แก้วอร่าม วัย 58 ปี นอนเสียชีวิตอยู่หน้าเต๊นท์ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณต้นคอและใบหน้ามีรอยเขียวซ้ำ มีรอยเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ และห่างจากผู้เสียชีวิตประมาณ 3 เมตร พบลูกสุนัขสีขาวนอนตายอยู่บนผ้าสีน้ำเงิน และมีแม่สุนัข ชื่อสีนวลวิ่งไปมาอยู่บริเวณด้านล่างของบ้าน คาดว่าจะรู้ว่าลูกของตัวเองตายแล้วจึงกระวนกระวาย และมีอาการซึมลง



ด้านนางณิรภา อินทร์สว่าง อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกัน เล่าให้ฟังว่า สองพี่น้องนั้นชอบกินเหล้าและมีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ โดยพี่ชายจะเรียกขอความช่วยเหลือตลอด แต่วันนี้ไม่ได้ยินเรียก มาทราบข่าวอีกทีก็เสียชีวิตแล้ว ส่วนทางด้าน นางสาวกัญญารัตน์ แก้วเกตุ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าให้ฟังว่า นายเป็ด น้องชายมีประวัติเสพยา และรอการรับบำบัติอยู่ก่อนที่จะมาก่อเหตุฆ่า นาย มะนัส พี่ชายที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวเดินไม่ค่อยได้ รอทำบัตรผู้พิการ



ส่วนทางด้าน นายชาลี เกียรติไพศาล รองนายก อบต.หัวตะพาน เล่าให้ฟังว่า นายมะนัส พี่ชายที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวเดินไม่ค่อยได้ รอทำบัตรผู้พิการ และติดสุรา ส่วน นายสุเทพ น้องชายนั้นมีประวัติเรื่องยาเสพติดและติดสุรา ซึ่งรอการรับการบำบัติอยู่ มาทราบอีกทีก็เกิดเหตุสลดแล้ว



ทางด้าน ดต.ปิยะ อุดมศรี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.วิเศษชัยชาญ กล่าวว่า ตนเองพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้ามาทำการตรวจสอบและระงับเหตุ เมื่อมาถึงพบว่า นายเป็ด กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ในมือถือมีดด้ามยาวอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอุปกรณ์และกำลังมากกว่า จึงได้ยอมให้ควบคุมตัว จากการเข้าไปตรวจสอบด้านบนบ้าน พบศพพี่ชายของผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตอยู่ โดยบ้านหลังดังกล่าวมักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ จึงได้ทำการควบคุมตัว นายเป็ด ส่งให้ชุดสืบสวนไปทำการสอบสวนขยายผล



อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุมตัวน้องชาย ไปทำการสอบสวนขยายผลถึงสาเหตุในการลงมือฆ่าพี่ชาย และเตรียมแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนทางด้านศพพี่ชายนั้นได้ส่งไปทำการชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาตร์ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แจริงตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป