อดีตตำรวจมือปราบ ทะเลาะยิงเมีย-พี่สาว ก่อนลั่นไกปลิดชีพตาม ดับสลดคาบ้าน 3 ศพ

เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.67)  เวลา 08.00 น. ตำรวจ สภ.โนนสูง  อ.เมือง  จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต 3 ศพ ในพื้นที่บ้านโนนเดื่อ ต.บ้านตาด  จึงนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวนเรือนไทย 2 ชั้น ไม้ครึ่งปูน เนื้อที่ 15 ไร่  มีรั้วรอบขอบชิด  บริเวณลานชั้นล่างพบศพ ร.ต.อ.สมเด็จ สุขรมย์ อายุ 62 ปี ข้าราชการตำรวจเกษียณ อดีตตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี , นางสุธาทิพย์ ฟอคคอนเนอร์ อายุ 53 ปี หรือคุณนายหมู ภรรยา และนางพิมพิลา รอดชัยภูมิ หรือนางไร อายุ 62 ปี พี่สาวภรรยา ถูกยิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่รวมกัน ใกล้เตียงแคร่  ซึ่งมีการเตรียมใบตองและอาหาร ถ้วยจานจำนวนมาก เตรียมไว้ทำพิธีขึ้นบ้านใหม่อีกหลังที่อยู่ติดกัน และจัดงานวันเกิดของคุณนายหมู เป็นเจ้าของบ้านไปพร้อมกันในวันนี้ (14 มี.ค. 67)  

เจ้าหน้าที่ยังพบปืนตกอยู่หว่างขา ร.ต.อ.สมเด็จและปลอกกระสุนปืนตกอยู่เกลื่อนพื้น  4 ปลอก จากการชันสูตร พบว่าผู้ตายทั้งหมดถูกจ่อยิงที่ศีรษะคนละ 1 นัด เสียชีวิตมาประมาณ 13-15 ชั่วโมง เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุคือ ร.ต.อ.สมเด็จ เนื่องจากเป็นเจ้าของอาวุธปืนถูกต้องตามกฎหมาย

จากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า สามีภรรยาเจ้าของบ้านทะเลาะกันอย่างรุนแรงภายในบ้าน ในช่วงหัวค่ำวันที่ 12 มี.ค. ก่อนที่ชาวบ้านใกล้เคียงจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5 นัด จนกระทั่งเช้า นายพิบูลย์ หารกิ่ง อายุ 50 ปี คนสวน มาพบศพคนแรก เล่าว่า ตนเป็นคนสวนทำงานที่นี่มา 3 ปี มาทำงานแบบมาเช้า-เย็นกลับ วานนี้ตนมาทำสวนตามปกติ พอเปิดประตูรั้วเข้ามารู้สึกผิดปกติเหมือนยังไม่มีคนตื่น  พอเดินเข้าไปในบ้าน  ก็พบว่านอนเสียชีวิตกองกัน 3 ศพ  มีผู้กองสมเด็จ คุณนายหมู และพี่สาวคุณนาย ตนจึงรีบออกไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งปกติตนเห็นผัวเมียก็จะทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่เคยเห็นทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้  ซึ่งวันนี้ 14 มีนาคม จะทำบุญขึ้นบ้านใหม่ และฉลองวันคล้ายวันเกิดให้คุณนายพร้อมกัน  

นางคำแสน จาบาล อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนเดื่อ เล่าว่า  ช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มี.ค. มีลูกบ้านมาเล่าว่า ได้ยินเสียงปืนดัง 5 นัดที่บ้านหลังนี้ คล้ายคนทะเลาะกันเสียงดัง  แต่ตนไม่กล้ามาดู  เพราะบ้านหลังนี้จะไม่ให้คนนอกเข้ามาสุงสิง  จนประมาณ 20.00 น. เห็นว่าที่บ้านคุณนายยังเปิดไฟตามปกติ  ก็คิดว่าคงจะสงบกันแล้ว  แต่ตื่นเช้ามาคนสวนมาแจ้งว่า เจ้านายถูกยิงตายในบ้าน 3 ศพ  คาดว่าจะทะเลาะกันเรื่องปัญหาในครอบครัว ซึ่งในส่วนของอดีตตำรวจ เป็นคนสุขุม อารมณ์เย็น แต่คุณนายเป็นคนอารมณ์ร้อน  โดยก่อนเกิดเหตุ คุณนายยังไลน์มาเชิญผู้ใหญ่บ้านให้ไปร่วมงานวันเกิดคุณนายและงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ในวันที่ 14 มี.ค.

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ร.ต.อ.สมเด็จ และภรรยา เคยแยกทางกันมาประมาณ 10 ปี จากนั้นภรรยาไปมีสามีใหม่เป็นชาวอเมริกัน ต่อมา ร.ต.อ.สมเด็จได้ตามมาง้อและกลับมาอยู่ด้วยกัน โดยที่สามีชาวอเมริกันของคุณนายอยู่ที่ต่างประเทศ รับทราบและเข้าใจความสัมพันธ์ของคุณนายหมูกับ ร.ต.อ.สมเด็จ

ด้านนางโสภา พิมพ์ศรี ป้าของคุณนาย บอกว่า คุณนายยังไม่ได้เลิกกับสามีชาวต่างชาติ แต่ก็กลับมาอยู่กับผู้กองที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง  แต่ก็ไม่รุนแรงและไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้  

ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านในละแวกดังกล่าว พบว่า มีบ้านหลังหนึ่ง มีกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน และสามารถบันทึกเสียงปืนที่ดังขึ้นประมาณ 3 นัด แต่เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้สนิทสนมกับบ้านคุณนายหมู จึงให้ญาติที่เป็นช่างเสริมสวยที่เคยทำผมให้คุณนายหมู โทรไลน์ไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คุณนายไม่รับสาย จึงคาดว่าตอนนั้น คุณนายหมูกับพี่สาวน่าจะถูกยิงไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

ส่วนเพื่อนตำรวจรุ่นน้องของ ร.ต.อ.สมเด็จ บอกว่า หลังเกษียณราชการ ผู้กองก็มาอยู่บ้านสวนหลังที่เกิดเหตุกับภรรยาและครอบครัวภรรยา ก่อนเกิดเหตุผู้กองได้แจ้งข่าวไปยังเพื่อน ๆ ว่า จะทำบุญบ้าน เชิญให้มาร่วมงาน

ส่วนประเด็นการก่อเหตุ เบื้องต้นคาดว่า ระหว่างที่ผู้กองพูดคุยกับภรรยาและพี่สาวภรรยา เกิดการโต้เถียงกันรุนแรงเรื่องหนี้สินสะสม ที่ต้องหักใช้หนี้เพื่อนตำรวจในการค้ำประกันเงินกู้ยืมสมัยรับราชการ ที่เพื่อนตำรวจต้องใช้หนี้แทน ทำให้เงินไม่พอใช้จ่าย และผู้ตายอาจกดดันในหลายเรื่องจนเกิดอาการซึมเศร้าเครียด จนก่อเหตุจ่อยิงภรรยา พี่สาวภรรยา และฆ่าตัวตายตาม  ทางตำรวจจะเร่งสอบปากคำพยาน คนใกล้ชิด และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทราบสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0Ua4Mc_kQsk