เร่งล่าเด็กช่างขี่ จยย.ไล่ทำร้ายคู่อริต่างสถาบัน ตกใจเสียหลักรถล้มขาหัก

เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) นักเรียนเทคนิคในจังหวัดสมุทรปราการ ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางเจอเด็กช่างกลต่างสถาบัน ควักปืนออกมาไล่ทำร้าย เจ้าตัวตกใจเสียหลักขี่รถล้มขาหัก เพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาเห็นเหตุการณ์พยายามขี่รถไล่ ตำรวจตามไปเจอผู้ก่อเหตุถึงบ้าน บอกรอผู้ปกครองมาเจรจาไกล่เกลี่ย

วัยรุ่นชายหญิงขี่รถจักรยานยนต์และพยายามตะโกนด่ารถจักรยานยนต์ของวัยรุ่น 3 คนที่ขี่อยู่ข้างหน้า พยายามบอกให้หยุด และอย่าหนี ก่อนจะขี่ตามไปทันกัน และตีคู่ จนเห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่ไล่ทำร้ายเพื่อนของพวกเขามี 3 คน ก่อนจะปล่อยให้ทั้ง 3 คน ขี่หนีไป เพราะได้ภาพหน้าผู้ก่อเหตุแล้ว และจะไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี

ทีมข่าวได้คุยกับเยาวชนชายวัย 16 ปี ที่เป็นเพื่อนของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) เวลาประมาณบ่าย 2 โมง เขากับเพื่อน 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน กลับจากไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ พอถึงช่วงก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้าโรงเรียนนายเรือ รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ซ้อน 3 มา ได้ขี่ขึ้นมาเทียบแล้วมองหน้า โดยรถของเขากับเพื่อนอีกคัน มีผู้หญิงเป็นคนซ้อนทั้งคู่

ผู้ก่อเหตุจึงขับเลยไปที่รถของผู้บาดเจ็บที่ขับอยู่หน้าสุด และคนซ้อนได้ควักมีดออกมา เป็นมีดหมอ ยาวประมาณฝ่ามือ ส่วนคนกลางก็ชักอาวุธปืนออกมา และพยายามขับเบียด จะเอามีดไล่ฟัน เพื่อนของเขาจึงเบี่ยงตัวหนี ทำให้รถล้มเบียดเข้าไปกับฟุตบาธ เกิดสะเก็ดไฟ และล้มไถลไปกับพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส คนซ้อน สะโพกหัก ขาขวาหัก และศีรษะกระทบกระเทือน ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์กระดูกท่อนล่างโผล่ สะโพกหัก เช่นกัน

เขาและเพื่อนจึงรีบขี่รถตามไปพยายามถ่ายคลิปตามที่ปรากฎในโพสต์ ซึ่งได้เห็นใบหน้าของผู้ก่อเหตุชัดเจน และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับทั้ง 3 คนเป็นการส่วนตัว แต่รู้ว่าเป็นนักเรียนคู่อริต่างสถาบัน ที่โรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่ง เพราะคนกลุ่มนี้เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกับกับกลุ่มเพื่อนของเขามาแล้ว จึงมั่นใจว่าสาเหตุครั้งนี้ เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน

ขณะที่ นางณัฐฐาพร แม่ของผู้บาดเจ็บ ระบุว่า ไม่อยากไกล่เกลี่ยยอมความ แต่อยากให้ดำเนินคดี และให้ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลให้ถึงที่สุด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นถ้าลูกไม่หลบก็อาจจะโดนฟันถึงชีวิต แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุแม่รู้ก็เป็นลม เพราะเห็นลูกเจ็บ มีลูกอยู่คนเดียว จึงอยากขอความเป็นธรรม เพราะลูกไม่ได้ไปหาเรื่องใคร ไปฉีดวัคซีนดีๆ กับคู่กรณีก็ไม่ได้รู้จักกัน

เบื้องต้นไปแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำ แล้ว และตำรวจไปที่บ้านของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งยอมรับว่าพกอาวุธมีดจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีอาวุธปืน ส่วนที่ก่อเหตุก็เพราะว่าเห็นอีกฝ่ายแต่งกายคล้ายเด็กช่างกล ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะนัดผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันต่อไป