รวบแก๊งเด็กช่างเข้าสถานพินิจ ล่าเสื้อช็อป ไล่ฟันอริหนีลงคลองดับ แม่น้ำตานองไม่อโหสิให้

ตำรวจส่ง 3 เยาวชนเข้าสถานพินิจ ก่อเหตุรุมทำร้าย คู่อริกระโดดหนีลงคลองดับ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คนอยู่ระหว่างสอบสวน ด้านแม่น้องแอ้มไม่อโหสิ

พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลหลักสอง นำตัวผู้ต้องหาเยาชน 3 คน เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี 3 คน และ อายุ 18 ปี 1 คน ไปแถลงต่อศาล และตรวจสอบการการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการก่อเหตุรุมทำร้าย เยาวชนอายุ 17 ปี ก่อนกระโดดลงคลองทวีวัฒนา และเสียชีวิต ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมายเด็กและเยาวชน

โดยเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเป็นนักเรียนอาชีวะ 2 สถาบัน และระหว่างที่มาพบเจอกันย่านถนนเรียบคลองทวีวัฒนา ได้ก่อเหตุไล่ทำร้ายกัน จึงเกิดเหตุกังกล่าว ตำรวจจึงตรวตสอบกล้องวงจรปิด จนสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้ 4 คน พร้อมกับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ก่อนที่จะไปคุมตัวมาสอบสวน

พ.ต.ท.ณภัทร แสนธรรม รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลหลักสอง เปิดเผยว่า หลังจากนั้นทางญาติหรือผู้ปกครอง สามารถที่จะยื่นคำร้องขอประกันตัว โดยจะเป็นดุลยพินิจของศาลในการพิจารณา

ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หรือ ชี้จุดเกิดเหตุ ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นเยาวชน และพนักงานสอบสวนคำนึงถึงความปลอดภัย เกรงว่าหากมีการชี้จุด อาจไม่ได้รับความปลอดภัย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,พาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุอันสมควร

สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ตรวจสอบพบว่ามีอายุ 18 ปี ผ่านมาได้เพียง 12 วันนั้น ตามกฏหมายถือว่าเข้าข่ายเป็นผู้ใหญ่ จะต้องถูกดำเนินคดีโดยจะมีศาลอาญาในภายหลัง เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังสามารถควบคุมตัวได้ ภายในกำหนด 48 ชั่วโมง โดยจะมีการแจ้งข้อหาฐานความผิดเดียวกัน เนื่องจากการมีพฤติกรรมร่วมกัน

หนึ่งในบิดาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ลูกชายเรียนอยู่ชั้นปวช.3 ของโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดเทอมมาไม่นานนี้ เบื้องต้นทราบเพียงว่ามีการไล่ทำร้ายโดยใช้มีดดาบ เพื่อที่ต้องการเสื้อช็อป เนื่องจากผู้เสียชีวิตเรียนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งที่เป็นผู้ขัดแย้งกัน แต่ยืนยันว่าปกติแล้วลูกไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ส่วนในรายละเอียดที่ก่อเหตุลงไปนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากลูกชายไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ก็เชื่อว่าอาจจะก่อเหตุไปตามเพื่อน

ขณะที่น.ส.กรวรรณ กกรัมย์ อายุ 36 ปี มารดาของ ชนายศุภทัต หรือแอ้ม สังข์ทอง อายุ 17 ปี นักเรียนแผนกช่างยนต์ ชั้น ปวช.2 วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู ที่เสียชีวิต ได้เดินเคาะโลงศพพูดคุยกับลูกชายทำนองขอให้เข้าใจในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ที่สูญเสีย โดยที่มีคนมาทำครอบครัวให้แยกจากกัน รู้ดีว่าลูกชายเป็นคนจิตใจดีและพร้อมจะให้อภัย แต่แม่ยังทำใจไม่ได้และขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับผู้ที่กระทำกับลูก

เบื้องต้น ทราบว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้วบางส่วน แต่ถึงแม้ว่าคนร้ายจะมาขอขมาก็ยังไม่พร้อมที่จะพุดคุยหรืออโหสิกรรมให้ได้ เพราะมองว่ามันง่ายเกินไป ขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีตามกฏหมาย

ยอมรับว่าที่ผ่านมาเมื่อปี 2563 ลูกชายเคยประสบเหตุลักษณะเดียวกันคือมีกลุ่มวัยรุ่นมาดักข่มขู่จะเอาเสื้อและเข็มขัดของสถาบันที่ลูกเรียนอยู่ แต่ลูกก็ตัดสินใจโดดน้ำหนีและไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง แต่มาครั้งนี้ลักษณะมีการขับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ตามมาจากสถาบันฯจนกระทั่งระหว่างทางทั้ง 2 คันได้ขับรถปาดหน้าลูกชายและชักมีดออกมา 2 เล่ม ก่อนลูกชายพยายามขับรถหนีแต่ก็มีอีกคันมาดักหัวและท้ายไว้ ทำให้ต้องตัดสินทิ้งรถและโดดลงน้ำเพื่อพยายามหนีไม่ให้มีเรื่องกัน แต่ลูกก็ไม่ได้กลับมาบ้านอีกเหมือนครั้งที่แล้ว

สำหรับ สภาพศพลูกชายยังอยู่ในชุดนักศึกษาโดยมีเสื้อคลุมสีดำใส่ทับ ทำให้แม่ไม่สามารถที่จะทำใจได้ ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับลูกด้วยความเป็นห่วงเพราะมีข่าวความรุนแรงกลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันยกพวกตีกัน แต่ลูกก็ยืนยันที่จะเรียนเพราะมั่นใจในความตั้งใจของตัวเองที่อยากเรียนเป็นช่างและมีอู่รถของตัวเอง ในฐานะแม่จึงสนับสนุนความฝันของลูกมาตลอด

ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่กรมคุมครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าพูดคุยและรับเรื่องราวร้องทุกข์กับครอบครัวของน้องแอ้ม พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัว กรณีมีผู้เสียชีวิตจากการถูกกระทำ ไม่เกิน 110,000 บาท

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/fAIgDyqBgoM