เปิดภาพพิธีรับน้ององค์กรเด็กช่าง สอนน้องเหมือนลัทธิ ท่องจำให้ขึ้นใจ ถ้าถูกจับ “ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ทำ”

เผยภาพ แก๊งรุ่นพี่ สอนน้องเหมือนลัทธิ สั่งให้เขียนใส่สมุดและท่อง หากตร.จับ บอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ทำ ผู้การสืบสวนนครบาลยัน มีหลักฐานเอาผิดทุกคนไม่ใช่แพะ แนะเพื่อนที่ออกมาพูดระวังตัว


หลังจากตำรวจติดตามจับกุมกลุ่มเด็กช่างที่ก่อเหตุยิงน้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย และกระสุนลูกหลงยังไปโดนครูเจี๊ยบเสียชีวิตด้วย โดยทำหน้าที่วางแผนก่อเหตุ ส่วนมือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุ ยังอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม    

วานนี้ (23 พ.ย.) มีการเผยแพร่ภาพที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้มา สอดคล้องตรงกับหลักฐานภายในเซฟเฮ้าส์ และหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหาบางคน ที่มีส่วนพัวพันกับคดีคนร้ายก่อเหตุ

ในภาพที่เห็นเป็นการนั่งประชุมภายในเซฟเฮาส์ จะมีผี หรือที่เรียกกันว่ารุ่นพี่นั่งอยู่บนโซฟาไม้ ที่ด้านหลังจะมีการแขวนเสื้อช็อปของสถาบันช่างกลดังกล่าวไว้เป็นสัญลักษณ์ และทุกคนจะถอดเสื้อ สะพายกระเป๋าเป้สีดำ และสวมกางเกงสีดำ ซึ่งการแต่งกายเหมือนกันทุกคน  ทั้งนี้ยังพบว่ามีการนำถุงพลาสติกสีดำมาปิดทับที่กระจกประตูเข้าออก และบริเวณกระจกหน้าต่างด้านข้าง ซึ่งจะเห็นรถจักรยานยนต์สีแดงคันหนึ่ง จอดอยู่บริเวณข้างบ้าน

ภาพดังกล่าวมีข้อมูลว่าเป็นการรับน้องทำกิจกรรมแบบลับๆ รุ่นพี่สั่งรุ่นน้องให้ทำตามระบบ หรือเป็นการประชุมตระเตรียมเพื่อจะทำภารกิจบางอย่าง และมีการฝึกคล้ายกับการสอนการปฎิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง และในภาพจะเห็นว่ามีการให้ยกมือคล้ายกับการฝึกวิชาทหารหรือการฝึกออกรบ

ทั้งนี้ มีข้อมูล จากแหล่งข่าวด้วยว่าการฝึกจะโดนกระทืบ  ยิงปืนข้างๆ หู ใกล้ๆ หู เพื่อให้ชินกับเสียงปืน ฝึกการให้ช่วยเหลือเพื่อน หากถูกบังคับ เค้นสอบ ก็จะถูกฝึกเพื่อไม่ให้หลุดพูดหากถูกสอบถามว่า เรียนที่ไหน ใครทำอะไรบ้าง ซึ่งวิธีการรับน้องแบบนี้จะถูกเรียกว่า รับน้องแบบ Special

และยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า การรับน้องเข้ากลุ่มหรือองค์กรภายในเซฟเฮ้าส์สำหรับซ่องสุม โดยจะมีรุ่นพี่หรือหัวหน้ากลุ่มคอยทำหน้าที่รับน้อง ซึ่งแต่ละสายจะมีชื่อกลุ่มเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อสายรถเมล์หรือชื่อถนนมาตั้งแต่เป็นชื่อกลุ่ม ก่อนจะทำพวงกุญแจที่เป็นสัญลักษณ์ขึ้นมา เพื่อให้รู้ว่าอยู่กลุ่มไหน

นอกจากนี้ชุดสืบสวนนครบาลตรวจสอบพบว่า องค์กรนี้ยังมีลักษณะพฤติการณ์ของการรวมตัวกันเพื่อเรียนรู้ ทักษะในการก่อเหตุ โดยมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาส่วนมากที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ เป็นเพียงกลุ่มที่เพิ่งเข้ารับการฝึกฝนและถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่นพี่ หรือเรียกว่าเป็นระดับอนุบาล ส่วนคนในกลุ่มที่เคยเรียนรู้และผ่านพ้นขั้นแรกมา จะได้ออกไปลองดูงาน ยกตัวอย่างไปสังเกตการณ์เหตุยิงในงานแต่งศิษย์เก่าอุเทนถวาย คนกลุ่มนี้จะได้ยกระดับมาอยู่ชั้นประถม โดยคนกลุ่มนี้พบถูกจับกุมในคดียิงครูเจี๊ยบ และถูกคุมตัวได้เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วย

สำหรับกลุ่มคนในแก๊งที่เคยร่วมก่อเหตุในคดีดังก่อนหน้านี้มาแล้ว อย่างคดียิงหน้าคณะเภสัช คนกลุ่มนี้จะถูกยกระดับให้อยู่ในชั้นมัธยม 

ด้าน พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธี ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนนครบาล เปิดเผยถึงพฤติกรรมของกลุ่มนี้ที่จะมีรุ่นพี่คอยสอนวิธีการก่อเหตุต่างๆ เช่น สอนให้เป็นชุดไล่ล่า  สอนวิธีการยิง การเป็นมือปืน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ เราจะไม่จับแค่สองคน หรือแค่คนเกี่ยวข้องกับคดีน้องหยอดและครูเจี๊ยบ แต่เราจะจับแม้กระทั่งคนที่ช่วยเหลือรวมไปถึงคนที่พูดเรื่องการเป็นแพะด้วย ว่าเกี่ยวข้องส่วนใดด้วยหรือไม่

ส่วนวิธีการในการฝึกสอนรุ่นน้องนั้นก็จะเริ่มตั้งแต่ปีหนึ่ง ใช้วิธีเหมือนกับเปรียบเทียบโลกเสมือนจริงตามที่พลตำรวจโทฐิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเคยให้ข้อมูลไว้ ปลูกฝังทางความคิดถ้าตัวเด็กมีภูมิคุ้มกันจากทางครอบครัว หรือจากครูผู้ปกครองก็จะมีความเข้มแข็งทำให้กลุ่มพวกนี้เข้ามาไม่ได้

ขณะเดียวกันตำรวจก็ต้องเข้มแข็งและปฏิบัติการเชิงรุกมันเป็นการเพราะพฤติกรรมนี้มีสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นกว่า 30 ปีและเป็นเหมือนวัฒนธรรมที่ต้องทำต่อเนื่องกันมา และเป็นการก่อเหตุที่ผิดเพี้ยนมากใน ช่วง 2 ปีหลังเพราะการก่อเหตุแต่ละครั้งนี้อุกอาจ

ส่วนกรณีที่เพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมไปก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่าเพื่อนที่ถูกจับกุมไปเป็นแพะ และให้สื่อมวลชนรอติดตามคดีนี้ในชั้นศาล พลตำรวจตรีธีรเดช บอกว่า การจับกุมเราจับตามหมายจับของศาล และชุดที่ทลายเซฟเฮาส์มีหมายค้นและพยานหลักฐาน ข้อมูลที่เขาพูดอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา “แต่ก็ต้องบอกถึงคนที่พูด ให้ระวังตัวให้ดี”

ส่วนการสอบปากคำทั้ง 9 คนที่จับกุมมาได้ไม่มีใครยอมให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น โดยจากข้อมูลที่ สืบสวนมาได้พบว่ากลุ่มนี้ จะมีการปลูกฝังและให้จดใส่สมุด และท่องจำเสมอหากถูกตำรวจจับกุมว่า “ถ้าตำรวจจับและสอบปากคำ ให้ตอบ ไม่รู้  ไม่เห็น  ไม่ทราบ ไม่ให้ความร่วมมือ” เป็นการสอนรุ่นน้องแบบนี้มาตลอด หากวันที่ตำรวจเข้าจับกุม ไม่มีข้อมูลหลักฐานพยานเพียงพอ ตำรวจจะกลายเป็น จำเลยของกลุ่มพวกเขา และอาจจะเอาทนายมาดำเนินคดีกับตำรวจ

ส่วนเงินที่ใช้สนับสนุนในการก่อเหตุและการจ้างทนายความนั้น พบว่ามีบัญชีที่เป็นการเรี่ยรายเงินของสมาชิกองค์กร และนายทุนในการบริหารจัดการ เช่น การเอาไปซื้อปืน ค่าทนาย เป็นต้น

เมื่อถามว่า หัวหน้าทีมของกลุ่มนี้ ที่เรียกว่าผี คือใคร ตร.มีเบาะแสหรือไม่ พล.ต.ต. ธรีเดช บอกว่า พฤติกรรมของกลุ่มนี้เค้าจะปกปิดหัวหน้าทีมไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร เป็นกฎของเค้า ตำรวจคงต้องใช้เวลาในการหาไอ้โม่งรายนี้ มาให้ได้


ส่วน 9 คนที่จับมาพบว่ามี 1 คน ที่ก่อเหตุยิงถล่มในงานแต่งพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อปี 65 นอกจากนี้ยังพบว่าบางคนที่มาเยี่ยมก็ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ตอนนี้ถึงเวลากระชากหน้ากากกันกลุ่มพวกนี้แล้ว ไม่ได้เรียนก็ออกมามาสร้างความเดือดร้อน

สำหรับคดีการยิงน้องหยอดกับครูเจี๊ยบนั้นยืนยันว่าที่จะจับกุมมาได้ทั้ง 9 รายมีส่วนเกี่ยวข้องแต่รายสำคัญยังเหลืออีก 3 คือ คนขับ  คนยิง / และคนวางแผน ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัว 0

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wWAcm9twdk8