'ปานปรีย์' เผยผลงานชิ้นสำคัญ ไทย - เวียดนาม เตรียมยกระดับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ขั้นสูงสุด

วันนี้ (26 ต.ค.) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม การเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-26 ต.ค. 2566


โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเตรียมการสำหรับการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน  จัดการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีและจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม ในปี 2567




ทั้งสองฝ่ายได้หารือความร่วมมือสาขาต่าง ๆ ระหว่างกันในทุกมิติ อาทิ ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ไปจนถึงปฏิสัมพันธ์ระดับประชาชน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาค อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อาเซียน และระหว่างประเทศด้วย นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้ย้ำความพร้อมของฝ่ายไทยในการรับการเยือนไทยของประธานสภาแห่งชาติเวียดนามในเดือนธันวาคม ปีนี้ และได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเยือนไทยอย่างเป็นทางการต่อไปด้วย ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังได้แสดงความเสียใจต่อผลกระทบต่อแรงงานไทยในอิสราเอล ด้วย


นายปานปรีย์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งในการเปิดฉากความสัมพันธ์ กับ เวียดนาม เพราะได้มีการพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์กันอย่างกว้างขวาง และหลากหลาย  โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันในการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรีไทย คาเว่าจะมีขึ้นในต้นปีหน้า ระยะเห็นชอบให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกันระหว่างสองประเทศ ที่ประเทศเวียดนาม ในปีหน้าหน้า ซึ่งเคยมีการประชุมมาล่าสุด เมื่อ5ปีที่แล้ว




นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ย้ำถึงการค้าการลงทุนระหว่างกัน ที่พยายาม ให้มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 25,000ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025  จาก เดิมอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการอำนวยความสะดวก ให้กับนักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนาม นั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามก็ตอบรับ ที่จะดำเนินการอำนวยความสะดวกปัญหาอุปสรรคต่างๆให้หมดไป ส่วนความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคทางเวียดนามให้ความสำคัญ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือ ACMECS  และ การเชื่อมโยง 3 มิติ ที่เกี่ยวเนื่องกับอนุภูมิภาค และเป็นเรื่องระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการลงทุนระหว่างประเทศในเวลานี้ด้วย


ทั้งนี้ทั้งสองเรื่องนี้เคยมีการเสนอต่อรัฐบาลเวียดนาม แต่ก็ไม่ได้มีการตอบรับ จนกระทั่งล่าสุดที่ทางเวียดนาม ตอบรับที่จะขับเคลื่อนกับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นน่ายินดี




นายปานปรีย์ ยังเปิดเผยด้วยว่า การหารือครั้งนี้ ยังมีชิ้นงานชิ้นสำคัญที่สุด นั่นก็คือการที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันใน จะการยกระดับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ระหว่างไทยกับเวียดนาม ซึ่งฝ่ายเวียดนามได้เสนอยกระดับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไปในระดับที่สูงสุด หรือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน  ซึ่งจะถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนของเวียดนาม สินค้าว่าจะสามารถประกาศการยกระดับอย่างเป็นทางการได้ในการเดินทางเกรียนจะไปทางการของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน  ซึ่งจะส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่มีความใกล้ชิดระหว่างไทยกับเวียดนามมากยิ่งขึ้น

โดย parichat_p

26 ต.ค. 2566

102 views

EP อื่นๆ