แม่ร้อง ก.ยุติธรรม เร่งคดีสามีข่มขืนลูก 7 ขวบ ซ้ำเล่นชู้กับแม่ยาย ไม่มีใครเชื่อ หาว่าสติไม่ดี

แม่ร้องกันจอมพลัง หลังสามีข่มขืนลูกสาวแท้ๆ วัย 7 ขวบ แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ หวั่นไม่ปลอดภัยกลัวสามีกลับมาทำร้าย ซ้ำจับได้อีกว่าผัวเล่นชู้กับแม่ยาย จนบ้านแตก เพราะญาติพี่น้องไม่มีใครเชื่อ หาว่าเธอสติไม่ดี

นางสาวศศิธร อายุ 32 ปี แม่ผู้เสียหาย กล่าวว่า เธอคบหากับนายติ๊ก อายุ 43 ปี มานาน 8 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 7 ขวบ โดยช่วงปลายปีที่แล้ว เธอจับได้ว่าสามีไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น และมีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ที่เธอรับไม่ได้ ก็คือ มั่ว เธอจึงตัดสินใจขอเลิก โดยที่ฝ่ายชายรับลูกสาวไปเลี้ยงดู จนผ่านมาประมาณ 3-4 เดือน เวลาเธอโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลไปหาลูกสาว ลูกเหมือนพยายามจะเล่าอะไรให้ฟังเกี่ยวกับพ่อ แต่ก็จะถูกสามีเธอเข้ามาห้ามและกีดกันตลอด จนสงสัยและรู้สึกถึงความผิดปกติ เลยไปรับตัวลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย

นางสาวศศิธร กล่าวอีกว่า ลูกสาวจะร้องไห้และกรี๊ดทุกครั้งเวลาถามถึงพ่อ จนสุดท้ายยอมเล่าให้ฟังว่า พ่อใช้นิ้วกระทำชำเราหลายครั้ง ซึ่งบางครั้งถ้าย่ามาเห็นก็จะห้าม แต่ก็ไม่ได้ช่วยหรือทำอะไร เธอจึงพาลูกสาวไปแจ้งความและตรวจร่างกาย แพทย์ระบุ สงสัยว่าถูกกระทำชำเรา เนื่องจากพบร่องรอยการฉีกขาดของเส้นพรหมจรรย์และน่าเชื่อว่ามีวัสดุหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด หลังจากนั้นก็ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว จนถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า ยังไม่เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำหรือดำเนินคดีเลย

นางสาวศศิธรจึงกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะสามีเป็นคนอารมณ์ร้อนและช่วงที่คบหากันเคยถูกทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง จึงมาขอความช่วยเหลือกับ กัน จอมพลัง ให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี และขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาววัย 7 ขวบที่ต้องมาถูกกระทำลักษณะนี้ด้วย

นอกจากนี้นางสาวศศิธรยังนำใบรับรองแพทย์การตรวจจิตเวชให้ทีมข่าวดูเพื่อยืนยันว่า เธอเองไม่ได้มีอาการหรือภาวะทางจิต เพราะก่อนหน้านี้ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ แถมบอกว่าเธอเป็นบ้า

นางสาวศศิธร กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ก่อนพ่อเธอเสียชีวิต พ่อได้เล่าให้เธอฟังว่า แม่ของเธอก็เคยมีสัมพันธ์กับสามีเธอด้วยในลักษณะสมยอม พ่อพยายามจะเล่าให้ฟังหลายครั้ง แต่ถูกแม่เข้ามาห้ามและโวยวาย พาลทำให้ทะเลาะกัน ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ

ช่วงบ่ายวันนี้ กัน จอมพลัง จะพานางสาวศศิธรไปยื่นหนังสือ เพื่อขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงยุติธรรม และจะช่วยเร่งรัดติดตามคดีให้นำตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป