พี่สาวคนโตไม่เชื่อ น้องถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนนาน 9 ปี พี่ชายรับรู้นานแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้

จากกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พา ด.ญ.เอ อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายบี ผู้เป็นพ่อ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี หลังข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ นานกว่า 9 ปี (7 ขวบ - 16 ปี) โดยหลังจากเรียนจบ ป.6 นายบี ได้บอกกับ ด.ญ.เอ ว่าไม่ต้องไปเรียนแล้ว กลัวไปเรียนเดี๋ยวมีแฟน ให้อยู่แต่บ้านเพื่อเป็นเมียตนเอง

วานนี้ (วันที่ 15 ก.ค.) ทีมข่าวได้สอบถามพี่ชายของน้องเอ ชื่อนายสอง อายุ 18 ปี เล่าว่าตนเอง ตนเองรู้มานานแล้วว่าน้องสาว ถูกพ่อกระทำชำเรา ตั้งแต่แม่ยังไม่เสียชีวิต (เสียชีวิตมา 1 ปีกว่าๆ) ตนรู้ทั้งรู้แต่ช่วยเหลืออะไรน้องไม่ได้เนื่องจากตนเองก็กลัวพ่อจะทำร้ายร่างกายเช่นกัน ตนเองเคยแนะนำน้องสาวว่าให้ขึ้นไปอยู่บ้านพี่สาวไหมที่บึงกาฬ น้องอยากไป แต่พ่อก็ไม่ให้ไป เพราะเป็นวิธีเดียวที่น้องสาวจะได้ออกห่างจากพ่อ ส่วนน้องเอเวลามีอะไรจะไม่ค่อยเล่าให้ตนฟัง น้องจะไปเล่าให้คนข้างห้องฟัง และให้เพื่อนข้างห้องมาคุยกับตนอีกทีนึง

ด้านนางส้ม (พี่สาวคนโต) ระบุว่า ที่ได้คุยกับน้องสาวตอนประมาณเที่ยงคืน โทรมาปรึกษาตนว่าพ่อข่มขืน ตนจึงถามไปว่าพ่อทำนานหรือยัง น้องบอกว่าตั้งแต่ 9 ขวบ ตนเองยืนยันว่าน้องไม่ได้ถูกกระทำ เนื่องจากน้องยังพักอาศัยอยู่กับตนเองที่จังหวัดกาญจนบุรี น้องเพิ่งมาอยู่กับพ่อเมื่อช่วง อายุ 14-15 ปี แล้วจะถูกพ่อกระทำชำเราได้อย่างไร เพราะในช่วงนั้นแม่ก็อยู่ด้วย แม่เพิ่งมาเสียได้ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องน้องถูกพ่อกระทำหรือไม่ ตนเองไม่รู้เนื่องจากอยู่คนละบ้านคนละจังหวัด ไม่เชื่อว่าพ่อจะทำกับน้องได้ ก่อนหน้านี้ตนเองเคยอยู่กับพ่อสองต่อสองเวลาแม่ไม่อยู่ พ่อยังไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ ตนคิดว่าน้องเอเป็นเด็กชอบเรียกร้องความสนใจ สติไม่ดี ชอบคิดสั้น ตนเองจึงคิดว่าน้องโกหก ขณะตอนนี้ตนเองยังไม่เชื่อ ตนเองรู้นิสัยน้องดีเนื่องจากอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป และยังติดต่อพ่อไม่ได้ ถ้าหากพ่อกระทำกับน้องจริงๆ พ่อก็คงรู้สึกผิดที่เขาได้กระทำลงไป พ่อคงไม่อยากทำลูกสาวแท้ๆอยู่แล้ว หากพ่อทำจริงๆตนเองคงรู้สึกผิดหวังในสิ่งที่เกิดขึ้น

ด้านนายยอด (สงวนชื่อจริง) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนเองสังเกตเห็นน้องเอ มีพฤติกรรมซึมเศร้า ไม่เล่นกับใคร ชอบนั่งร้องไห้อยู่ริมถนน คล้ายเด็กเก็บกด จึงเข้าไปสอบถามแรกๆน้องไม่พูดอะไร พอเค้นถามหลายครั้งน้องจึงเล่าให้ฟังว่า ถูกพ่อแท้ๆของตนเองข่มขืนมานานกว่า 9 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.2 และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร จนกระทั่ง น้องเรียนถึงชั้น ป.6 พ่อเริ่มมีพฤติกรรมหึงหวง และทุบตีเนื่องจากกลัวน้องจะไปมีแฟน น้องเครียดมากจึงได้ตัดสินใจผูกคอตาย โดยปีนบันไดนำเชือกมาผูกกับขื่อบ้าน และทิ้งตัวลงมา แต่แม่เข้ามาช่วยได้ทัน หลังจากแม่เสียชีวิตน้องถูกพ่อข่มขืนเกือบทุกวัน โดยพ่อจะมีความต้องการทางเพศมาก หากน้องไม่ยอมจะถูกทุบตี ทุกวันพ่อจะให้เงินน้องไว้กินวันละ 20 บาท หากวันไหนน้องขัดขืนไม่ยอมให้พ่อมีอะไรด้วย พ่อจะไม่ให้เงิน และไม่ซื้อข้าวให้ น้องต้องทนหิวกินเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น น้องยอมรับว่าสาเหตุที่ไปนั่งริมถนนทุกวันเพราะอยากวิ่งออกไปให้รถชนให้ตายเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อข่มขืนอีก

จึงแนะนำให้น้องปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ชายของน้องแท้ๆ ที่มีอายุ 18 ปี เพื่อพาเข้าแจ้งความ แต่พี่ชายปฏิเสธเนื่องจากกลัวพ่อจะมาเอาเรื่อง ต่อมาพี่สาวของน้องกับป้าแท้ๆของน้อง ที่อยู่ต่างจังหวัดรู้เรื่อง ทางพี่สาวจึงได้ติดต่อมาหาน้อง พร้อมขอไม่ให้แจ้งความ โดยบอกกับน้องว่า "โดนพ่อข่มขืน ยังดีกว่าโดนคนอื่นข่มขืน เพราะพ่อเป็นผู้มีพระคุณ" และยังข่มขู่ว่า หากแจ้งความพี่สาวก็จะประจานว่าน้องเต็มใจไปนอนให้พ่อมาข่มขืนเอง ตนจึงตัดสินใจจะพาน้องเข้าไปแจ้งความเอง แต่ภรรยาตนบอกว่าพ่อของ ด.ญ.เอ รู้จักคนในพื้นที่เยอะ เกรงว่าหากตนพามาแจ้งความคดีอาจจะล่าช้าและน้องจะไม่ปลอดภัย ตนจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือมายัง เพจสายไหมต้องรอด

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ระบุว่าหลังทราบเรื่องตนได้ประสานไป ผกก.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ หากเราปล่อยเวลาผ่านไป เท่ากับเราต้องปล่อยให้เหยื่อเสี่ยงที่จะถูกพ่อใจทรามข่มขืนไปเรื่อยๆ ขณะที่กรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่งนักสังคมสงเคราะห์เป็นตัวแทนเข้าร่วมการสอบสหวิชาชีพเด็ก

โดยหลังจากเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเสร็จ ทางหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี ได้แยกพา ด.ญ.เอ ไปเข้ารับการคุ้มครอง ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี สังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/j1pbCeO8SNw