พลทหารอาสาฯ รักคุด ยิงสาวคราวลูกสาหัส เซ่นปฏิเสธคบหา ก่อนยิงตัวตายหนีผิด

พลทหารอากาศอาสาสมัคร รักคุด ยิงเด็กวัย 13 ที่ตามจีบอาการสาหัส ส่วนตัวเองยิงตัวตายเซ่นความรักดับอนาถ

เมื่อเวลา 12.00 น. (4 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ สน.บางนา รับแจ้งเหตุยิงกันตายและมีผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ในแขวงบางนาเหนือ เขตบางนา พบศพพลทหารอาสาสมัครปิยะมิตร บันดาลุน อายุ 34 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ขวางประตูทางเข้าบ้าน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัดใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุน 2 ปลอก กระสุน 4 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนเจ็บคือ ด.ญ.อายุ 13 ขวบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่บ้านเยื้องฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าขมับซ้ายทะลุท้ายทอย อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ไทยนครินทร์

จากการสอบสวนยายของผู้บาดเจ็บให้การว่า คนตายเป็นลูกชายนางประยูรณ์ บันดาลุน อายุ 62 ปี นางประยูรณ์เคยรับจ้างเลี้ยงน้องผู้บาดเจ็บมาตั้งแต่เด็ก 2-3 ขวบ คนตายพบเห็นและชอบตามจีบน้องมาตั้งแต่น้องอายุ 11 ขวบ แต่น้องไม่ชอบและตามตื้อเรื่อยมา ก่อนเกิดเหตุน้องได้มาหาตนที่บ้านตนที่เกิดเหตุ พร้อมผู้ตายพาแม่มาด้วยพูดคุยเรื่องดังกล่าวภายในบ้านตน  ตนบอกไปว่าน้องอายุยังน้อยต้องการให้เรียนหนังสือให้จบมีงานทำก่อยค่อยมีแฟน ส่วนน้องก็ตอบปฏิเสธผู้ตายด้วยเช่นกันทำให้ผู้ตายโมโหชักปืนออกมาจากเอวยิงน้อง 1 นัด และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเอง 1 นัด ตายตาม ตนกับนางประยูรณ์ตกใจกรีดร้องให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์แล้ว

ขณะที่นางประยูรณ์กล่าวว่า ลูกชายเป็นพลทหารอากาศอาสาสมัครประจำอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงหลังมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาพักที่บ้านหลายเดือนแล้ว ตนรู้ว่าลูกชายชอบน้องผู้บาดเจ็บ เคยห้ามเพราะเห็นน้องยังเด็กแต่ลูกชายก็ตามจีบเรื่อยมา ก่อนเกิดชักชวนตนไปพูดคุยกับน้องเนื่องจากมีปัญหาเรื่องตามจีบกัน เห็นว่าเป็นเด็กที่ตนเคยรับเลี้ยง เห็นกันมาแต่เด็กและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกลัวมองหน้ากันไม่ติดจึงมาเจรจาพูดคุย ไม่คิดว่าลูกชายพกปืนมาด้วยและก่อเหตุยิงน้องและยิงตัวเองตายตามเซ่นความรักไม่สมหวังภายหลังน้องปฏิเสธความรักอย่างไม่มีเยื้อใย

ด้าน พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูล พานิชย์ ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุยิงตัวตายเสียชีวิต  คดีความตามอาญาก็ต้องสิ้นสุดลง ส่วนผู้บาดเจ็บถ้าไม่เสียชีวิตตนจะเชิญญาติทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยการเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป