แกะรอย 'กู๋เอี๋ยว' เจ้าของคลับวัน สวมบัตร ปชช.คนไทย พบข้อมูลยืนยันเจ้าของบัตรตัวจริงเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว

การตรวจค้นยาเสพติดในสถานบันเทิงของเมืองพัทยา ได้นำไปสู่การตรวจสอบบัตรประชาชนของเจ้าของสถานบันเทิงกระทั่งพบหลักฐานว่ามีการสวมบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ที่เทศบาลเมืองตราด และได้สวมบัตรประชาชนมา 30 ปีแล้ว แต่เรื่องเพิ่งมาแดงเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงที่มีเครือข่ายเป็นคนต่างชาติ



การเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงคลับวันที่เมืองพัทยา ทำให้ชื่อ กู๋เอี๋ยว ปรากฏขึ้นมาทันทีเมื่อเขาโวยวายว่าได้จ่ายเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว แต่วันต่อมาได้ออกมาขอโทษว่าอยู่ในอาการมึนเมา แต่เรื่องยังไม่จบง่าย ในที่สุดถูกจับกุมได้ ที่หน้าศาลจังหวัด พัทยา ระหว่างเพิ่งออกจากการพิจารณาคดีเก่า "ร่วมกันมีคีตามีน​ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต​ โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า​ และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป​ ได้กระทำความผิดร้ายแรง​



เรื่องใหญ่จึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อนายนิธิพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือกู่เอี๋ยว อายุ 45 ปี เป็นชาวจีนที่สวมบัตรประชาชน

ทีมข่าว 3 มิติได้เดินทางไปตามที่อยู่ของนายธนพัฒน์ ที่อยู่ใน อ.บางละมุง เป็นบ้าน 2 ชั้น มีชื่อบริษัทติดอยู่หน้าบ้านว่า บริษัทอินฟีนีตี้ 9 จากการสอบถาม พบว่ากู๋เอี๋ยวเคยมาพักกับภรรยาคนไทยเป็นบางครั้ง มาเพียงวัน-2 วันก็ไป



ส่วนบ้านบิดา มารดา ที่นายนิธิพัฒน์ใช้อ้างถึง พบว่า บิดาชื่อนายวิชัยเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2543 ส่วนมารดายังอยู่ ค่อนข้างมีฐานะ แต่มีบุตรสาวคนเดียว ไม่มีบุตรชาย ไม่ทราบว่านายนิธิพัฒน์เป็นบุตรใคร แต่ชื่อกู๋เอี๋ยว ก็ค่อนข้างดังในเมืองพัทยา เพราะทำธุรกิจสถานบันเทิง



ขณะที่ นายภิรมย์ ชุมนุม นายอำเภอเมืองตราด เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่าจากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่สวมสิทธิบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต ได้ไปแจ้งเกิดที่คลินิคแพทย์แห่งหนึ่งใน จ.ตราด ก่อนจะแจ้งทำบัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักทะเบียน เทศบาลเมืองตราด และจากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ที่สวมสิทธิบัตรผู้เสียชีวิตมีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2535 ในยุคที่ นายสมพร บุญเสริม เป็นนายอำเภอเมืองตราด ซึ่งผ่านมา 30 ปีแล้ว