อาชญากรรม

จับสาวเมียนมาสวมบัตรคนไทยเปิดโรงเรียนสอนภาษา เพื่อเปิดทางกลุ่มคนจีนขอวีซ่านักเรียน

โดย nattakarn_l

2 ธ.ค. 2565

335 views

              พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  แถลงรายละเอียดการจับกุมผู้ต้องหาคดีสวมบัตรประชาชนคนไทย แล้วนำไปเปิดสำนักงานนายหน้าสถานศึกษา เพื่อรับรองชาวต่างชาติให้สามารถศึกษาในประเทศไทยและอยู่ในไทยได้นานขึ้น  โดยจับกุมหญิงชาวเมียนมา ผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสาทร

             โดยคดีนี้ ตำรวจชุดสืบสวนได้รับร้องเรียนว่า พบบุคคลต้องสงสัยที่ใช้บัตรประชาชนคนไทย ไปติดต่อราชการ  แต่ไม่สามารถพูดไทยได้  เมื่อตรวจสอบพบว่า ถือบัตรประชาชนของนางสาวพนิดา และได้นำบัตรนี้ไปขอแจ้งเกิดบุตรเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2557 โดยไม่ระบุชื่อบิดาผู้ให้กำเนิด และพบว่าอาจจะเป็นสูติบัตรปลอม ตำรวจได้ไปตรวจสอบกับนางสาวพนิดา  พบว่าแท้จริงแล้วเป็นบุคคลพิการตั้งแต่กำเนิด  อยู่ในความดูแลของมารดามาโดยตลอด  และยังไม่เคยขอมีบัตรประชาชนมาก่อน ซึ่งมารดาของนางสาวพนิดา บอกว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน และมีกลุ่มขบวนการช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประชาชนไทยผิดกฎหมาย  

              ตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับนายชัยพัฒน์   เจ้าหน้าที่ที่ว่าการอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว  ผู้อนุญาตออกบัตรประชาชนให้กับผู้ต้องหา และดำเนินคดีฐานเป็นเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้ดำเนินคดีต่อกับสำนักงาน ปปท. แล้ว  

             จากการสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหายังแอบอ้างในสื่อสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์ต่างๆ ว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ให้บริการการศึกษาแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย โดยได้ทำบันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัย และสถานบันการศึกษาต่างๆ ในประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อชักชวนให้ชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อ โดยเฉพาะคนจีน และสามารถใช้ประโยชน์ในการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยได้ นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ต้องหายังนำบัตรประชาชนไปขอทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล  เพื่อเดินทางเข้าออกประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556

             ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และได้เข้าตรวจค้นในสถาบันสอนภาษาดังกล่าว  ก็พบว่าผู้ต้องหาได้นำบัตรประชาชนของแม่บ้านคนไทย  มาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท  โดยที่แม่บ้านไม่ทราบข้อเท็จจริงมาก่อน  ส่วนตามเอกสารก็ไม่พบว่าผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัท หรือผู้ถือหุ้น  แต่ใช้บุคคลอื่นถือหุ้นแทน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า ขณะนี้พบชาวต่างชาติที่สวมบัตรประชาชนคนไทย เตรียมเปิดตัวเป็นนายหน้าหาสถานศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติใช้เป็นหลักฐานขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย และเตรียมตรวจสอบสถาบันการศึกษา 7-8 แห่ง ที่อาจจะเข้าข่ายความผิดร่วมกับเครือข่ายนี้ หากผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

คุณอาจสนใจ

Related News