ทหารไทยผลักดันผู้อพยพกลับรัฐกะเหรี่ยง 'โฆษก กต.' ปัดไม่จริง เผยจะดูแลผู้ที่ข้ามมาฝั่งไทย

ต่างประเทศ

ทหารไทยผลักดันผู้อพยพกลับรัฐกะเหรี่ยง 'โฆษก กต.' ปัดไม่จริง เผยจะดูแลผู้ที่ข้ามมาฝั่งไทย

โดย passamon_a

30 มี.ค. 2564

23 views

ความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงจากค่ายอิตูท่า กว่า 2 พันคน ที่ล่าสุดทหารไทยได้ผลักดันออกจากห้วยแม่สะเกิบ ริมน้ำสาละวิน เมื่อช่วงเย็นวันนี้ ขณะที่ผู้อพยพส่วนใหญ่ ไม่สมัครใจเดินทางกลับ เนื่องจากยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากการสู้รบ แต่ยังมีบางส่วนยังหลบหนีอยู่ในไทย เรียกร้องรัฐบาลไทยช่วยคุ้มครองความปลอดภัย และช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ จากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน


นี่คือภาพผู้อพยพที่ถูกผลักดันกลับรัฐกะเหรี่ยง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังทหารไทย กรมทหารพรานที่ 36 ได้เข้าไปทำการส่งกลับผู้อพยพ จากห้วยแม่สะเกิบ ริมแม่น้ำสาวิน พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยทั้งหมดกว่า 2 พันคน ได้ขนข้าวของที่อพยพมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากการทิ้งระเบิดและเข้าโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา ประชาชนตามหมู่บ้านต่าง ๆ และผู้ลี้ภัยในค่ายอีตูท่า ได้อพยพหนีตายมาฝั่งไทย


และวันที่ 29 มีนาคม ทหารไทยได้มาผลักดันพวกเขากลับไป และมาวางรั้วลาดหนามตามแนวเส้นทาง ทำให้ชาวกะเหรี่ยง ยอมรับว่ามีความยากลำบาก หนีมาฝั่งไทยเขาก็ให้กลับ กลับไปฝั่งรัฐกะเหรี่ยงก็ยังมีเครื่องบินของพม่า ในขณะที่ผู้อพยพที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา และในจำนวนนั้นมีผู้ป่วยที่ต้องใส่เปลไม้ไผ่หามออกมา ต้องพากันลงเรือข้ามแม่น้ำสาละวิน กว่าจะเสร็จสิ้นก็ใกล้ช่วงค่ำ ท่ามกลางการคุมกำลังของทหารไทย และมีรายงานว่า ขณะนี้ผู้อพยพยังหวาดกลัว ไม่กล้ากลับบ้าน เพราะไม่มั่นใจความปลอดภัยจากการโจมตีของทหารพม่า


ในขณะที่ ข่าว 3 มิติ โทรศัพท์สอบถามจาก นายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ โดยระบุว่าอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทหารพรานที่ 36 และตลอดทั้งวันนี้ ข่าว 3 มิติ ได้พยายามหาเส้นทางที่จะเข้าไปในพื้นที่อพยพริมน้ำสาละวิน แต่เนื่องจากเส้นทางทางเรือยังปิด จึงไปเส้นทางรถยนต์ มีเพียงจุดเดียวที่เข้าถึงผ่านบ้านโพซอ ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องขับรถเข้าไปอีก 1 ชั่วโมงจึงจะถึงชายแดน แต่ไม่สามารถเข้าไปได้


จากจุดตรวจนี้ไป 5 กิโลเมตร เป็นจุดที่มีผู้อพยพกว่า 300 คน และเหนือขึ้นไปคือห้วยแม่สะเกิบ ที่มีผู้อพยพจากค่ายอีตูท่ากว่า 2 พันคน และในช่วงบ่ายที่เราพยายามเข้าไป เป็นช่วงที่กำลังมีการผลักดันกลับ ซึ่งมีสื่อมวลชนไทยและต่างชาติหลายสำนักไม่สามารถผ่านจุดตรวจนี้ไปได้


ข่าว 3 มิติ ได้สอบถามโดยตรงจากผู้อพยพที่หนีภัยมาจากรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งยอมรับว่าทุกคนต่างหวาดหวังเสียงระเบิดจากการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า จึงหวังจะได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลไทยให้ได้รับความปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และคาดหวังจะได้รับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน เช่น น้ำดื่ม อาหาร และยา เนื่องจากมีผู้ป่วย เด็ก และผู้สูงอายุจำนวนมาก พวกเขาได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด ที่มีการปิดจุดผ่อนปรนการค้าแม่สามแลบและหยุดการเดินเรือทำให้ขาดแคลนอาหาร ยิ่งมาเจอสถานการณ์การสู้รบไม่สามารถนำข้าวของมาได้ และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะยุติเมื่อใด


นอกจากนี้ อุทยานสันติภาพสาละวิน ซึ่งเป็นการรวมตัวของชุมนุมในลุ่มน้ำสาละวินรัฐกะเหรี่ยง ออกแถลงการณ์กรณีทหารพม่าโจมตีหมู่บ้านในเขตอุทยานสันติภาพ จนมีประชาชนเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 7 ราย จึงเรียกร้องให้คณะรัฐประหารพม่ายุติการโจมตีทางอากาศ และเปิดทางให้มีการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับผู้ลี้ภัยที่คาดว่าจะหนีภัยมายังไทยอีกจำนวนมาก ขณะที่มูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน ออกแถลงการณ์ด้วยว่าการส่งกลับผู้อพยพในขณะที่สถานการณ์สู้รบยังไม่ยุติ เป็นการละเมิดกฏจารีตประเพณีระหว่างประเทศว่าด่วยหลักการไม่ผลักผู้ลี้ภัยกลับสู่อันตราย


ในขณะที่ฐานทหารเคเอ็นยู ที่ศูนย์อูแวท่า ตรงข้ามปากห้วยสะแงะของไทย ก็ถูกโจมตีได้รับความเสียหาย และยังมีผู้อพยพจำนวนหนึ่งอยู่ฝั่งไทย ส่วนที่กลับไปนั้น ผู้อพยพคนหนึ่งบอกว่า ทหารไทยรับรองควมปลอดภัยว่า อุแวท่าและอตูท่า จะไม่มีทหารพม่าโจมตีแล้ว ขอให้กลับไปได้


ด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงท่าทีของไทยในการดูแลผู้อพยพชาวเมียนมา ว่าเราก็ต้องดูแลในเรื่องสิทธิมนุษยชน ส่วนการส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา ขณะที่กองทัพ นานาชาติ 12 ชาติมหาอำนาจ ประณามกองทัพเมียนมา นั้น


พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การส่งตัวแทนเข้าร่วมงาน เป็นช่องทางการทหารที่จำเป็น ที่เราต้องติดตามสถานการณ์ ก็ต้องหากลไกลช่องทางต่าง ๆ ในการติดตามพัฒนาการทางการเมืองของเมียนมา หรือการใช้ความรุนแรงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น


ขณะที่ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า กะเหรี่ยงที่หนีภัยการสู้รบมาฝั่งไทย แล้วถูกทางการไทยบังคับส่งกลับไปยังฝั่งเมียนมา โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยระบุว่าฝ่ายไทยจะให้การดูแลผู้ที่ข้ามมาฝั่งไทย


วันเดียวกันนี้ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อหยุดความรุนแรงในเมียนมา


คุณอาจสนใจ

Related News