ผู้หนีภัยชุดสุดท้ายเดินทางกลับเมียนมา หลังศึกเมียวดีพักรบ

ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมากลุ่มสุดท้าย เดินทางกลับเมืองเมียวดีแล้ว หลังสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก คาดว่าด่านพรมแดนแม่สอด 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 จะเปิดทำการได้เร็วๆ นี้ ขณะที่โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ยืนยัน KNLA ยังไม่ถอนกำลังจากเมืองเมียวดีและยังไม่ยอมแพ้ทหารเมียนมา การถอยออกจากฐาน 275 เพื่อไม่ให้กระทบกับความปลอดภัยประชาชนและเศรษฐกิจชายแดนทั้งสองประเทศ



ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา กลุ่มสุดท้ายจากพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวท่าทรายรุจิรา 658 คน ทยอยเดินทางกลับเมืองเมียว ผ่านท่าข้ามแม่น้ำเมยตรงข้ามบ้านวังตะเคียน อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนช่วงเที่ยวของวันนี้ หลังสถานการณ์ภายในเมืองเมียวดีของเมียนมาสงบลง



นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า กาชาดจังหวัดตาก กาชาดกิ่งอำเภอแม่สอด ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ร่วมกันส่งผู้หนีภัยการสู้รบเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย คงเหลือกลุ่มเดียวจำนวน 77 คน ที่พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านหนองหลวง อ.อุ้งผาง จ.ตาก ทำให้สามารถปิดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวในอ.แม่สอด แต่หากเกิดสถานการณ์การสู้รบ จนต้องมีผู้หนีภัยการสู้รบมาอีก ก็พร้อมจะเปิดการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ตามข้อมูลว่ามีการเจรจาพูดคุยทั้ง 3 ฝ่ายทำให้สถานการณ์ชายแดนในเมืองเมียวดีสงบลง



ผู้ว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้สะท้อนความพร้อมของจังหวัดตากทั้งการทำงานของระบราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเป็นระบบ จึงต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และผู้หนีภัยการสู้รบก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างดี มีสิ่งของบริจาคที่ประชาชนและภาคเอกชนมอบให้ ทางเจ้าหน้าที่ไทยก็ได้ให้ทางผู้หนีภัยนำกลับไปทั้งหมด สร้างความประทับใจให้กับทุกคนด้วย เพราะเป็นน้ำใจที่ไม่ทิ้งกัน



สำหรับด่านพรมแดนแม่สอด 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตามที่มีการเคลื่อนย้ายทหารเมียนมาที่หนีมาอยู่ด่านเมียวดี 2 ได้กลับไปที่ฐานกองพัน ร. 275 แล้ว คาดว่าจะเปิดด่านพรมแดนแห่งที่ 2 ได้ในไม่ช้านี้ เพราะตามผลการเจรจาจะให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและ ตม.ของเมียนมากลับมาทำงานได้ตามปกติ เพื่อจะได้เปิดด่านพรมแดนแม่สอด 2 ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนทั้ง 2 ปรเทศที่กลับมาทำการค้าได้อีกครั้ง ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน



ส่วนสถานการณ์ภายในเมืองเมียวดี ข่าว 3 มิติ สอบถามไปยัง พะโด่ซอตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ยืนยันว่า ทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ยังไม่ถอนกำลังออกจากเมืองเมียวดี และยังไม่ยอมแพ้ทหารเมียนมา แม้จะปรากฏภาพทหารเมียนมา SAC นำธงชาติเมียนมาไปแสดงสัญลักษณ์ยึดคืนฐานกองพัน ร.275 ก็เป็นเพียงพื้นที่เดียวที่กองกำลัง BGF เปิดทางให้ทหารเมียนมา SAC กลับเข้าไปได้ และยืนยันว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA และสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ไม่ทราบเรื่องการเจรจา 3 ฝ่าย ที่พ.อ.ชิตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF กล่าวอ้างว่าได้เจรจากับ KNLA และ SAC เพื่อที่จะยุติการสู้รบในเมืองเมียวดี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เราขอยืนยันว่า KNLA/KNU ไม่ทราบเรื่องนี้



โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU กล่าวย้ำว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ยังคงควบคุมพื้นที่ฐานทหารเมียนมาอื่นๆที่ยึดได้ก่อนหน้านี้ ทั้ง กองพัน 355,356,357 และบก.ควบคุมที่ 12 จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถอนกำลังออกจากเมืองเมียวดี ในขณะที่แนวหน้ายังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสู้รบกับทหารเมียนมา และเหตุที่ KNU ไม่ได้ตอบโต้กลับที่มีการยึดคืนฐาน 275 เพราะไม่อยากให้กระทบความปลอดภัยของประชาชน และทหารเมียนมาที่หนีทัพไปที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ฝั่งเมียวดี หากถอยออกมาก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบของประชาชนกับความปลอดภัยของประชาชน และไม่อยากให้กระทบกับเศรษฐกิจชายแดนของทั้ง 2 ประเทศด้วย แต่ในทางการทหาร ยังมีปฏิบัติการสู้รบตามเป้าหมาย ไม่ได้ยอมแพ้ ส่วนท่าทีของกองกำลัง BGF ที่กลับไปร่วมมือกับทหารเมียนมา SAC ยังเป็นสิ่งที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะเวลานี้ทางกองกำลังผสม KNLA/PDF ให้ความสำคัญกับการป้องกันเมืองก็อกกะเร็กจากทหารเมียนมาให้ได้