สังคม

นักวิชาการไทยถกแก้ปัญหาสู้รบเมียนมา แนะตัดวงจรธุรกิจสีเทาใน 'ชเวก๊กโก่' อุปสรรคสันติภาพ

โดย panwilai_c

26 เม.ย. 2567

110 views

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา หลังจากเมื่อวาน ข่าว 3 มิติ ได้รายงานว่า เมืองเศรษฐกิจสำคัญชเวก๊กโก่ อาจเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้ สถานการณ์การสู้รบจะสงบ หรือรุนแรง วันนี้ มูลนิธิอิมมานูเอล เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากเหยื่อชาวต่างชาติที่ขอความช่วยเหลือจากเหยื่อค้ามนุษย์ในเมืองชเวก๊กโก่ ว่า ยังมีเหยื่อติดอยู่อีก 18 ราย เป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ ช่วยเหลือเข้ามายังไทยกว่า 100 ราย เป็นหลักฐานยืนยันว่าแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน



ในขณะที่นักวิชาการด้านความมั่นคงมีข้อเสนอเร่งด่วนให้ไทยตัดวงจรโลจิสติกส์เอื้อประโยชน์แหล่งอาชญากรรมข้ามชาติในเมืองเมียวดี อุปสรรคสำคัญต่อสันติภาพในเมียนมา



มองจากฝั่งไทยริมแม่น้ำเมย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เห็นชัดเจนว่าแสงสีเสียง ในเมืองชเวก๊กโก่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา กลายเป้นอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างจากหมู่บ้านในตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด ที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง อาคารที่เป็นภาษาพม่าและภาษาจีน แสดงสัญลักษณ์ของกลุ่มทุนที่เข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่นี่ ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบในเมืองเมียวดี ตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ที่นี่กลับไม่เคยหลับใหล แม้จะรายล้อมไปด้วยเสียงระเบิด และกลายเป็นพื้นที่พิเศษที่ถูกใช้เป็นอำนาจในการต่อรองในการยุติการสู้รบในเมืองเมียวดี แสดงให้เห็นว่า กลุ่มทุนสีเทาคือผู้ชนะในสมรภูมินี้



นี่เป็นหลักฐานพาสปอร์ต และอีเมล์ขอความช่วยเหลือจากเหยื่อชาวยูกันดา ที่ส่งมายังมูลนิธิอิมมานูเอล เช่นเดียวกับเหยื่อชาวเอธิโอเปีย และเคนยา รวม 18 คน ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเขาถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทย อ้างว่าทำงานแอดมิน แต่เมื่อมาถึงสนามบินที่ไทยถูกพานั่งรถมาที่อำเภอแม่สอด และมารู้ตัวว่ามาอยู่ในฝั่งเมียนมา หลังถูกยึดพาสปอร์ตและให้ทำงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการเทรดหุ้นซึ่งเป็นงานแก๊งค์คอลเซ็นเตอรเตอร์และสแกมเมอร์หากไม่ทำก็จะถูกกักขังและทำร้ายร่างกาย



นายจารุวัฒน์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีเครือข่ายเอ็นจีโอได้ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษยช์ชาวต่างชาติ ไปแล้วกว่า 100 คน จากที่คาดการณ์ว่ามีอยู่ในเมืองชเวก๊กโก่และเคเคปาร์คกว่า 1 พันคน ซึ่งปัญหาการช่วยเหลือที่ยากเพราะ ประเทศในแถบแอฟริกา ไม่มีสถานทูตทั้งในไทยและเมียนมา การประสานงานจึงยาก วิธีการจึงต้องผ่านไทย เพราะประเทศไทยเป็นทางผ่านที่จะปฏิเสธการช่วยเหลือไม่ได้



แหล่งอาชญกรรมคอลเซ็นเตอร์ในเมืองชเวก๊กโก่และเคปาร์ดที่ตั้งอยู่ชายแดนไทย จึงเป็นปัญหาที่ไทยจะต้องจัดการ จึงมีข้อเสนอเร่งด่วนให้ตัดวงจรโลจิสติกส์ไปยังแหล่งอาชญากรรมในเมืองเมียวดี เช่นการตัดสัญญานเนต ที่มีเสาสัญญาณเรียงรายริมแม่น้ำเมย



ส่วนสมรูภูมิรบในเมืองเมียวดี ยังต้องจับตาเพราะในพื้นที่รอบนอกยังมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและกองกำลังผสม KNLA/PDF บทบาทของไทยหากจะเป็น PeacrBroker นอกจากการริเริ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแล้ว ต้องปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และผลักดันข้อริเริ่มที่กรุงเทพ Bangkok Initiative

คุณอาจสนใจ

Related News