กรณีกองทัพเมียนมา ภายใต้การนำของพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลออง ซาน ซูจี ที่กล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ 1 ปีนั้น

เมื่อเย็นวานนี้ ได้มีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน หลังจากที่กลุ่มแรงงานชาวเมียนมา และกลุ่มวีโว่ ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมียนมา

การปะทะเริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณ 17.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพยายามเข้าตรึงกำลังตั้งแนวยุติการชุมนุม เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ได้กระชับพื้นที่ไปทางแยกสาทรซอย 10 ใกล้แยกบีทีเอสเซ็นหลุยส์ ระหว่างนั้น กลุ่มมวลชนได้ขว้างปาสิ่งของ รั้วเหล็ก ก้อนหิน แท่งเหล็ก สี และพลุควันสีใส่เจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 นาย ส่วนมวลชนได้รับบาดเจ็บประมาณ 15 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ร่วมชุมนุมได้ประมาณ 3-4 คน ที่เป็นการ์ดวีโว่ นำไปสอบสวนที่ สน.ยานนาวา

โดยก่อนหน้านั้น เวลาประมาณ 15.30 น. มีแรงงานชาวเมียนมาในประเทศไทยจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้าสถานทูตฯ โดยสวมเสื้อและหมวกสีแดง สกรีนภาพนางออง ซาน ซูจี และถือภาพถ่ายของนายพลออง ซาน พร้อมกับนำภาพของพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย มาจุดไฟเผาและใช้เท้ากระทืบซ้ำ รวมถึงได้อ่านแถลงการณ์ต่อต้านการรัฐประหารดังกล่าว

การชุมนุมครั้งนี้ ได้มีกลุ่มวีโว่ หรือ we volunteer นำโดยนายโตโต้ พร้อมด้วย เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และรุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร มาร่วมการชุมนุมด้วย โดยร่วมกันอ่านแถลงการณ์ใจความว่า ในฐานะพลเมืองชาติสมาชิกอาเซียน เราไม่อาจจะนิ่งเฉยได้ต่อการกระทำดังกล่าว ประเทศไทยจะต้องไม่รับรองรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ว่าจะชนชาติศาสนาใด ก็ควรได้รับการช่วยเหลือจากมนุษยชาติด้วยกัน เพื่อรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของทุกคน พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำรัฐประหารเมียนมายุติการกระทำดังกล่าว หยุดการจับกุมคุมขังประชาชน และเร่งคืนประชาธิปไตยให้โดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ยังมี ช่อ-พรรณิการ์ วานิช มาร่วมชุมนุมอีกด้วย ระบุว่า มาร่วมแสดงจุดยืนพร้อมกับชาวเมียนมาว่าไม่ควรมีประเทศใดในโลกที่จะทำการรัฐประหาร เพราะประเทศเป็นของประชาชน

ขณะที่การรักษาความปลอดภัย ตำรวจสน.ยานนาวา และตำรวจควบคุมฝูงชนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 6 จำนวนหนึ่งกองร้อย เข้าตรึงกำลัง พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นด้านหน้าสถานทูตฯไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ และนำรถควบคุมผู้ต้องขัง 1 คันมาจอดไว้ ซึ่งการจราจรระหว่างการชุมนุมค่อนข้างติดขัดเพราะมวลชนลงมารวมตัวกันบนพื้นผิวจราจร ซึ่งภายหลังการปะทะ มวลชนบางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่และขอความร่วมมือให้มวลชนที่เหลือแยกย้ายกลับ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เปิดพื้นที่จราจรถนนสาทรเหนือ หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่อีโอดี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.ฉุกเฉิน มีการรวมตัวกันเกิน 10 คนขึ้นไป มีการจัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แต่ส่วนอื่นๆก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงประกอบด้วย ซึ่งได้ประสานกับทางสถานทูตเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากการชุมนุมยุติลง กลุ่มวีโว่จำนวนหนึ่ง ได้มารวมตัวกันที่หน้า สน.ยานนาวา เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังกว่า 300 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ ทำให้กลุ่มมวลชนไม่พอใจ และตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ขณะนำกำลังเข้าประจำจุด 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0894bzOfbFA