สังคม

เปิดนาทีบุกจับมือฆ่าหญิงไรเดอร์ โอดโอยร้องปวดท้องหนัก ของดทำแผน - เผยไทม์ไลน์ลวงฆ่าหมกป่า ก่อนชิงรถ

โดย panwilai_c

20 ก.ย. 2567

110 views

ความคืบหน้ากรณีนายแม็กฆ่าชิงรถหญิงวัย 47 ปี คนขับรถโบลท์ ก่อนจะนำไปขายให้ตำรวจที่ภูเก็ต ล่าสุดเจ้าตัวอ้างไม่ได้ฆ่าใคร ขอใช้สิทธิ์ไม่ทำแผน ด้านตำรวจ สภ.นครชัยศรี เตรียมอายัดตัวพรุ่งนี้



สำหรับไทม์ไลน์การก่อเหตุของคดีนี้ พบว่า วันที่ 11 กันยายน 2567 ประมาณ 18:05 น. นายณรงค์ศักดิ์ แซ่ผู่ กดแอพพลิเคชั่นโบลล์เรียกรถของนางสาวฐิติรัตน์ ชาติพุทธ์ หรือกะทิ อายุ 47 ปี ผู้ตายให้ไปรับที่หน้าสน.พระโขนง ย่านสุขุมวิท 77 มีจุดหมายปลายทางไปที่วัดพระประโทณ อ.เมืองนครปฐม



เมื่อมาถึงถนนสานนครชัยศรี-ห้วยพลู ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ออกอุบายว่าเมารถ จะอาเจียน เลยขอให้คนขับหยุดรถ แล้วเปลี่ยนมานั่งข้างคนขับ จากนั้นใช้แขนรัดคอคุณกะทิจนหมดสติ แล้วใช้สายชาร์จรัดคอซ้ำจนเสียชีวิต แล้วอุ้มร่างคุณกะทิไปทิ้งไว้ที่คูน้ำ แล้วขับรถยนต์ ยี่ห้อเอ็มจี สีดำ ทะเบียน 6กฉ7998 กทม. ของผู้ตายไปจอดที่บ้านแฟนสาวที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยบอกกับที่บ้านแฟนสาวว่า เป็นรถบ่อนที่มีคนเอามาจำนำ



กระทั่ง 4 ทุ่ม 46 นาที ญาติของคุณกะทิไปแจ้งความ สน.ดินแดง ว่าคุณกะทิหายตัวไป



วันที่ 12 กันยายน นายแม็กขับรถผู้ตายออกไปแต่เช้า เปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ 1 เบอร์ ที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ขณะที่ประมาณ 11 โมงญาติของคุณกะทิตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์พบว่าอยู่แถวอู่ซ่อมรถ หมู่ 3 ตำบล สัมปทวน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม



วันที่ 13 กันยายน นายแม็กปิดเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมด และขับรถยนต์ผู้ตายไปส่งแฟนที่ตลาดนัดวัดไผ่หูช้างใน อ.บางเลน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะไปนครสวรรค์แล้วกลับมาที่ตลาดนัดจอดรอให้เพื่อนมาขับไปที่ภูเก็ตต่อ



วันที่ 14 กันยายน รถของผู้ตายไปโผล่อยู่ภาคใต้ ซึ่งมีกล้องวงจรปิดหลายตัวจับภาพเอาไว้ได้ ตั้งแต่ที่อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตอนบ่าย 2 โมง 20 นาที วันที่ 14 กันยายน / บ่าย 2 โมง 59 นาที ที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร / 18.19 น. อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา / 19.04 น. อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา / 1 ทุ่ม 17 นาที อำเภอท่าฉัตรไชย จังหวัดภูเก็ต



ซึ่งมีรายงานว่าการที่รถยนต์ผู้ตายไปโผล่อยู่ภูเก็ต เพราะมีนายตำรวจคนหนึ่งติดต่อขอซื้อ โดยตำรวจนายนี้นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปรับรถด้วยตัวเอง



16 กันยายน ญาติคุณกะทิแจ้งความที่สน.ราษฎร์บูรณะอีกครั้ง ว่าคุณกะทิหายตัวไป แต่เรื่องก็เงียบไปจนกระทั่ง



ช่วงสายของวันที่ 19 กันยายน พบศพคุณกะทิ ถูกฆ่าหมกร่องน้ำ บริเวณป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม



ประเด็นการตายครั้งนี้ตำรวจสันนิษฐานว่า เป็นการฆ่าชิงรถ และผู้ต้องสงสัยคือ ผู้โดยสารคนสุดท้ายที่เรียกใช้บริการรถของคุณกะทิ คือ นาย ณรงค์ศักดิ์ แซ่ผู่ หรือแม็ก อายุ 35 ปี ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 ไปตามจับได้ที่บ้านพักของแฟนสาวที่ อ.กำแพงเเสน จังหวัดนครปฐม แต่การเข้าจับครั้งนี้เป็นการจับตามหมายเดิมในคดีลักทรัพย์ของ สภ.มีนบุรี เนื่องจากคดีฆ่าคุณกะทิ ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะขอศาลออกหมายจับ



สำหรับคดีลักทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา นายแม็กได้ขอยืมมอเตอร์ไซด์ฮอนด้าเวฟ ของเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันในเรือนจำพิเศษมีนบุรี บอกว่า ขอยืมขี่ไปร้านสะดวกซื้อเพื่อเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเอามอเตอร์ไซต์หายไป ทำให้พ่อของเพื่อนต้องไปแจ้งความจับในคดีลักทรัพย์ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรีออกหมายเรียกนายแม็กให้มาสอบปากคำก็ไม่มา เลยออกหมายจับไว้ กระทั่งนายแม็กไปก่อเหตุฆ่าชิงรถ จึงถูกจับตามหมายนี้มาก่อน ซึ่งนายแม็กก็ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ขโมยรถมอเตอร์ไซต์ เขายืมรถมาขี่ไปเติมเงิน แต่มีเพื่อนอีกคนยืมรถต่อแล้วไม่เอามาคืน เขาไม่รู้เรื่อง



ในวันนี้ตำรวจสน.มีนบุรีจะต้องสอบปากคำนายแม็กในคดีลักทรัพย์ แล้วส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อฝากขังผัดแรก แต่ปรากฎว่านายแม็กอ้างว่าเป็น "กรดไหลย้อน" ปวดท้องมากลุกไม่ไหว มาพิมพ์ลายนิ้วมือและให้ปากคำไม่ได้ ตำรวจก็ต้องหายามาให้กิน และให้นอนพักในห้องขังอยู่ 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะหิ้วตัวออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือและสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวทำท่างอตัว ปวดท้องเดินไม่ไหว ร้องโอดโอยตลอดเวลา



นักข่าวเลยสอบถามว่า ปวดท้องใช่ไหม นายแม๊กพยักหน้ารับ พอถามว่ากินยายังและทำแบบนี้ทำไม นายแม๊กส่ายหัวปฏิเสธ ก่อนนำตัวเข้าห้องสอบสวน



ระหว่างอยู่ในห้องสอบสวน นักข่าวสังเกตว่านายแม๊กเอาแต่นั่งก้มหน้า งอตัว และหน้าซีด หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที ตำรวจได้ควบคุมตัวนายแม๊กกลับเข้าห้องขัง ซึ่งตอนออกมานายแม๊กได้ร้องขอที่จะสวมใส่หมวกปกปิดใบหน้าและยังเดินในอาการเดิมพร้อมร้องโอดโอยว่า "โอ๊ยเจ็บท้อง ปวดท้อง" พอผ่านหน้านักข่าวก็บอกว่า "ผมไม่เคยมีประวัติทำแบบนี้ ผมไม่เคยมีประวัติคดีฆ่า ผมไม่เคยฆ่าคนมาก่อน" พอถามถึงแรงจูงใจที่ฆ่าเจ้าตัวส่ายหน้า



พนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า คดีลักทรัพย์นายแม๊กให้การปฏิเสธ ดังนั้นพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวฝากขังศาลอาญามีนบุรี แล้วหลังจากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงจะมาอายัดตัวนายแม๊กและแจ้งข้อกล่าวหาคดีชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่นต่อ



ล่าสุดพลตำรวจโท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวความคืบหน้าคดีนี้ โดยบอกว่า วันที่ 11 กันยายน นายแม็กได้เรียกรถของผู้ตายผ่านแอพพลิเคชั่น ให้มารับที่หน้า สน.พระโขนง จากนั้นให้พาไปที่พักย่านนนทบุรีเพื่อเอาของ ก่อนจะขับไปส่งยังจ.นครปฐม แล้วออกอุบายขอเปลี่ยนที่นั่ง ก่อนจะใช้แขนรัดคอผู้ตายภายในรถจนหมดสติ ก่อนจะใช้สายชาร์จโทรศัพท์ของผู้ต้องหารัดคอซ้ำ และทิ้งศพตรงจุดนั้น ส่วนมูลเหตุเชื่อว่า ประสงค์ต่อทรัพย์



ส่วนรถยนต์มีการขายต่อหลายทอด ตั้งแต่เช้าวันที่ 12 กันยายน ขายครั้งแรกคือที่จ.นครปฐม ก่อนจะพบรถเปลี่ยนมือหลายทอดไปอยู่ที่จ.นครสวรรค์ และสุดท้ายพบรถคันดังกล่าวพร้อมคนขับที่เป็นผู้หญิงที่จ.ภูเก็ตในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ารถคันดังกล่าว มีการซื้อขายในราคาเท่าไร และมีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง และการซื้อขายรถยังไม่พบว่ามีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง



ขณะที่พ่อตาของนายแม็ก เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ลูกสาวรู้จักนายแม็กผ่านโซเชียลมีเดียร์ ที่ผ่านมาก็เคยเตือน แต่เมื่อลูกสาวรักทางครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร จนนายแม็กมาอยู่ที่บ้านก็บอกว่า เคยติดคุกเพราะฆ่าตำรวจ แต่พ้นโทษออกมาแล้ว ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจ อยากขอให้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ ทุกวันลูกเขยจะออกไปช่วยงานค้าขายตามปกติ ไม่มีพฤติกรรมต้องสงสัย แต่เวลาดื่มเหล้าจะมีอาการตาขวางบ้าง และเวลาเจอตำรวจหรือเห็นป้อมตำรวจจะมีอาการหวาดผวา



คืนวันที่ 11 กันยายน นายแม็กขับรถ MGสีดำ มาที่บ้านอ้างว่าเป็นรถที่จำนำในบ่อนนำมาฝากไว้ ก่อนที่จะนำรถออกไปในเช้าวันที่ 12 กันยายน จนตำรวจบุกมาจับเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยครั้งแรกนายแม็กซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอน ทำให้ตำรวจหาไม่เจอ พอตำรวจเข้ามารอบ 2 จึงควบคุมตัวได้ และนายแม็กก็รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าชิงรถจริง



ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นาย แม็กแล้ว ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย



จากการตรวจสอบประวัติล่าสุด พบว่านายแม็ก ก่อคดีอาชญากรรมมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน



- 26 กันยายน 2550 คดีร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ท้องที่ สน.โชคชัย (คดีลหุโทษ ดำเนินคดีไปแล้ว)



- 9 ธันวาคม 2552 คดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 15 ปี / พรากผู้เยาว์ / กักขังหน่วงเหนี่ยว ท้องที่ สน.โคกคราม (ดำเนินคดีไปแล้ว)



- 13 มิถุนายน 2553 คดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี / พรากผู้เยาว์ / กักขังหน่วงเหนี่ยว ท้องที่ สน.โคกคราม (ดำเนินคดีไปแล้ว)



- 3 กุมภาพันธ์ 2566 คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นและลักทรัพย์เวลากลางคืน ท้องที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี (ดำเนินคดีไปแล้ว)



- 9 กันยายน 2567 คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (ดำเนินคดีไปแล้ว)



- 22 สิงหาคม 2567 คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สน.มีนบุรี (เพิ่งถูกจับกุมตามหมายจับ อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี)



- และคดีล่าสุด 20 กันยายน 2567 คดีชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/SjOBlurXnKY

คุณอาจสนใจ