สังคม

ยายร้องนักแสดงซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง อ้างตัวเป็นหม่อม-หลานชายบุคคลระดับสูง หลอกสูญเงินเกือบ 10 ล้าน

โดย chutikan_o

10 มิ.ย. 2568

11.8K views

ยายร้องสายไหมต้องรอด ถูกดารานักแสดงหนังซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง อ้างตัวเป็นหม่อม-เป็นหลานชายบุคคลระดับสูง หลอกสูญเงินเกือบ 10 ล้านบาท ผู้เสียหายรายอื่นๆ ทยอยเข้าแจ้งความเอาผิดในข้อหาฉ้อโกง

วันอังคารที่ 10 มิ.ย. 2568 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด ตลาดจิงเกิลเบลส์ ถ.วัดเกาะ  เขตสายไหม กทม. ยายอดีตครูเดินทางมาร้องเรียนกับสายไหมต้องรอด ว่าถูกดาราหนังซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง อ้างตัวเองเป็นหม่อม เป็นหลานชายบุคคลระดับสูง หลอกสูญเงินกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับดาราคนดังกล่าวในข้อหาฉ้อโกงอีกจำนวนมาก

ชายหนุ่มอ้างเป็นหม่อมหลวง โดยสวมชุดสีขาวข้าราชการชาย ที่ประดับด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เหรียญ, ดารา, สายสะพาย) ซึ่งแสดงถึงเกียรติยศและตำแหน่งของผู้สวมใส่ในโอกาสสำคัญทางราชการและพระราชพิธี บัตรประชาชนของหม่อมหลวง จะมีคำนำหน้าชื่อว่า “ม.ล.” ซึ่งย่อมาจาก “หม่อมหลวง” แต่ข้อมูลจากสายไหมต้องรอด ระบุภาพบัตรของดาราชายว่า “ปลอมบัตรประชาชนว่าเป็นหม่อม บัตรจริงเป็นคนธรรมดา”

ทีมข่าวพูดคุยกับยายสมัย (นามสมมติ) อายุ 87 ปี เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง และรู้จักเด็กชายคนหนึ่งตั้งแต่ปี 2562 เขามาโดยการเป็นจิตอาสาและเข้าทำความรู้จักกับคนภายในโรงเรียน บอกว่าตนเองเป็นดารานักแสดง และนามสกุลดัง ทำให้ทุกคนในโรงเรียนให้ความนับถือ เชื่อถือ และยังบอกว่าพ่อของเขาเป็นคุณครูสอนอยู่โรงเรียนนายร้อยยศใหญ่

พอมาช่วงปี 2564 เขาอ้างว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ให้เพื่อนมาขอยืมเงินของตนเอง 300,000 บาท บอกให้ช่วยเหลือ เพราะจ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่พอ จากนั้นให้เพื่อนมาขอยืมอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 300,000 บาท จนตนเองได้โทรไปสอบถามว่าแม่เป็นยังไงบ้าง เขาก็ยังบอกว่า คุณแม่ยังไม่หายป่วย การรักษาโรคมะเร็งจำเป็นต้องใช้เงินเยอะ และยังออกอุบายว่า จะนำที่ดินไปขาย และนำเงินมาใช้คืนให้ ตนเองจึงเชื่อใจ เขาเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่น่าจะมาหลอกกันได้ จนโอนเงินให้ทั้งหมดรวม 3,500,000 บาท พอเงินสดหมด ตนเองก็ให้สร้อยทองไปอีก 6 บาท และแหวนทองอีกจำนวนหนึ่ง

ต่อมาเขายังมาบอกว่า บ้านของเขาที่ จ.ขอนแก่น จะถูกยึด ขอยืมโฉนดบ้านที่ดินของตนเองไปค้ำบ้านได้หรือไม่ ด้วยความเชื่อใจจึงให้หยิบยืมไป

ระยะเวลาผ่านไป 6 ปี ทุกวันนี้ตนเองยังไม่ได้ทรัพย์สินเงินทองคืน เจ้าตัวผัดการจ่ายเงินมาโดยตลอด ล่าสุดนัดคืนเงินทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ ตนเองจะรอให้ถึงสิ้นเดือน หากยังไม่นำเงินมาคืน จะตัดสินใจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีเดียวกัน คนหนึ่งเป็นอดีตคุณครูอายุ 87 ปี คุณครูเสียบ้านไป 1 หลัง เงินสด 3.5 ล้านบาทและทองอีกจำนวน 6 บาท รวมแล้วเบ็ดเสร็จมูลค่า 9 ล้านกว่าบาทเกือบ 10 ล้าน ส่วนผู้เสียหายอีกคนก็ถูกคนคนเดียวกันหลอก สูญเงินไป 300,000 กว่าบาท

“อยากฝากถึงคนที่หยิบยืมเงินเขาไป หากดูอยู่ให้เอาเงินมาคืน ซึ่งหลังจากนี้หากไม่เอาเงินมาคืน ทางผู้เสียหายจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นหม่อม และเรื่องแต่งชุดคล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มาหลอกยืมเงินผู้เสียหาย ซึ่งมองว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง จะถูกดำเนินคดีในข้อหาหนัก อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว” นายเอกภพกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News