สังคม

ตร.จับสาวมิจฉาชีพปลอมโปรไฟล์ หลอกให้หนุ่มเศรษฐีที่ดินรัก สูญ 63 ล้านบาท

โดย parichat_p

25 มี.ค. 2567

894 views

ตำรวจสอบสวนกลางจับมิจฉาชีพที่ปลอมเป็นบุคคลอื่น และหลอกให้เหยื่อรัก โดยไม่เคยเห็นหน้า ล่าสุดพบว่ามิจฉาชีพหลอกให้หนุ่มโสดอายุ 30 ปี เศรษฐีที่ดิน โอนทั้งเงินสดและที่ดินจนหมดเนื้อหมดตัวร่วมสูญเงิน 63 ล้านบาท เมื่อเงินฝ่ายชายหมดตัว และไม่มีที่อยู่ ฝ่ายหญิงได้หายสาบสูญไป จึงมาทราบว่าถูกหลอกให้รักมาตลอด 6 ปี


การโพสต์ใช้ชีวิตหรู อยู่แพง เที่ยวต่างประเทศทุกเดือน ของนางสาวนนทิกาญจน์หรือ ก้อยอายุ 35 ปี พร้อมนายวชิระ อายุ 30 ปี เบื้องหน้าไม่มีใครทราบว่าเป็นแก๊ง18 มงกุฎ ที่ได้จากการหลอกเงินเหยื่อมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย นางสาวก้อยได้แฝงตัวอยู่ในแอปหาคู่ เพื่อเสาะหาเหยื่อโสดมีฐานะร่ำรวย เมื่อเจอเป้าหมาย เป็นหนุ่มโสดวัย 30 ปี มีมรดกจำนวนมาก


น.ส. ก้อยจึงปลอมโปรไฟล์ ชื่อ น.ส.ไอซ์ หลอกให้เหยื่อรัก ก่อนจะแต่งเรื่องป่วยเป็นมะเร็ง ต้องการเงินรักษาด้วยเงินหลายล้าน ฝ่ายชายก็โอนให้ ตามมาด้วยให้ชดใช้หนี้สิน และนำที่ดินของฝ่ายชายไปขายหลายแปลง ระหว่างนั้น นส.ก้อยได้อ้างว่าาจะส่งคนไปดูแลฝ่ายชาย โดยตัวเองไปด้วยเพื่อไปสำรวจทรัพย์สินฝ่ายชาย โดยอ้างว่า นส ไอซ์ให้มาดูแล


ตลอด6 ปี ฝ่ายชายโอนให้ทั้งหมด 960 ครั้ง จากหลักล้าน จนหลังสุดเงินหมดโอนให้หลักพัน เมื่อฝ่ายชายเงินหมด ถึงขั้นไม่มีที่อยู่ น.ส. ก้อยจึงตีจาก


ตำรวจปอท.ได้เข้าจับกุม น.ส. ก้อยได้ที่บ้านในจ พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต. อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี กล่าวว่า น.ส. ก้อยเป็นผู้บ่งการ มีอดีตสามี ร่วมกับ พรรคพวกรวมห้ารายที่ร่วมกันนำเงินของเหยื่อไปฟอก


ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายถูกชายอายุ 30 ปีปลอมโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดีอยู่ในแอพหาคู่ หลอกลวงเหยื่อโดยโพสต์ในลักษณะมีชีวิตที่น่าสงสารลำบากหาคนเลี้ยงดูกระทั่งเหยื่อเข้ามาพูดคุยจนเกิดความสนิทสนมและตายใจโดยไม่เคยพบหน้า คนร้ายได้ขอยืมเงินเพื่อไปปิดหนี้สินที่กู้มานอกระบบ ทำทีส่งโปรไฟล์ญาติพี่น้องให้เหยื่อเชื่อถือ และโอนเงินเข้าบัญชีที่อ้างเป็นญาติคุยกันสี่เดือนเหยื่อสูญเงิน ไปห้าล้านบาทสุดท้ายไม่ยอมให้เจอตัวจึงเริ่มทวงเงินคืน ก็ไม่ได้อ้างว่าต้องปลดหนี้ที่วางจำนอง ก่อนจึงทดใช้คืนได้ ในที่สุด ก็รู้ว่าถูกหลอก ตำรวจเข้าจับกุมนายอิทธิกร ที่ปลอมโปรไฟล์เป็นหญิง ได้ที่คอนโดย่านจตุจักร พบใช้ชีวิตหรูหรามีเครื่องประดับแบรนด์เนมและมักเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ ทั้งสองคดีเป็นการหลอกทางแอพพลิเคชั่นโดยไม่เคยเจอหน้าตำรวจสอบสวนกลางจึงเตือนให้ผู้ที่จะเข้าไปใช้แอพแอพพลิเคชั่นหาคู่อย่าพึ่งโอนเงินให้กับคนที่ ยังไม่เคยพบหน้าเพราะอาจเป็นมิจฉาชีพหรือสิบแปดมงกุฎ ที่แฝงตัวตามแอพพลิเคชั่นหาคู่


โดย ทั้งสองคดีผู้ต้องหาได้ใช้จ่ายของเหยื่ออย่างฟุ่มเฟือย นำไปเล่นการพนันและเที่ยวเตร่ในประเทศ และต่างประเทศจนเงินแทบไม่เหลือคืนให้กับผู้เสียหาย โดยไม่มีเงินในบัญชีแม้แต่บาทเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News