อาชญากรรม

ออกหมายจับ ‘พ่อฆ่ายกครัว’ พร้อม 5 บัญชีม้า หลอกภรรยาสูญเงิน 1.7 ล้าน

โดย JitrarutP

29 ส.ค. 2566

3K views

ตำรวจ สภ.บางแก้ว ออกหมายจับสามีที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาและลูกชาย 2 คน และจับบัญชีม้า ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 5 คน ที่หลอกให้ภรรยาผู้ก่อเหตุกู้เงินแล้วโอนเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท

พลตำรวจตรีพัลลพ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้ออกหมายจับนายสาณิช ผู้ก่อเหตุฆ่าภรรยาและลูกชาย 2 คน เสียชีวิต ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยขณะนี้ผู้ก่อเหตุรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เปาโล สมุทรปราการ อาการปลอดภัยแล้ว พนักงานสอบสวนได้ไปแจ้งข้อหาให้รับทราบแล้ว

ส่วนการติดตามตัวกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกให้นางสาววิภาพร ภรรยาของนายสาณิชกู้เงิน จนสุดท้ายต้องสูญเงินไปกว่า 1.7 ล้านบาท ล่าสุดได้หมายจับเจ้าของบัญชีม้าแล้ว 5 ราย เป็นบัญชีม้าแถวแรกที่ผู้ตายโอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิเตอร์ และยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชี โดยตำรวจได้แกะรอยจากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของนางสาววิภาพร พบว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ได้เปิดบัญชีม้า 5 บัญชี ที่สาขาอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อใช้สำหรับโอนเงินและถอนเงินที่นางสาววิภาพรโอนเข้ามา และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ถอนเงินออกจากบัญชีตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าถอนทั้งหมด 14 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.7 ล้านบาท แต่จะถอนมากี่วันและวันละกี่ครั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทีมข่าวตรวจสอบพบหลักฐานสำคัญในโทรศัพท์มือถือของนางสาววิภาพร โดยเป็นสัญญาเงินกู้ ที่ทำไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง พบว่าลงนามทำสัญญากู้วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนเงินกู้ 1 แสนบาท ระยะเวลาการยืมกู้ 60 เดือน ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2566 ถึง วันที่ 19 สิงหาคม 2571 โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าหากผู้กู้ไม่สามารถใช้หลักทรัพย์ประกันได้ จะต้องสร้างประวัติเครดิตการชำระเงินค่างวดกับทางบริษัท โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 1 วัน หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด จะติดต่อครอบครัวของผู้กู้เพื่อตรวจสอบ

และหากบอกเลิกสัญญาขณะที่มีหนี้สินค้างชำระ จะต้องชำระดอกเบี้ยตามยอดที่ยื่นกู้ในอัตราร้อยละ 10-50% และยังระบุด้วยว่า หากลูกค้าไม่สบายใจในเงื่อนไขส่วนของบริษัท ทางบริษัทก็จะขอตัดสิทธิ์ในการปล่อยกู้ให้ เพราะต้องการความสบายใจทั้งสองฝ่าย

ขณะที่ช่วงสายที่ผ่านมา นางนิภาลัย อายุ 41 ปี พร้อมเพื่อนร่วมงานของนางสาววิภาพร ผู้ตาย 7 คน เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจ สภ.บางแก้ว ระบุว่า พวกเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ให้ยืมเงินเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มเงินกู้นอกระบบ

นางนิภาลัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นางสาววิภาพรได้ส่งข้อความมาขอยืมเงินว่า ติดปัญหาเรื่องบ้าน ขอยืมเงิน 3 แสน แต่ให้ยืมไปแค่ 1 แสนบาท ส่วนคนอื่นก็ให้ยืม 1-2 แสนบาท สูงสุดคือพี่ที่ทำงานอีกคนที่โดนยืมไป 9 แสนบาท รวมทั้งหมดที่มาวันนี้ยอดเงินอยู่ที่ 1,390,000 บาทโดยประมาณ

ส่วนของเขาไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ที่ให้ยืม เพราะรู้จักกันมานานเป็น 10 ปี หลังจากที่ให้ยืมไปแล้ว ทางผู้ตายก็โทรมาพูดคุยเรื่องที่ถูกแอปฯ โกงไป เขาก็มีทวงถามไปว่า จะใช้เงินคืนยังไง ทางผู้ตายก็ร้องไห้ขอโทษมา


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/woZWSzGR2hQ

คุณอาจสนใจ

Related News