อาชญากรรม

เปิดคลิปเจ็ตสกีชนเรือหางยาว ลูกสาว 'ลุงยูร' หวั่นพ่อตายฟรี พ่อยัน 'คิวพี' ไม่ได้ดื่ม สภาพจิตใจย่ำแย่

โดย thichaphat_d

19 ส.ค. 2567

948 views

เปิดวงจรปิดวินาทีเจ็ตสกีชนเรือหางยาว ญาติเศร้า! เชิญดวงวิญญาณ จ่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหากคู่กรณีไม่เจรจา ลูกสาวคนขับเรือหวั่นพ่อตายฟรี ด้านพ่อ ‘คิวพี ชินดนัย’ ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตพร้อมเยียวยา เผย ลูกชายมีประสบการณ์ในการขี่เจ็ตสกี ตร.ตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตขับขี่เรือ ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร ผู้โดยสารสาวโพสต์อาลัย ‘ลุงยูร’ เผยเป็นคนใจเย็นขับช้า

จากกรณีเรือเจ็ตสกีของนายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี นักแสดงละครซีรีส์ พุ่งชนเรือหางยาวข้ามฟากจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และ เสียชีวิตอีก 2 ราย กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ ต.บางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 17 ส.ค.ผ่านมา

ทีมข่าวได้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก ช่วงเวลา 20.29 น. ของคืนวันที่ 17 ส.ค.67 ซึ่งเป็นคืนวันเกิดเหตุ วงจรปิดมุมนี้จับภาพค่อนข้างชัดเจน จะเห็นว่าทางฝ่ายเรือหางยาว ซึ่งมีคนขับและนั่งโดยสารในเรือทั้งหมด 3 คน ขับออกจากท่าเรือของวัดบางกระเจ้านอก เพื่อข้ามฝากไปฝั่งของพระรามสาม หลังจากที่เรือลำนี้ออกจากท่าเรือไปได้ไม่ไกลจนถึงเกือบกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏว่ามีเรือเจ็ตสกีคู่กรณีที่ขับมา ลำแรกจากกล้องจะเห็นว่ามีการหักหลบพ้น แต่อีกลำหักหลบไม่พ้นและชนอย่างจัง สอดคล้องกับคำให้การของคิวพี ที่เป็นคนขับเจ็ตสกี

ขณะที่ภาพอีกมุมจากกล้องบนเรือสินค้าที่จอดอยู่ข้างฝั่ง จับภาพได้ไกลๆ จะเห็นเจ็ตสกีสองลำขับนำหน้ามา ก่อนจะพ้นรัศมีกล้องไม่ไกลและพุ่งชนเรือหางยาว จนทำให้คนในเรือสินค้าต้องลุกยืนดูเหตุการณ์ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทางพนักงานสอบสวนจะร่วมกับกรมเจ้าท่าใช้พิจารณาทางคดี

วานนี้ (18 ส.ค.) ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต โดยนายประเวศ อ่วมปทุม ลูกชาย และนางสาวประภาศรี อ่วมปทุม ลูกสาวคนเล็กของนายประยูร อ่วมประทุม คนขับเรือหางยาวที่เสียชีวิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบเพียงว่าพ่อขับเรือข้ามฟาก แต่ไม่คิดว่าจะประกอบอาชีพจริงจัง  และเคยบอกพ่อว่าให้เลิกอาชีพนี้มาหลายรอบ เพราะพ่ออายุเยอะแล้ว  ตนสามารถเลี้ยงดูพ่อได้ แต่พ่อก็ไม่รับฟังและยังประกอบอาชีพนี้อยู่

พร้อมฝากไปถึงคู่กรณี อยากให้มารับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตบ้าง และอยากให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อขอความเป็นธรรมกับพ่อของตนเอง ขณะนี้คู่กรณีก็ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา  และหลังจากดูคลิปวีดีโอช่วงที่คู่กรณีขับเจ็ตสกีมาค่อนข้างเร็ว อยากให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและไม่อยากให้พ่อต้องตายฟรี

หลังทำพิธีเสร็จสิ้น ญาติได้เดินทางไปรับศพนายประยูร คนขับเรือโดยสาร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางยาง จ.สมุทรสาคร เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจ ลูกสาวบอกว่า ยังไม่ได้แจ้งความเอาผิดคู่กรณี เนื่องจากยังไม่มีเวลาเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพราะกำลังอยู่ระหว่างเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาให้พ่อ หากทุกอย่างเรียบร้อยจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีอย่างแน่นอน ยอมรับว่ามีความกังวลหากจะต้องต่อสู้ทางคดี เพราะตัวเองไม่มีเงินทองมากมายอะไร

นายมงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก อายุ 48 ปี ผู้รอดชีวิตและเป็นสามีของนางปาริฉัตร หอยหมั้น ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นั่งเรือข้ามฟากมากับภรรยา เพื่อข้ามไปฝั่งกรุงเทพฯ ขณะเรือล่องมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีเจ็ตสกีคู่กรณีขับมาพุ่งชนทันที แต่ภรรยาตกน้ำและสูญหายไป เนื่องจากภรรยาว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนตนเองไม่ได้ตกจากเรือ ถ้าตนเองตกลงไปในน้ำด้วยก็คงจะเสียชีวิตตามกันไป  หลังจากนี้ ถ้าคู่กรณีไม่มาพูดคุยเจรจา ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด พร้อมบอกว่าทุกปัญหามีทางออก ให้มาพูดคุยกันก่อน เพราะเรื่องนี้มีคนตายจึงอยากให้รับผิดชอบ  โดยญาติได้เดินทางไปรับศพของปาริฉัตร กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองตะแบก จ.ลพบุรี

ทีมข่าวได้คุยกับพ่อของนายคิวพี วัย 21 ปี ผู้ขับเรือเจ็ตสกี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เท่าที่ตนทราบ ลูกชายและกับเพื่อนๆ ได้ขับเจ็ตสกีไปกินข้าวบริเวณคุ้งน้ำ แล้วมาประสบอุบัติเหตุตรงจุดที่เลยร้านอาหารมาเล็กน้อย ซึ่งตัวคิวพีนั้นมีประสบการณ์และความสามารถในการขับเจ็ตสกีอยู่แล้ว เพราะขับเป็นประจำที่บึงแถวบ้าน หากเรื่องทางคดีเรียบร้อย ทางครอบครัวก็จะเข้าพบทางฝั่งคนเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป เหตุการณ์นี้หากย้อนกลับไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะมันเกิดผลกระทบกับทั้งสองฝ่าย

ขณะที่เจ้าของเรือเจ็ตสกี ซึ่งเป็นญาติของนายคิวพี กล่าวว่า วันเกิดเหตุคิวพี กับเพื่อนๆ รวม 11 คน ได้ขับเจ็ตสกีจากดาวคะนองมากินข้าวที่บริเวณพระประแดง ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุ ยืนยันว่าตัวน้องคิวพีไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด อีกทั้งหลังเกิดเหตุก็ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วก็ไม่พบ ตอนนี้สภาพจิตใจของน้องคิวพี ย่ำแย่มากและยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะก็ส่งผลกระทบต่ออนาคตของคิวพี เช่นเดียวกัน ตั้งแต่คืนที่เกิดเหตุก็ยังคงร้องไห้และทำใจไม่ได้ ส่วนเจ็ตสกีมีประกันภัยอยู่แล้วและพร้อมที่จะชดใช้เยียวยาให้แก่ผู้สูญเสียทั้งหมด

นายฉัตรชัย เวชสาร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสมุทรปราการ เปิดเผยว่า  ทางเจ้าท่าฯ พร้อมกับพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ได้นำเรือออกไปดูบริเวณกลางท้องน้ำเจ้าพระยา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งในจุดเกิดเหตุนั้น ค่อนข้างก้ำกึ่งใน 2 พื้นที่รับผิดชอบ คือ สภ.พระประแดง และ สน.บางคอแหลม ซึ่งจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเกิดเหตุในพื้นที่ใดกันแน่ โดยจะพิสูจน์จากเครื่องยนต์ที่จมลงไปในน้ำว่าอยู่ในพื้นที่ของสถานีใด

ส่วนการขับเรือในเส้นทางน้ำสาธารณะนั้น ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือ ต้องมีใบอนุญาตการใช้เรือ และใบนายท้ายหรือเทียบเท่าใบขับขี่  ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เจ็ตสกีลำดังกล่าวมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ผู้ขับขี่ไม่มีใบนายท้ายหรือใบอนุญาตขับขี่เรือ ซึ่งโทษของผู้ที่ไม่มีใบนายท้ายเรือ คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทางกรมเจ้าท่า ก็ได้มีระเบียบและมีนโยบายทางด้านความปลอดภัยในการใช้เส้นทางสาธารณะร่วมกัน ทั้งในเรื่องของการสวมใส่ชูชีพ ส่วนการขับขี่เจ็ตสกีเล่นบนท้องน้ำนั้นยังไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิด อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือสำหรับผู้ที่ขับขี่เจ็ตสกีหรือเรืออื่น ๆ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์เส้นทางน้ำสาธารณะร่วมกันด้วย ส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ ทางกรมเจ้าท่าจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า ตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายคิวพีแล้ว ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด ส่วนที่มีข้อมูลกล่าวอ้างว่า พบภาพหรือกระป๋องเครื่องดื่มบางอย่างนั้น ทางตำรวจยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้ พนักงานสอบสวนเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้สูญเสียและฝ่ายผู้ขับเจ็ตสกี ขอให้สังคมสบายใจได้ว่าตำรวจจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่และเป็นธรรม

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำเรือและเจ็ตสกีของคู่กรณีขึ้นมาบนฝั่งแล้ว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมเก็บพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อหาร่องรอยการชน คาดว่าใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วัน จึงจะทราบผลและได้พยานฐานอย่างครบถ้วน ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายคิวพี ซึ่งหากพนักงานสอบสวนได้พยานหลักฐานอย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะเรียกนายคิวพี เข้าให้ปากคำอย่างละเอียด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา  กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต

พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากไม่มีอะไรซับซ้อน และได้ประสานนักประดาน้ำลงตรวจสอบจุดที่เครื่องเรือจมน้ำ ว่าอยู่จุดไหน เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างสมุทรปราการกับกรุงเทพมหานคร หากได้ข้อสรุปพื้นที่ที่แน่ชัดแล้วและพบว่าเป็นเขตพื้นที่ของสมุทรปราการ พนักงานสอบสวนก็จะเดินหน้าทางสำนวนคดี  ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้างนั้นยังสรุปไม่ได้และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร ต้องรอผลการสอบสวนของกรมเจ้าท่า เพราะเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของกรมเจ้าท่า ตาม พ.ร.บ.เดินเรือ หากกรมเจ้าท่าสอบสวนแล้วเสร็จก็จะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนต่อไป  

ขณะเดียวกันพบว่า มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ (X) ได้โพสต์ไว้อาลัยถึง “ลุงยูร” คนขับเรือดังกล่าว พร้อมเล่าเรื่องราวระบุว่า “เรือที่ฉันนั่งกลับบางกะเจ้าทุกครั้ง  เวลากลับหลัง 21.00 น. ลุงยูร คนขับเรือโดนเจสกีชนตอนนี้ยังหาไม่เจอเลย แล้วฉันเปลี่ยนไฟล์ทกลับบ้านตอน 21.10 จากเชียงใหม่ ให้น้องโทรหาแกตอน 2 ทุ่ม ว่าให้รอรับพี่พัดกลับบ้านด้วย แกตอบว่า เออ เหมือนทุกครั้ง เศร้าไปหมดเลย แล้วกลางคืนไม่ค่อยมีใครอยากขับนะ หลัง 3 ทุ่มเรือก็หมดแล้ว มีแต่ลุงยูรนี่แหละ ที่อาสาขับรอรับคนเลิกงานหรือกลับบ้านดึก แล้วแกขับช้า ใจเย็น เรือใหญ่มาแกก็รอให้เรือไปก่อน แกใจดีมากจริง ๆ”

“นั่งเรือลุงยูรครั้งสุดท้าย 12 ส.ค. ก่อนไปเชียงใหม่ คำสุดท้ายที่คุยกันคือให้เงินลุง 100 ลุงบอกเยอะไป 40 พอ ฉันบอกเอาไปเลย ค่าตากฝนมารับ มีคนโทรหาลุง ฉันบอกลุงยูรรับก่อนไหม ลุงบอกว่า ไม่รับอ่ะ ขับเรืออยู่ไม่ว่าง ปล่อยให้โทรไป วันนั้นยังหัวเราะกันอยู่เลยนะลุง แต่วันนี้เศร้ามากเลยลุง”

รวมทั้งยังโพสต์บอกอีกว่า “ตอนนี้ลูกสาวคุณลุงน่าจะนำร่างกลับไปจัดพิธีที่ต่างจังหวัด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดที่วัดบางกะเจ้านอกได้หรือเปล่า น่าจะกำลังคุยกันกับทางผู้ใหญ่อยู่ เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็คงทำได้แค่โพสต์ในสิ่งที่เรานั่งและเห็นอยู่บ่อย ๆ ให้คนอื่น ๆ รู้ว่าลุงไม่ได้ขับเร็วและไม่ได้ประมาทในการขับเรือเลย”


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vY71TFoEDj4


คุณอาจสนใจ

Related News