สังคม

เกมเพราะผู้หญิง! เปิดเบื้องหลังจับ 'แป้ง นาโหนด' จนมุมที่อินโดฯ สิ้นสุดทางหนี 222 วัน

โดย nattachat_c

31 พ.ค. 2567

624 views

จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ 'แป้ง นาโหนด' อายุ 37 ปี นักโทษในความผิดคดีปล้นทรัพย์ / ความผิดต่อเสรีภาพ / พ.ร.บ.อาวุธปืน กำหนดโทษรวม 21 ปี 3 เดือน 25 วัน (จะพ้นโทษในวันที่ 6 พ.ค. 86)  แหกคุก ขณะรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 2566 


ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (30 พ.ค. 67) หลังจากนายเชาวลิตหลบหนีไปกว่า 8 เดือน มีการยืนยันว่า สามารถจับกุมนายเชาวลิตได้แล้วที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยวันนี้ (31 พ.ค. 67) กระทรวงยุติธรรมจะมีการประสานเพื่อรับตัว แป้ง นาโหนด ที่กรุงจากาตาร์


โดยเริ่มต้นมีการยืนยันจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทวีตข้อความเมื่อเวลา 13.04 น. ระบุว่า "ได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า "แป้ง นาโหนด" นักโทษหนีคดี ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซียครับ"

---------------

ต่อมา มีการเผยแพร่คลิป นาทีที่ตำรวจอินโดนีเซียจับกุม แป้ง นาโหนด ได้ โดยพบว่า ตำรวจอินโดนีเซียพยายามสอบถาม แป้ง นาโหนด ด้วยภาษาอินโดนีเซีย แต่ แป้ง นาโหนด พยายามทำตัวเป็นคนใบ้ ซึ่งเจ้าตัวพยายามอ้าปากพูด แต่ไม่สามารถพูดได้ เหมือนลักษณะคนเป็นใบ้


นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า หลังจากจับกุมตัวนายเชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด ได้  มีการเผยแพร่ภาพนายเชาวลิต ซึ่งเป็นการถ่ายภาพหน้าตรง หันข้าง ซึ่งเห็นรอยสักทั้งตัว ซึ่งเชื่อว่าเป็นการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล เพื่อให้ชัดเจนว่าจับไม่ผิดคน


หลายคนพอเห็นภาพ มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า นายเชาวลิตน่าจะอยู่ดีกินดี ไม่มีอาการซูบผอม หรือท่าทีอิดโรยแต่อย่างใด

---------------

วานนี้ (30 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้มาพูดคุยกับ นายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง อายุ 47 ปี หรือ พงษ์ เป็นพี่ชาย เปิดเผยว่า หลังทราบข่าว ยอมรับว่า ตัวเองมี 2 ความรู้สึก ทั้งดีใจ และเสียใจ


สำหรับความรู้สึกดีใจก็คือว่า ตัวเองเห็นสภาพร่างกายน้องตัวเองสมบูรณ์ และไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นกับน้องชาย


ส่วนเรื่องความเสียใจนั้น ก็มาจากความเป็นห่วงว่า หากน้องชายถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เขาจะโดนกี่ข้อหา ซึ่งกังวลว่าต้องโดนหลายข้อหาแน่นอน


ทั้งนี้ จากที่เห็นคลิปของน้องชาย ยอมรับว่า น้องชายมีบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิมกับที่เห็นครั้งล่าสุด เช่น ร่างกายดูกำยำมากขึ้น และผิวขาวมากขึ้น


พี่ชายของ แป้ง นาโหนด บอกอีกว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวน้องชายมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยแล้ว ตัวเองจะไปเยี่ยมน้องชายแน่นอน เพราะยังไงก็เป็นญาติกัน ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย


พร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่า ที่เห็นภาพจับกุมเสี่ยแป้งนั้น ยืนยันว่าเป็นตัวจริง ไม่ใช่ตัวปลอม เพราะตัวเองจำศีรษะของน้องชายได้ จำคางของน้องชายได้ เพราะน้องชายมีแผลเป็นที่คาง เนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ แล้วตัวเองก็จำรอยสักที่กลางลำตัวที่ไหลทั้งสองข้างของน้องชายได้ ส่วนรอยสักที่แผ่นหลังตัวเองก็ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่


พี่ชายของแป้ง นาโหนด บอกอีกว่า ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่น้องชายที่คลานตามกันมา แต่ตัวเองก็เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก อาบน้ำด้วยกัน ไปโรงเรียนด้วยกัน ไปเล่นด้วยกัน เปรียบเสมือนน้องชายแท้ ๆ เลยก็ว่าได้


แต่ตั้งแต่เสี่ยแป้งหายตัวไป ขอยืนยันว่า เค้าไม่ได้ติดต่อมาหาตัวเองเลยสักครั้ง

---------------

'ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์' รายงานว่า ตำรวจสามารถจับ แป้ง นาโหนด ได้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 67 เวลา 11.25 น. (ตามเวลาในประเทศอินโดนีเซีย)


โดยสาเหตุที่ แป้ง นาโหนด ถูกจับกุม สืบเนื่องมาจากวันที่ 14 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา แดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ประสานตำรวจไทยว่า ได้รับแจ้งจากสถานทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย ว่า มีญาติของ Mr.SYAWANA (ชาวานา) อายุ 29 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ทางประเทศอินโดนีเซีย แจ้งว่า Mr.SYAWANA ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวไทย จับตัวไปในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนพาไปกักขังไว้ในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง ถูกซ้อมทรมานอัดคลิปวิดีโอส่งไปยังน้องสาว พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทย 2,300,000 บาท ด้วยความเป็นห่วง จึงโอนเงินไปแล้วบางส่วน 800,000 บาท ก่อนเข้าแจ้งกับทางการอินโดนีเซีย ประสานขอความช่วยเหลือดังกล่าว


ต่อมา พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เรียกประชุมลับกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ชุดสืบสวนสอบสวน และชุดพนักงานสอบสวน เพื่อกระจายกำลังลงพื้นที่ เพื่อสืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐาน กระทั่ง พบผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อ นายวีระศักดิ์ ซึ่งต่อมา กลายเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ในคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่ Mr.SYAWANA


ตรวจสอบประวัตินายวีระศักดิ์ พบว่า เป็นลูกน้องของนายเชาวลิต จึงขออนุมัติหมายจับเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน ก่อนเข้าช่วยเหลือ Mr.SYAWANA ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง


จากการสอบปากคำนายวีระศักดิ์ เบื้องต้น ได้ให้การซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายราย ในจำนวนนี้มี ด.ต.หญิง สังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมด้วย


ด.ต.หญิง เป็นคนรับตัว Mr.SYAWANA จากสงขลา มาส่งที่พัทลุง จึงขออนุมัติหมายจับศาล และเข้าจับกุมตัวได้ใน จ.สุราษฎร์ธานี


ขณะที่ Mr.SYAWANA ประสานทางการอินโดนีเซีย มารับตัวกลับไป หลังสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานเสร็จแล้ว    


ส่วนความเกี่ยวข้องกับ แป้ง นาโหนด ในคดีดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า ภายหลังหนีคดีคุมขังเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้หลบหนีการไล่ล่าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเวลาแรมเดือน


กระทั่ง มีกระแสข่าวว่า พรรคพวกที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และตำรวจ พาลงเรือที่ อ.ละงู จ.สตูล ไปหลบซ่อนตัวที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย


แต่พฤติกรรมของ แป้ง นาโหนด ยังไม่เปลี่ยน มีการเข้าไปพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยติดต่อค้ายาเสพติดผ่านกลุ่มค้ายาเสพติดใน จ.พัทลุง และจ.สงขลา โดยมีลูกค้าเป็นชาวอินโดนีเซีย


กระทั่งล่าสุด เมื่อต้นเดือน พ.ค. แป้ง นาโหนด ได้ขายไอซ์ล็อตใหญ่ให้พ่อค้าชาวอินโดฯ แต่มีปัญหาเงินค่ายาไม่พอ ยังค้างอยู่กว่า 2 ล้านบาท พ่อค้าชาวอินโดนีเซีย จึงให้ Mr.SYAWANA เพื่อนร่วมแก๊งเป็นตัวประกัน และมีชาวมุสลิมจาก จ.นราธิวาส อีก 2 คน ทำหน้าที่เป็นล่าม


โดยสมุนของ แป้ง นาโหนด ที่เป็น ด.ต.หญิง ขับรถมารับทั้ง 3 คน ไปควบคุมตัวไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง แต่หลังจากที่สมุนของ แป้ง นาโหนด ควบคุมตัว Mr.SYAWANA ไว้หลายวัน แก๊งยาเสพติดก็ยังจ่ายเงินให้แป้งไม่ได้ Mr.SYAWANA ทนไม่ไหวที่จะถูกควบคุมตัวไว้อีก ต้องการให้สมุนของแป้ง ปล่อยตัว แต่สมุนของแป้งไม่ยอม


Mr.SYAWANA จึงจัดฉากว่า ถูกจับตัวมาเรียกค่าไถ่ และถูกซ้อมทรมาน ก่อนส่งคลิปให้น้องสาวตัวเองที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อให้โอนเงิน 2 ล้านบาท มาไถ่ตัวออกไป


แต่น้องสาวโอนเงินมาเพียง 8 แสนบาท และไปแจ้งทางการ ประสานตำรวจไทยช่วยเหลือ เรื่องจึงแดง ก่อนจะบานปลาย จนมีการจับกุม แป้ง นาโหนด ในที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยภายหลัง Mr.SYAWANA กลับประเทศไป เชื่อว่าทางตำรวจอินโดนีเซีย ยังมีการสืบสวนสอบสวนขบวนการยาเสพติดภายในประเทศและขยายผลจาก Mr.SYAWANA จนพบความเกี่ยวโยงจนสามารถจับกุม แป้ง นาโหนด ได้


ซึ่งหาก แป้ง นาโหนด พักอาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซียแบบเงียบ ๆ ก็คงยังไม่ถูกจับกุม แม้ว่าจะมีหมายแดง เพราะตำรวจอินโดนีเซียไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเป็นคดีในประเทศไทย กระทั่งเข้าไปร่วมขบวนการยาเสพติด และยังก่อเหตุกับคนอินโดนีเซีย เลยทำให้ต้องถูกจับกุมดังกล่าว


อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซียยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมหลักฐานเอาผิดขบวนการยาเสพติดในประเทศ และหากพบหลักฐานชัดเจนว่า แป้ง นาโหนด เกี่ยวข้อง ก็จะมีการดำเนินคดีกับ แป้ง นาโหนด ในอินโดนีเซีย ก่อน แต่หากหลักฐานไม่สามารถเอาผิด ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ก็จะถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในไทยต่อไป


ทั้งนี้มีรายงานว่า ด.ต.หญิง สังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ได้เป็นคนชี้เป้าว่า 'แป้ง นาโหนด' กบดานอยู่ที่ไหน 


ทางการไทยเลยประสานทางการอินโดนีเซียแบบเงียบ ๆ จนสามารถจับกุมตัวได้

---------------

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมประสานงาน และวางแผนการจับกุม แป้ง นาโหนด ร่วมกับสถาบันตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย และไทย / สำนักงาน ป.ป.ส. / กรมสอบสวนคดีพิเศษ / กรมราชทัณฑ์ / กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำนครเมดาน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และคณะ ณ เมืองเมดาน เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 25 -26 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา


ต่อมา วานนี้ (30 พ.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด่วน กรณีจับกุม แป้ง นาโหนดได้แล้ว


โดย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ได้จับกุม แป้ง นาโหนด ได้ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยวันนี้ (31 พ.ค. 67) กระทรวงยุติธรรมจะมีการประสานเพื่อรับตัว แป้ง นาโหนด ที่กรุงจากกาตาร์


ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเลยเรื่อง แป้ง นาโหนด แต่อย่างใด จนทำให้ข่าวเงียบ ยังคงมีการสืบสวนอย่างลับ ๆ 


และสืบเนื่องจาก นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ / กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีให้ตนเองบินไปที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสานกับทางการของอินโดนีเซีย โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ / กระทรวงยุติธรรม / กรมราชทัณฑ์ / สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)


และนายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็กที่ ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศ เนื่องจาก แป้ง นาโหนด ได้ปลอมหนังสือเดินทาง และเข้าไปอยู่ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีรายงานว่า อยู่อย่างระมัดระวังที่เมืองเมดาน เกาะสุมาตรา ที่บาหลี และอีกหลายแห่ง


ทั้งนี้ ตำรวจของอินโดนีเซียได้ให้ความร่วมมือ จนกระทั่ง เมื่อช่วงเช้า วานนี้ (30 พ.ค. 67) สามารถควบคุมตัว แป้ง นาโหนด ได้ที่บาหลี


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังเปิดเผยด้วยว่า วานนี้ (30 พ.ค. 67) ช่วงเที่ยง จนท.ได้วอดีโอคอลมายังตนเอง เพื่อให้สอบปากคำ แป้ง นาโหนด และเป็นการยืนยันว่า เป็น แป้ง นาโหนด ตัวจริง


พร้อมกันนี้ ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 9 และที่สำคัญ เมื่อได้ตัว แป้ง นาโหนด แล้ว อาจจะนำมาซึ่งเบาะแสเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย


พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า เบาะแสสำคัญคือ มีผู้หญิงหลายคนบินไปหาแป้ง นาโหนด ที่อินโดนีเซียตลอด แต่รายละเอียดอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และไม่ขอระบุว่าเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ เนื่องจากต้องรอกระบวนการสอบสวน แต่เท่าที่ดูเบื้องต้น ไม่ใช่คนในครอบครัว ซึ่งเชื่อมโยงกับกรณีจับชาวอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่ด้วย


ส่วนขั้นตอนการนำตัวกลับมาดำเนินคดี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการของตำรวจอินโดนีเซีย เนื่องจาก แป้ง นาโหนด ถือหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งอาจจะเคยถูกตำรวจที่อินโดนีเซียจับกลุ่มหลายครั้ง แต่จะแสดงตัวเป็นคนใบ้ เพราะไม่สามารถพูดภาษาอินโดนีเซียได้


ขณะเดียวกัน ต้องชื่นชมความสามารถของตำรวจอินโดนีเซีย เมื่อได้รับทราบข้อมูล และจากการที่ตนไปที่อินโดนีเซีย 2-3 วัน ได้ดูเทคนิควิธีการสืบสวนสอบสวน มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมบอกว่า ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าเขาจะทำให้เต็มที่


“ต้องยอมรับว่าหลังจาก ตำรวจภูธรภาค 9 คว้าน้ำเหลวในการจับกุม ก็ได้มีการติดตามตัวมาโดยตลอด และยอมรับว่า แป้ง นาโหนดเป็นมืออาชีพ แม้แต่ตำรวจอินโดนีเซียก็บอกว่า นี่คือมืออาชีพ” รมว.ยุติธรรรม ระบุ


ส่วนตอนที่ไปจับกุม พบว่ามีเซฟเฮาส์ หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า เค้าเพิ่งบินไปเที่ยวบาหลี แต่ปกติพักอยู่ที่เมดัน เนื่องจากมีคอนโดใหญ่อยู่ที่นั่น


ส่วนจะมีเส้นทางทางการเงินส่งไปให้ แป้ง นาโหนด ตลอดใช่หรือไม่ นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าขอให้มีการสอบสวนก่อน


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการพูดคุย แป้ง นาโหนด ยอมรับว่า 'จนมุมแล้ว' ซึ่งทางเราได้ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจะรับรองเรื่องความปลอดภัย


อีกทั้ง แป้ง นาโหนด ไม่เคยเตรียมตัวว่าจะถูกจับกุมได้ เพราะคงคิดว่าเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุด จึงไปเที่ยว หากคิดว่าไม่ปลอดภัยก็จะอยู่แต่ในห้อง และก่อนถูกจับกุม แป้ง นาโหนด ไปเที่ยวบาหลี และทะเลาะกับผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย จึงเป็นที่มาของการจับกุม

---------------

ล่าสุด ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย พบว่า เมื่อประมาณวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีหน้าตาตื่นออกมาจากห้อง แล้ววิ่งหนีลงบันไดหนีไฟ ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็น แป้ง นาโหนด วิ่งตามมา ทั้งที่ยังสวมเสื้อไม่เรียบร้อย พยายามมองหาฝ่ายหญิง และวิ่งไปกดลิฟต์ แต่เปลี่ยนใจหันกลับมาที่ประตูหนีไฟ  และวิ่งตามไป แต่สักพักก็วิ่งกลับมาที่ลิฟต์อีกครั้ง


โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า แป้ง นาโหนด กับ สาวอินโดนีเซีย น่าจะทะเลาะกัน หรืออาจจะมีการทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง จนนำมาสู่การปิดเกม ตำรวจทราบเรื่อง และเข้าจับกุม


นอกจากนี้ ในวันดังกล่าว ได้มีพลเมืองดีที่อาศัยอยู่ภายในคอนโด ได้ยินเสียงการทำร้ายร่างกาย จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น


พอเจ้าหน้าที่รับทราบข้อมูล และตรวจสอบรายละเอียด จึงทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ แป้ง นาโหนด จึงตัดสินใจระดมกำลังเข้ามาที่คอนโด ไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด และแกะรอย  โดยสอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ.ว่า แป้ง นาโหนด พักอยู่ห้องเลขที่เท่าไร


อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งของ แป้ง นาโหนด ไหวตัวทัน รู้ว่ามีตำรวจอินโดนีเซียคอยสืบสวน สะกดรอย และติดตาม แป้ง นาโหนด จึงย้ายออกจากคอนโดทันที


ทำให้ตำรวจอินโดนีเซียต้องสะกดรอย กระทั่งพบว่า แป้ง นาโหนด หนีไปกบดานที่เมืองบาหลี และสามารถสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย เข้าจับกุมได้ในเวลา 11.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 67 (ตามเวลาท้องถิ่นของอินโดนีเซีย)

---------------

ในเวลาต่อมา ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ (31 พ.ค. 67) เราได้วางแผนไปประสานงานเพื่อให้มีการรับตัว ส่วนวานนี้ (30 พ.ค. 67) ตนได้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่รับผิดชอบในเรื่องของการจับกุม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการคู่ขนาน เพราะเรามีหมายแดง (Interpol) สำหรับการจับกุม นายเชาวลิต โดยหากเป็นไปได้ ในวันนี้ (31 พ.ค. 67) ถ้ารับตัวเขากลับมาได้ ก็จะได้นำกลับมาที่ประเทศไทย เพื่อดำเนินคดีต่อไป


พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า ในเรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีของนายเชาวลิตนั้น จะเป็นการรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้สอบสวน โดยอาจมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด และหากเราได้รับตัวนายเชาวลิตกลับมาไทย ก็อาจจะต้องพิจารณานำตัวไปคุมขังไว้ในเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง ส่วนเรื่องราวต่าง ๆ อาจต้องรอผลการสอบสวนก่อน


เมื่อถามว่า ในวันนี้ (31 พ.ค. 67) จะสามารถนำตัวเสี่ยแป้งกลับมายังประเทศไทยได้เลยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เนื่องจากเป็นเรื่องของกฎหมายประเทศอินโดนีเซีย เพราะตอนนั้น เขาอาจหลบหนีเข้าเมืองโดยการใช้พาสปอร์ตปลอม จึงขอไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน


แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบตัวนายเชาวลิตที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และตนได้พูดคุยกับตำรวจอินโดนีเซียแล้ว ทราบว่าจะมีการนำตัวนายเชาวลิตกลับไปที่จากาตาร์ (เมืองหลวงของอินโดนีเซีย)


แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย / ดีเอสไอ / กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ เราก็ได้ทำงานร่วมกับตำรวจอินโดนีเซีย และหากนำกลับมายังประเทศไทยแล้ว เราก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ หลบหนีไปจากการคุมขัง


ทั้งนี้ ในเบื้องต้น หากนำตัวนายเชาวลิตกลับมาได้ เจ้าหน้าที่จะนำตัวกลับเข้าเรือนจำก่อน แต่ก็ต้องไปดูว่าหลังจากนั้น จะควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หรือเรือนจำความมั่นคงในต่างจังหวัดแทน ขอให้เป็นดุลพินิจของนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์


เมื่อถามว่า ต้องแยกขังเดี่ยวนายเชาวลิตหรือไม่ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ พ.ต.อ.ทวี แจงว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เราจะทำในลักษณะเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนีอีก ส่วนเรื่องมาตรการต่าง ๆ ทางกรมราชทัณฑ์จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ และคงไม่ได้ติดกำไลอีเอ็ม (EM) ระหว่างอยู่ภายในเรือนจำ แต่จะจัดให้อยู่ในเเดนขังที่มีความมั่นคงเอาแทน

---------------

เปิดไทม์ไลน์บางช่วง ขณะ แป้ง นาโหนด หลบหนี


วัน 23 พ.ย. 66 แป้ง นาโหนด ติดต่อผ่านญาติ ขอมอบตัว พร้อมยื่นข้อเสนอ 2 เงื่อนไข ห้ามวิสามัญ-ไม่ให้ดำเนินคดีผู้ช่วยหลบหนี


วันที่ 24 พ.ย. 66 แป้ง นาโหนด มีการอัดคลิปแรกออกมาก คลิปที่ 1 นี้ อัดคลิปบริเวณสวนปลาล์ม ไม่ทราบพิกัด หลังหลบหนีนานกว่า 1 เดือน ก่อนจะปล่อยคลิปเปิดใจออกมา ความยาว 4 นาทีครึ่ง ระบายความรู้สึก บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกหักหลัง มีระบุถึงชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องบางคนในคดี ที่ร่วมวางแผน แต่ได้ประกันตัวทั้งหมด ยกเว้นเขาเพียงคนเดียวที่ถูกดำเนินคดี และจำคุกเป็นเวลากว่า 20 ปี


พร้อมเผยว่า หากสามารถจับคนที่ร่วมขบวนการได้ ตนก็จะเข้ามอบตัวให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนข่าวที่บอกยิงปะทะกัน ตนไม่ได้ยิงเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ก็มีลูกเมียเช่นกัน


วันที่ 25 พ.ย. 66 แป้ง นาโหนด ปล่อยคลิปที่ 2 แฉต่อเนื่อง เจ้าตัวนั่งอยู่ในห้อง โดยมีประตูสีน้ำตาลอยู่ด้านหลัง ซึ่ง แป้ง นาโหนด ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ พร้อมระบายความรู้สึกถึงความคับข้องใจ โดยยังคงย้ำว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า เหตุใดอัยการ ตำรวจ และพวกอีก 3 คน รวม 5 คน ร่วมก่อเหตุชิงตัวผู้ต้องหาเมื่อปี 2562 ได้รับการประกันตัว ทั้งที่เป็นผู้วางแผน และตัวเสี่ยแป้งอ้างว่าถูกหลอกให้ร่วมก่อเหตุ เคยทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมไปหลายฉบับ  แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ

---------------

ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า พล.ต.ต. สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช  ระบุ ว่า ได้สั่งการชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนให้เตรียมพร้อม ภายหลัง นายเชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด ถึงนครศรีธรรมราช โดยจะทำการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง จากนั้น จะส่งดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช


เมื่อถามว่า การควบคุมตัวเสี่ยแป้งในครั้งนี้ ได้มีการเตรียมการเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ดีแล้วหรือไม่ พล.ต.ต. สมชาย กล่าวว่า รอบนี้คงไม่ให้พลาดอีก และตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้แล้วเสร็จ ต้องรอให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีอีกครั้งหนึ่ง


ตอนนี้ ต้องรอคำสั่งก่อนว่า จะส่งตัวขึ้นไปยังส่วนกลางก่อนส่งตัวมานครศรีธรรมราช หรือส่งตัวมานครศรีธรรมราชโดยตรง ตนได้สั่งเตรียมกำลังตำรวจในการควบคุมตัวสุดเข้ม และพนักงานสอบสวนในการระดมสอบสวนปากคำ แป้งนาโหนด ก่อนส่งฝากขังต่อศาลตามขั้นตอน

---------------



















แท็กที่เกี่ยวข้อง  แป้ง นาโหนด

คุณอาจสนใจ

Related News