โชเฟอร์แท็กซี่ เปิดใจปมปะทะสาว ยอมรับผิดไม่กดมิเตอร์ โอดเหมือนถูกโดนล่อซื้อ

จากกรณีแท็กซี่รับผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งมาจากต่างจังหวัด โดยคิดราคาเหมา ไม่กดมิเตอร์ 400 บาท ต้นทางมาจากสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ มาส่งที่สถาบันราชประชาสมาสัย ซึ่งมีระยะทาง 24 กิโลเมตร ทำให้สาว ซึ่งเป็นพี่ของผู้โดยสารหญิง ว่ากล่าวแท็กซี่ ทำไมไม่กดมิเตอร์ เห็นน้องมาจากต่างจังหวัด ตั้งใจจะโกงใช่ไหม ก่อนที่คนขับแท็กซี่ จะสวนกลับมาบอกว่าไม่ได้โกง ตกลงราคากันแล้ว และราคานี้รวมค่าทางด่วนอีก 50 บาทด้วย ซึ่งสาวได้เถียงกลับไปบอกว่าไม่จริง แท็กซี่พูดโกหก เพราะน้องสาวเป็นคนจ่ายค่าทางด่วนเอง

โดย คนขับแท็กซี่ บอกว่าเหตุผลที่ไม่กดมิเตอร์ เพราะไปจอดรอตั้ง 2 ชั่วโมง กว่าจะได้ผู้โดยสาร เลยคิดราคาเหมา ซึ่งทำให้สาวไม่พอใจ และโต้เถียงกันรุนแรงขึ้น โดยมีบางช่วงแท็กซี่ทำท่าฮึดฮัด ปลอดเข็มขัดนิรภัย และเหมือนจะลงมาจากรถ จนสุดท้ายสาวต้องปิดประตูรถ เพราะกลัวจะถูกทำร้าย

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ หน้าสถาบันราชประชาสมาสัย โดยวินจักรยานยนต์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า หลังจากที่ตนได้ยินสาวและแท็กซี่ มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และแท็กซี่ชี้หน้าด่าสาว ว่ามึงไม่ต้องมาพูด และทำท่าเหมือนจะลงมาจากรถ ตนและเพื่อนวินอีกหลายคน รวมถึง รปภ. จึงเข้าไปช่วยกันห้าม จนคนขับแท็กซี่เห็นว่าคนอยู่เยอะ จึงขับรถออกไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากไม่มีคนเข้ามาห้าม แท็กซี่รายนี้ต้องเข้ามาทำร้ายอย่างแน่นอน

ขณะที่ คนขับแท็กซี่ ชี้แจงกับทีมข่าว ว่าได้บอกกับผู้โดยสารตั้งแต่แรกแล้วว่าขอคิดราคาเหมา 400 บาท เพราะรถติด ซึ่งผู้โดยสารก็ให้ และระหว่างนั้น ผู้โดยสารก็ส่งโทรศัพท์ให้ตนคุยกับสาว และทางสาว ก็บอกว่าให้ตนมาส่งได้เลย ตนก็เลยขับมา แต่เมื่อมาถึงพบว่าฝั่งสาวได้เตรียมที่จะถ่ายคลิปไว้แล้ว เหมือนกับตนถูกหลอก ถูกโดนล่อซื้อเพื่อจะถ่ายคลิป ทำให้ตนโมโห แต่ตนก็ยอมรับว่าตนผิดที่ไม่กดมิเตอร์ จากเหตุการณ์นี้ทำให้ตนคิดถึงขั้นจะเลิกขับแท็กซี่