สังคม

มอบตัวแล้ว! แท็กซี่หัวร้อนมือยิงหนังสติ๊ก ใส่กระจกหลังรถครูได้รับความเสียหาย อ้างยิงผิดคัน

โดย parichat_p

25 เม.ย. 2566

111 views

โชเฟอร์แท็กซี่มือหนังสติ๊กยิงรถครูเข้ามอบตัวแล้วหลังรับหมายเรียกอ้างยิงผิดคันย่านพระประแดง


วันที่ 25 เมษายน 2566 นาย สุทธิพงศ์ อายุ 55 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสาธารณะหรือแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติก สีส้ม เป็นของบริษัท สหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด สืบเนื่องเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2566 เวลา 13.13 น.บริเวณหน้าปั๊มบางจากถนนสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าสามแยกพระประแดง ได้ก่อเหตุใช้หนังสติ๊กใส่กระสุนด้วยเหรียญ 10 ยิงใส่รถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิส สีแดง 


โดยมีนาย สรวิชญ์  อายุ 41 ปี เป็นผู้เสียหายและเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนสามัคคีบำรุง เขตทุ่งครุ ได้รับความเสียหายกระจกด้านหลังแตกกล้องติดรถเสียหาย และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร้อยตำรวจเอกนิรันทร์ สวัสดิ์ศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดวันนี้นาย สุทธิพงศ์ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวและรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพราะคิดว่าเป็นรถเก๋งสีแดงก่อนเกิดเหตุประมาณ 4-5 วันบริเวณบนสะพานภูมิพลได้ควักปืนมาขู่ เมื่อมาถึงวันเกิดเหตุในวันที่ 9 เม.ย.2566 เห็นรถผู้เสียหายขับออกมาจากซอยสุขสวัสดิ์ 64 จึงได้ตะโกนเรียก แล้วไม่ยอมจอดตนจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบหยิบหนังสติ๊กที่อยู่ในรถพร้อมใส่เหรียญ 10 ยิงไปที่กระจกหลัง แล้วจากก่อเหตุแล้วถึงขับรถหลบหนีไป



วันนี้ถึงได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบปากคำเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงและยิงหนังสติ๊กไปผิดคัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังสอบปากคำเรียบร้อยจึงได้แจ้งข้อกล่าวหานาย สิทธิพงศ์ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นนาย สิทธิพงศ์ ได้ชดใช้ความเสียหายให้กับคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ต่อหน้าเจ้าพนักงานสอบสวน ทั้งผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความใดๆปล่อยให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดำเนินการกฎหมายต่อไป


จากการสอบถามนาย สรวิชญ์ (ครูผู้เสียหาย)ได้เล่าให้ฟังว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาที่ สภ.พระประแดง ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาแล้วแจ้งว่าวันนี้ผู้ก่อเหตุจะเข้ามามอบตัว ตนได้พุดคุยกับนาย สิทธิพงศ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพแล้วได้ก่อเหตุจริง และได้ชดใช้ค่าความเสียหายมาเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท โดยได้อ้างว่าจำรถผิดคันเพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 วัน นายสิทธิพงศ์ คนขับรถแท็กซี่ถูกรถลักษณะเดียวกันกับของคุณครูบริเวณบนสะพานภูมิพลควักออกปืนมาขู่ หลังจากนั้นตนจึงได้จำรถคันดังกล่าวไว้เป็นจังหวะเดียวกันกับวันที่เกิดเหตุตนเห็นรถคุณครูออกมาจากซอยสุวรรณ 64 และรถลักษณะเหมือนกันตนจึงคิดว่าเป็นรถคนที่เคยเอาปืนมาขู่จึงพยายามกดแตร่เรียกแล้วก็ใช้หนังสติ๊กยิง



พันตำรวจเอก ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับสภ.พระประแดง ได้เล่าว่า ได้รับรายงานจาก ร้อยตำรวจเอก นิรันทร์ ว่าเมื่อวันที่ 9 เมษายน2566 เวลาประมาณ 13.13 น มีเหตุรถแท็กซี่ใช้หนังสติ๊กที่ใส่เหรียญ 10 เป็นลูกกระสุนยิงใส่รถคุณครูผู้เสียหายบริเวณกระจกหลังจนได้รับความเสียหาย หลังจากรับพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายและเช็คตรวจสอบเอารถแท็กซี่ทะเบียนคันดังกล่าว และพบว่านอนก่อเหตุขณะนั้นมีนาย สุทธิพงศ์ เป็นคนขับรถในวันก่อเหต พนักงานสอบสวนจึงทำหมายเรียกให้มาพบตัวที่ สภ.พระประแดง พร้อมกับผู้เสียหาย นนท์ให้การรับสารภาพไว้ได้ก่อเหตุจริงอ้างว่าจำรถผิดคันที่ก่อนเกิดเหตุตนเคยถูกรถเก๋งสีแดงลักษณะแบบนี้ใช้ปืนควักออกมาขู่บนสะพานภูมิพล แล้ววันเกิดเหตุที่ใช้นามสกุลหรือว่ารถผู้บริหารรถครูที่ใช้ปืนออกมาขู่ก่อนหน้านี้ ถึงอะไรก็ตามทางที่ตำรวจจะแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับรถแท็กซี่ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และจะส่งตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



นาย สุทธิพงศ์ ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงเป็นการก้อเหตุผิดคัน สืบเนื่องก่อนวันเกิดเหตุประมาณ 4-5 วัน ตนได้ขับรถอยู่บนสะพานภูมิพล2 มุ่งหน้าลงถนนสุขสวัสดิ์ มีรถเก๋งสีแดงคล้ายรถผู้เสียหายชักปืนขู่บนสะพานภูมิพล2 ต้นกลัวจึงรีบขับรถหนีมาแต่ไม่ได้มองทะเบียนรถ พอมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2566 ต้นกำลังขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารอยู่พอมาถึงปากซอยสุขสวัสดิ์ 64 รถไม่ได้เห็นรถเก๋งสีแดงซึ่งเป็นรถผู้เสียหายที่เป็นคุณครูขับออกมาจากซอย ตนนึกว่าเป็นรถคันเดียวกันก่อนหน้านี้ที่ควักปืนขู่ตนที่บนสะพานภูมิพล 2 จึงได้กดแตรเรียก แต่รถผู้เสียหายหรือรถครูไม่จอดตนจึงขับรถตามหลังและใช้หนังสติ๊กใส่เหรียญ 10 ยิงไปที่กระจกหลังจากนั้นตนก็หลบหนีไป จนมีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตนจึงได้ติดต่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะเข้ามามอบตัวในวันนี้ แล้วได้พบเจอกับผู้เสียหายตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ผู้เสียหายฟัง และได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายเพราะสำนึกผิด พร้อมกับชดใช้ความเสียหายที่กระจกด้านหลังของรถผู้เสียหายแตกและก็วงติดรถรวมถึงฟิล์มติดกระจก เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ทำผู้เสียหายจึงรับคำขอโทษและไม่ติดใจใดๆส่วนทางด้านคดีมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตนในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และจะส่งตนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News