ฟันผิด 4 ข้อหา แท็กซี่หัวร้อน คว้ามีดไล่ฟันคนญี่ปุ่น โดนปรับ 4 พัน จำคุก 1 เดือน

ชายชาวญี่ปุ่นแจ้งความโดนโชเฟอร์แท็กซี่คว้ามีดไล่ฟัน หลังขอลงจากรถ เพราะแท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์ ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา ปรับ 4 พัน จำคุก 1 เดือน รอลงอาญา 1 ปี

ชายชาวญี่ปุ่นโพสต์ภาพและข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ถูกคนขับรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เอามีดไล่ฟันเพราะไม่พอใจที่เขาไม่ยอมจ้างราคาเหมา และมีท่าทีแปลกๆ คล้ายคนเมา และเล่าเหตุการณ์ว่า เรียกแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จังหวะที่แท็กซี่เปิดกระจกเพื่อเจรจา เห็นว่าคนขับแท็กซี่คนนี้มีแววตาสีแดงอาจจะเมา แล้วแท็กซี่ก็นั่งนิ่งพักหนึ่งก่อนจะบอกว่า “ไป” พอขึ้นรถ คนขับหันมาบอกว่า ไม่กดมิเตอร์ แต่คิดราคาเหมาจ่าย 150 บาท ชายชาวญี่ปุ่นจึงบอกว่า “งั้นไม่ไป ขอลงตรงนี้” พอลงรถก็ปิดประตูแรง อาจจะทำให้แท็กซี่ไม่พอใจ ลงมาจากรถแล้วตะโกนด่าเขา พอชายชาวญี่ปุ่นเดินหนี คนขับแท็กซี่กลับไปที่รถแล้วเหมือนพยายามที่จะหาของบางอย่าง ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมมีด ทำให้เขาต้องวิ่งหนี พอหันหลังกลับไปก็พบว่า แท็กซี่คนดังกล่าวได้กลับไปที่รถและขับออกไปแล้ว

ชายชาวญี่ปุ่นยังเขียนข้อความอีกว่า หากทุกคนคิดว่าชายคนนี้เป็นอันตราย ก็ไม่ควรที่จะขึ้นรถของเขา และถึงแม้ว่าเขาจะมีอาการรำคาญ ก็ไม่ควรที่จะพยายามไปยั่วยุ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยเป็นสังคมที่มีอาวุธ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างปัญหาเดือดร้อนกับคนรอบข้าง หากเจอสถานการณ์แบบนี้ ควรจะต้องอดทนอดกลั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม ขอให้ทุกคนโปรดระมัดระวังให้มาก

ทีมข่าวสอบถามไปยังพันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า เหตุเกิดราว 20.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ชายชาวญี่ปุ่น 2 คน เรียกแท็กซี่ที่หน้าอาคารฟอร์จูนทาวเวอร์ ไปร้านอาหารที่รัชดาซอย 3 แต่พอขึ้นรถ โชเฟอร์แท็กซี่กลับเรียกเงินถึง 150 บาททั้งที่ระยะทางไม่ไกล พอขอลงแท็กซี่ก็เดินลงมากระโดดเตะ โดนที่ข้อมือชายชาวญี่ปุ่น และหยิบมีดมาไล่ทำร้าย ก่อนจะขึ้นรถขับหนีไป ต่อมาแฟนสาวคนไทยของชาวญี่ปุ่นได้ส่งเรื่องร้องเรียนมาที่เพจเฟซบุ๊กของ สน.ห้วยขวาง แต่ไม่ให้เบอร์ติดต่อ และไม่สามารถติดต่อกลับได้ จึงต้องใช้เวลาเพื่อเชิญตัวมาให้ข้อมูล แต่ระหว่างนั้นให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งติดตามตัวคนขับแท็กซี่มาดำเนินคดีได้ในเย็นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ทันที เป็นชายวัย 72 ปี เป็นคนขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน แต่ไม่พบสารเสพติด หรืออาการป่วยทางจิต

ตำรวจแจ้ง 4 ข้อ คือ ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว, พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และคิดค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ซึ่งผู้ขับขี่รับสารภาพทุกข้อหา ก่อนจะคุมตัวไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือในช่วงเช้าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท ในคดีทำร้ายร่างกายและทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 15 วัน ปรับ 2,500 บาท ส่วนข้อหาพกพาอาวุธมีดปรับ 500 บาท จำคุก 15 วัน รวม 3 ฐานความผิด ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุก 1 เดือน ให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนเรื่องเรียกเก็บค่าโดยสาร พนักงานสอบสวนปรับ 1,000 บาท พร้อมส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบกต่อ เพื่อให้พิจารณาเรื่องพักใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/FC0zOlanxCE