เจ๊อ้อย ใจดียกหนี้ดอกเบี้ยให้ เจ๊เล็ก 1.2 แสน ขอแค่เงินต้นคืน 2 หมื่น หลังปลัดเรียกเคลียร์ดรามา

จากกรณีที่ เจ๊อ้อย ได้นำ “พานขันธ์ห้า” บุกไปทวงหนี้กับเจ๊เล็ก ซึ่งเป็นลูกหนี้ถึงบ้าน เหตุเกิดที่ตำบลบางลาย อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร แล้วเจ๊อ้อย นำภาพดังกล่าวไปลงสื่อโซเชียลจนเป็นข่าวโด่งดัง ขณะเดียวกันยังกลายเป็นกระแสดรามาที่ผู้คนวิพวกษ์วิจารณ์  

โดยวันนี้ ผู้นำท้องถิ่น ได้นำเจ๊อ้อย กับเจ๊เล็ก ให้ทั้งสองฝ่ายนัดมาเจรจาตกลงประนอมหนี้กัน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบึงนาราง โดยมีนายภาณุพงษ์ เรี่ยวแรง ปลัดอำเภอบึงนาราง เป็นผู้ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติ โดยการเจราจาประนอมหนี้

โดยฝั่งเจ๊อ้อย เดินทางมายังอำเภอบึงนาราง พร้อมด้วยเพื่อนบ้านและลูกศิษย์หลายสิบคน เนื่องจากเจ๊อ้อยนั้นเป็นพราหม์เจ้าพิธี จึงมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะมาให้กำลังใจกับเจ๊อ้อย ด้านฝั่งเจ๊เล็กไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่มอบฉันทะให้ลูกชาย และญาติมาเจราจาแทน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีญาติๆแห่มาให้กำลังใจกัน สำหรับการเจราจาประนอมหนี้ในครั้งนี้

ทางปลัดอำเภอบึงนาราง ได้ขอเจรจาทีละฝ่ายก่อนเพื่อขอวัตถุประสงค์ในการตกลงข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายกันก่อน แต่ยังไม่ให้เผชิญหน้ากันหวั่นเกิดประทะคารมย์กัน

โดยการเจรจาทางด้านของฝ่ายเจ๊อ้อยนั้น เจ๊อ้อยได้กล่าวว่าขอให้เจ๊เล็กนำเงินมาใช้หนี้ เป็นเงินสด 2 หมื่นบาทถ้วนซึ่งเป็นเงินต้นคืน จากเงินทั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท ส่วน 1 แสน2หมื่นบาทที่เหลือ เจ๊อ้อยขอยกหนี้ให้ถือว่าทำบุญไป เนื่องจากเงิน2หมื่นนั้นเจ๊อ้อยจะนำไปบวชลูกบุญธรรมในเดือนเมษายนนี้ ก็จะไม่เอาความ ไม่เอาดอกเบี้ยอะไรกับเจ๊เล็กจะขอจบด้วยดีเท่านั้น พร้อมกับจะลบคลิปต่างๆที่ลูกชายเจ๊ลฺกขอให้ลบและขอให้เจ๊เล็กไม่แจ้งความ พรบ.คอมพิวเตอร์ ตนเอง

ส่วนทางฝ่ายเจ๊เล็กนั้น รับข้อเสนอของฝ่ายเจ้อ้อย และจะนำเงิน 2 หมื่นให้ ขอให้ทางเจ๊อ้อยขอโทษด้วยวาจา และขอจบด้วยดีทั้งนี้การขอโทษษต่างๆจะไม่ให้เจ๊อ้อยไปลงสื่อทางโซเชี่ยว ทั้งนี้ทาวลูกชายเจ๊เล็กจะไปปรึกษากับเจ๊เล็กผู้เป็นแม่ และญาติๆ อีกครั้งหนึ่งว่าจะอย่างไร พร้อมกับจะนำคำตอบมาแจ้งทางปลัดอำเภอบึงนาราง ให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่งสองฝ่ายรับข้อเสนอ

โดยนายภาณุพงษ์ เรี่ยวแรง ปลัดอำเภอบึงนาราง กล่าวว่า วันนี้ได้ฟังข้อสเนอทั้งสองฝ่ายแล้ว และทางด้านเจ๊อ้อยขอเพียงเงินต้นคืนแค่ 2 หมื่นบาทเท่านั้นจากยอดทั้งหมด 1 แสน 5 หมื่นบาท และไม่เอาความ ทางฝ่ายเจ๊เล็กจะนำเงินสดคืนให้ 2 หมื่นบาทตามคำขอ แต่ฝ่ายเจ๊เล็กนั้นขอการขอโทษนั้นขอให้ขอโทษษกันทั้งสองฝ่าย คือให้เจ๊อ้อยขอโทษเจ๊เล็กกรณีทวงเงินทางสื่อโซเชี่ยว ส่วนเจ๊เล็กจะขอโทษที่ไม่ได้ใช้นหนี้เจ๊อ้อย โดยฝ่ายเจ๊เล็กจะปรึกษากับญาติๆอีกครั้งก่อน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายขอจบกันแบบเงียบๆไม่ให้มีการลงสื่อโซเชี่ยวอะไรและใช้หนี้สินตามข้อตกลงต่อหน้าปลัดอำเภอโดยลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน