หญิงแจ้งความ ได้ใบสั่งจับความเร็วที่เชียงราย แต่ทั้งรถ-เจ้าของอยู่อุทัยธานี ไม่ได้ไปไหน

ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.หนองฉาง หลังคาดว่าตนเองนั้นน่าจะถูกสวมป้ายทะเบียนรถยนต์ เนื่องจากที่มีใบเอกสารแจ้งเสียค่าปรับ ขับขี่รถยนต์เกินความเร็วที่กำหนดส่งมาที่บ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยระบุจุดเกิดเหตุ อยู่ที่จังหวัดเชียงราย แต่รถยนต์ของตนเองนั้นอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดอุทัยธานี แต่ตนเองนั้นไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่จังหวัดเชียงรายแต่อย่างใด


โดยรายละเอียดในเอกสารดังกล่าว ระบุว่า รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า หมายเลขทะเบียนรถ XX 4870 อุทัยธานี ข้อหา ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (พรบ.ทางหลวงฯ มาตรา 5 (2) , มาตรา 69) เหตุเกิดที่ ทล.131 กม.6+415 (ขาออก) ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 เวลา 19.03 น. รายละเอียด/พฤติการณ์ในคดีความเร็วที่กฎหมายกำหนด 90 กม./ชม. ความเร็วที่ตรวจจับ 121 กม./ชม. มูลค่าค่าปรับ จำนวน 500 บาท


โดย นางสาวแสงอรุณ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ในเขตเทศบาลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเอกสารจากตำรวจทางหลวง จังหวัดพะเยา ส่งมาที่บ้าน หลังจากที่เปิดเอกสารอ่านดูก็พบว่า มีการแจ้งรายละเอียดว่า รถยนต์ของตนเองได้ถูกแจ้งข้อหา ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยพบว่าเหตุเกิดที่บริเวณ ทล.131 กม.6+415 (ขาออก) ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 เวลา 19.03 น. ซึ่งวันและเวลาดังกล่าวนั้น ตนเองและรถยนต์คันนี้อยู่ที่บ้านที่จังหวัดอุทัยธานี ไม่ได้ขับไปที่ดังกล่าวแต่อย่างใด


ที่สำคัญคือ รถนั้นก็ยี่ห้อเดียวกัน สีเดียวกันอีกด้วย จึงกังวลว่า อาจจะถูกสวมป้ายรถยนต์ก็เป็นได้ จึงเดินทางนำเอกสารที่ได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.หนองฉาง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง เพราะกังวลว่าอาจจะถูกนำไปใช้ก่อเหตุไม่ดีอื่นๆ อีก


ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ทำการตรวจสอบภาพถ่ายจากใบแจ้งปรับแล้ว คาดการณ์ว่า รถยนต์ที่อยู่ในภาพน่าจะเป็นรถกระบะ ยี่ห้อ Toyota Hilux Revo โดยจะทำเรื่องส่งหนังสือแจ้งสอบถามกลับไปยังตำรวจทางหลวง จังหวัดพะเยา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจเรื่องดังกล่าว เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างสวมแผ่นป้ายทะเบียน ต่อไป