"มานะ" 1 ในผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจก่อเหตุรีดทรัพย์วันรุ่น สารภาพสวมรอยเป็นตำรวจจริง

พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สภ.บางศรีเมือง นำตัวนายมานะ หรือนุ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่อ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี มาแถลงข่าวผลการจับกุม

พ.ต.อ.สมชาย เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกรวม 5 คน มีรายชื่อคือนายมงคล อายุ 71 ปี (จับกุมตัวไปแล้ว) นายวีรยุทธ อายุ 48 ปี นายบุญทิ้ง อายุ 50 ปี และนายนิด (ยังไม่ทราบชื่อจริง) แต่งกายคล้ายตำรวจไปก่อเหตุอุ้มนายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 51 ปี พร้อมค้นรถกระบะของผู้เสียหาย อ้างว่าผู้เสียหายมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ข่มขู่เรียกเงิน 50,000 บาท ก่อนจะไปก่อเหตุซ้ำ ในพื้นที่สายไหม เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ต้องหาที่ร่วมก็เหตุก็เป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลเพิ่มเติม ว่าเคยมีการก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในพื้นที่อื่นหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหามีความชำนาญในการก่อเหตุ


ด้านนายมานะ ยอมรับว่า ได้ร่วมก่อเหตุรีดทรัพย์ทั้ง 2 พื้นที่จริง เนื่องจากในอดีตตนเองเคยเป็นสายลับให้กับนายตำรวจ ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของตำรวจ จึงได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกัน ซึ่งแต่ละคนจะได้รับข้อมูลจากสายข่าวในแวดวงผู้เกี่ยวข้องยาเสพติดที่ต้องการหักขากัน ให้ไปตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยไม่มีใครทำหน้าที่เป็นหัวหน้า เพียงแต่ร่วมกันไปก่อเหตุเท่านั้น


จากนั้นจะนำกำลังเข้าไปขอตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น เมื่อพบยาเสพติดก็จะเข้าสู่กระบวนการเรียกเงิน แต่ส่วนใหญ่จะไม่สามารถเรียกเงินได้ จึงมีการขอเลขบัญชี และเบอร์โทรกันไว้


นายมานะ ยังยอมรับว่า ทุกครั้งที่เข้าไปก่อเหตุจะสมอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่เคยกล่าวอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเข้าใจเองว่ากลุ่มพวกตนเป็นตำรวจ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยยัดยาให้ใครเพราะผู้เสียหายแต่ละรายจะมีประวัติเกี่ยวข้อง และมียาเสพติดอยู่ที่ตัวอยู่แล้ว และทุกครั้งภารกิจรีดเงินไม่เคยสำเร็จ ทำให้ไม่เคยได้รับเงินจากผู้เสียหาย รวมถึงเงิน 5,000 บาท ที่ผู้เสียหายในพื้นที่สายไหมกล่าวด้วย แต่กลุ่มผู้เสียหายก็มักจะชิงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพื่อความได้เปรียบทางคดี