สังคม

'เจ๋ง' ยกพานสาบานไม่เกี่ยวแก๊งตบทรัพย์ แค่คนกลางช่วยเคลียร์ ลั่นจ่อฟ้องคนใส่ร้าย

โดย panwilai_c

1 ก.พ. 2567

69 views

เจ๋ง-การ์ตูน ยืนยันไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ศรีสุวรรณ แต่เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะไปช่วยเจรจาและตามเงิน ยันไม่ได้ถูกจับ แต่มอบตัวเอง เดือด สาบานหากร่วมตบทรัพย์จริงขอให้มีอันเป็นไป ลั่นจ่อฟ้องคนใส่ร้าย



10 โมงที่ผ่านมา นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะเลขานายเจ๋ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังโดนกล่าวหาว่าร่วมกับนาย ศรีสุวรรณ จรรยา ตบทรัพย์ นาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์



เริ่มต้นนาย เจ๋ง ก็ออกตัวก่อนเลยว่า วันที่ 26 มกราคม 2567 ที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เข้าควบคุมตัว ไม่ใช่การบุกจับกุม แต่เขามอบตัวที่ สน.ดุสิต เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีหมายจับ จึงประสานงานให้ตำรวจมารับตัว และถูกยึดโทรศัพท์ตั้งแต่วันนั้น พร้อมย้อนเล่าเหตุการณ์ว่า



เหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2566 นาย ศรีสุวรรณ กับเขา เจอข้อพิรุธในกรมฝนหลวงเกี่ยวกับการทุจริตจึงนัดหมายกันเพื่อไปร้องที่กรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ทำให้รู้เรื่องการตรวจสอบอธิบดีกรมการข้าว



จากนั้นวันที่ 19 ธันวาคม 2566 จึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งนาย ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นาย ธรรมนัสบอกว่าให้ไปดูแลหน่อย ทำให้วันที่ 20 ธันวาคม 2566 หลังยื่นเอกสารร้องเรียนกรมฝนหลวงเสร็จ จึงออกมาแถลงข่าว และโปรยเรื่องพบทุจริตในกรมการข้าว เนื่องจากเขาและนาย ศรีสุวรรณ มีข้อมูลในเรื่องนี้เหมือนกัน



และหลังแถลงข่าวจบเพื่อนสนิทที่เป็นอดีตแกนนำคนเสื้อแดง โทรศัพท์มาคุย มาขอว่า "อย่าไปแตะกรมการข้าวเลย อธิบดีเป็นน้องผม ขอให้ช่วยดูแหน่อย" ทำให้คืนวันที่ 20 ธันวาคม เจ๋งดอก จิก โทรศัพท์ไปหานาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว หรือ อธิบดีโจ แต่อธิบดีไม่รับสาย จากนั้น 5 ทุ่ม อธิบดีกรมการข้าวโทรกลับมา แต่เขาไม่ได้รับสาย



กระทั่งเช้าวันที่ 21 ธันวาคม มาไล่ดูมือถือว่าใครโทรศัพท์มาบ้าง พอเห็นเบอร์เลยโทรกลับ และอธิบดีโจเป็นคนนัดขอเจอ นัดกันที่โรงแรมมารวย แล้วเปลี่ยนเป็นที่กรมการข้าวแทน เพราะคนเยอะ ซึ่งวันนั้นอธิบดีโทรตามเขาทั้งวัน



พอไปถึงที่กรมการข้าวราวเที่ยง 45 อธิบดีลงมารับ เจ๋งจึงโทรกลับไปหาเพื่อนคนเสื้อแดงที่โทรมาฝาก และบอกว่าเจออธิบดีแล้ว เพื่อนบอกว่า "ช่วยดูแลหน่อย" พอขึ้นไปที่ห้องทำงานอธิบดี ก็เจอภรรยาอธิบดีนั่งอยู่ในห้องแล้ว อธิบดีโจใช้คำพูดว่า "พี่ช่วยผมหน่อย ในราคาที่ตกลงกันไว้ ผมไม่ไหว" และยังบอกด้วยว่า "เขาเป็นคนเสื้อแดง ช่วยคนเสื้อแดงมาตลอด" ก่อนจะกราบที่ตัก "เจ๋ง" ขอบคุณที่เข้ามาช่วยดูแล ทำให้เจ๋งรับปากว่าจะช่วยดูแลให้ ซึ่งทางอธิบดีโจบอกว่าเรื่องนี้จะให้ภรรยาเป็นคนดูแล ทางภรรยาอธิบดีโจก็ถามว่าแล้วจะให้ติดต่อประสานงานกับใคร "เจ๋ง ดอกจิก" จึงบอกให้ติดต่อประสานงานกับ เลขาตูน และให้เบอร์ติดต่อกันไว้ ตอนลากลับอธิบดีและภรรยาก็ลงไปส่งเจ๋งที่รถ พร้อมกับกราบสวัสดีอีกครั้ง และย้ำว่าขอให้ช่วย



เจ๋ง ยืนยัน ในเรื่องนี้เขาเป็นแค่คนกลางที่ช่วยเจรจาให้ ไม่ได้เงินสักบาท และไม่รู้รายละเอียดการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายมาก่อนหน้านี้ ว่าตกลงเจรจากันที่บ้านนายศรีสุวรรณอย่างไร แต่เขาเข้ามาเป็นคนกลางเพราะได้รับการร้องขอให้ช่วยเคลียร์ปัญหาเท่านั้น ที่ช่วยเพราะเห็นว่าเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน เมื่อเพื่อนโทรศัพท์มาขอให้ช่วย เขาก็ช่วย แต่กลับโดนหักหลัง ไม่คิดเลยว่า ในกรมการข้าวจะมี "งูเห่า" และเขาเป็นขาวนา ไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ เรื่องไหนจริงไม่จริงรู้กันอยู่แก่ใจ คนเราถ้าไม่ผิด ไม่มีแผลจะเคลียร์ทำไม



เจ๋ง ยังตำหนิการทำงานของตำรวจ ที่ออกมาให้ข่าวรายวันในลักษณะให้ข้อมูลที่กล่าวร้าย หาว่าเขาร่วมกระทำความผิด ทั้งที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และไม่ได้อยู่ในทีมรีดทรัพย์ ทำให้ถูกประชาชน สังคม เข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่ผู้ที่จะชี้ถูกผิดในคดีนี้ได้ต้องเป็นศาล แต่จากข้อมูลที่ตำรวจให้สัมภาษณ์ทำให้เขาถูกสังคมพิพากษาไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้เขาจะฟ้องทุกคนที่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมถึงบรรดาเกรียนคีย์บอร์ด



จากนั้นนาย เจ๋ง ได้ยกพานธูปเทียนแพ ขี้มาสาบาน บอกว่า ถ้าเป็นแก๊งตบทรัพย์ ร่วมกับ นาย ศรีสวุรรณ จรรยา จริงขอให้มีอันเป็นไป ถ้าผมไม่ได้เป็นไป ขอให้พระแก้วมรกต ศาลหลักเมือง พระแม่ธรณี ไปลงโทษคนที่กล่าวหาเขา ให้เดือดเนื้อร้อนใจอยู่ไม่ได้ ทั้งคนที่กล่าวหา คนทำคดี รวมถึงประชาชนที่ใส่ร้ายกล่าวหาเขา ไปดูบรรยากาศช่วงนี้



เมื่อนักข่าวถามว่า เจ๋ง สนิทกับ ศรีสุวรรณ ใช่หรือไม่ เจ๋ง ยอมรับว่า ทำงานตรวจสอบหน่วยงานที่ทุจริตร่วมกันหลายคดี และมีหลายเรื่องที่มีข้อมูลตรงกันก็จะมาทำงานด้วยกันเท่านั้น ยอมรับเจ๋งกับศรีสุวรรณร้องเรียนกันบ่อย ส่วนใหญ่ร้องเรียนให้ตรวจสอบองค์กร แต่เขาไม่เคยไปเรียกรับเงินใคร เมื่อนักข่าวถามย้ำว่า คนที่บอกให้ เจ๋ง ไปเคลียร์ใช่ ร้อยเอก ธรรมนัส ใช่หรือไม่ เจ๋งบอกว่า เขาแค่ไปรายงาน แล้วท่านก็บอกว่า ให้เขามาจัดการ



ส่วน เลขาตูน ที่ถูกภรรยาอธิบดีโจ ระบุว่า เป็นคนทวงเงินตามจิก ยอมรับว่าเป็นคนที่ติดตามทวงเงินจริง เพราะได้รับมอบหมายให้เป็นคนกลางติดตามเรื่องให้ทั้ง 2 ฝ่าย โดยยืนยันว่า ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว เป็นฝ่ายเสนอเองว่า จะให้เงินก่อน 1 แสนบาท แต่ปรากฎว่าจ่ายไม่ครบ ทำให้เลขาตูนต้องเป็นคนไปติดตามทวงถาม จึงเป็นที่มาของแชทที่ฝ่ายภรรยาอธิบดีเอามาปล่อย ซึ่งเงินที่ทางฝ่ายภรรยาอธิบดีกรมการข้าวจ่ายมามีแค่ 6 หมื่นเท่านั้น ทั้งที่ตกลงกันที่ 1 แสน เธอจึงต้องติดตามทวงตลอด ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นคนงุบงิบเงินหรือไม่



ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่า เจ๋ง และ เลขาตูน ขณะถูกดำเนินคดีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะมีการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในเรื่องนี้นาย เจ๋งบอกว่า เขาถูกปลดในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงก่อนวันเกิดเหตุ



ส่วนเลขาตูน ถูกแต่งตั้งวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ตอนเที่ยงและถูกปลดทันที แต่เหตุเกิดวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ดังนั้นอาจจะไม่เข้าข่ายว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเป็นข้อต่อสู้ทางคดี และที่หลายคนสงสัยว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน เจ๋งและเลขาตูนยืนยัน เป็นแค่ "เลขา" เท่านั้น เพราะยายของเลขาตูนเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สนิทกับเจ๋ง พอเห็นแววว่าน่าจะเล่นการเมืองได้ จึงชักชวนให้มาร่วมงานกันเท่านั้น ซึ่งเลขาตูน ย้ำว่า สนิทกันทั้งครอบครัว



เมื่อจบการแถลงข่าว นักข่าวถามว่า เจ๋ง รู้จัก นาย เอกลักษณ์ ผู้ต้องหาที่โดนออกหมายจับคนล่าสุดที่ร่วมทีมตบทรัพย์ไหม ยอมรับว่า รู้จักกับ "ดร.เอก" 1จริง แต่รู้จัก ในฐานะที่ทำธุรกิจด้วยกัน พูดคุยกันในเรื่องโครงการต่างๆ เช่น โครงการวิ่ง แต่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่เคยโอนเงินหรือรับโอนเงินจาก ดร.เอก ทุกครั้งที่ไปร้องเรียนเรื่องการทุจริตหน่วยงาน ดร.เอก ไม่เคยรับรู้หรือเกี่ยวข้องเลย แล้วตำรวจไปจับทำไม



นอกจากนี้ เจ๋ง ยังบอกด้วยว่า สาเหตุที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งตบทรัพย์ น่าจะเป็นถูกกลั่นแกล้ง ทางการเมือง



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Asy69RYv8Ds

คุณอาจสนใจ

Related News