สังคม

พระใจดีรับลูกเพื่อนมาอยู่วัดหวังขัดเกลา เศร้าโดนเชิดกระบะยืมไม่คืน-โผล่ชายแดนสระแก้ว

โดย taweelap_b

11 ส.ค. 2566

430 views

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 66 พระสีห์ราช อายุ 60 ปี พระลูกวัดวังเฉลียง หมู่ที่ 7 ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน ว่า เวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อน ได้มาขอยืมรถกระบะ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเป็นฆราวาส และนำมาไว้ใช้กิจของสงฆ์ภายในวัด


ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ อ้างว่าจะขับเข้าไปทำธุระในตัวเมืองกำแพงเพชร ใจดีให้ยืมเพราะเห็นเป็นลูกของเพื่อน ซึ่งก็รู้จักกันอยู่แล้ว แต่นายพิเชษฐ์ กลับขับรถคันดังกล่าวหายไป และไม่สามารถติดต่อได้ ผ่านไป 3 วัน นายพิเชษฐ์ ยังหายเงียบไม่นำรถมาคืน อีกทั้งโทรศัพท์ติดต่อไปหาก็ไม่ได้ จึงคิดว่าน่าจะถูกเชิดรถหนีไปแล้ว จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร้อยตำรวจเอกวิโรจน์ กันทะมาลา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองพิไกร แต่จนถึงตอนนี้ คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ที่สำคัญหลังเกิดเหตุ วานให้ญาติโยมที่พอจะมีความรู้เรื่องเทคโนโลยี ช่วยประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่ารถคันดังกล่าวไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 2 ก.ค. 66 หลังจากยืมรถไปเพียงวันเดียว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามรถ และนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีด้วย


พระสีห์ราช กล่าวว่า อาตมาหวังจะขัดเกลาจิตใจให้ลูกชายของเพื่อนเป็นคนดี และเตรียมที่จะบวชให้ แต่ไม่คิดว่าจะมาทำกันแบบนี้ได้ลงคอ ตอนนี้ลำบากมาก ต้องการรถกระบะคืนโดยเร็ว เพราะเป็นรถที่นำมาใช้ในกิจการต่าง ๆ ภายในวัด จะไปไหนมาไหนก็ต้องไปยืม หรือขอให้โยมช่วยขับพาไปทำธุระ เกรงใจญาติโยม เพราะต้องใช้รถทำมาหากิน อาตมาอยากฝากใครที่พบเห็นรถกระบะคันดังกล่าว ช่วยแจ้งเบาะแสกับตำรวจ เพื่อจะได้ติดตามรถคืน และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งคดีให้เร็วขึ้น ส่วนนายพิเชษฐ์ อยากให้นำรถมาคืน กลับตัวเสียใหม่ จะไม่ถือสาเอาความ ที่แล้วมาก็แล้วกันไป


ขณะที่ น.ส.พัฒนา อายุ 30 ปี หลานสาวของพระสีห์ราช เปิดเผยว่า ตอนรู้ข่าวครั้งแรกว่ามีคนเอารถหลวงอาไป รู้สึกตกใจ อยากให้คนที่นำรถไปเอามาคืนจะดีกว่า เพราะตนสงสารหลวงอา เนื่องจากต้องใช้รถเพื่อไปรักษาอาการป่วย และใช้รถในการช่วยงานต่าง ๆ ในช่วงแรกที่รู้ว่ารถถูกขโมยไป หลวงอาเครียดมาก ๆ จนความดันขึ้น อยากจะสึกออกไปตามหารถ ที่ผ่านมาตนพยายามติดตามหาเบาะแสมาโดยตลอด และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดคดีนี้ให้ด้วย


อย่างไรก็ตาม จากการประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรคลองพิไกร เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องราวดังกล่าวไว้แล้ว แต่อยู่ระหว่างการออกหมายเรียก และหากไม่มาตามหายเรียกก็จะทำการออกหมายจับทันที ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ จึงยังไม่สามารถดำเนินการได ๆ ได้ ต่อมาได้มีการแจ้งความดำเนินคดี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมดำเนินคดีให้ผู้เสียหาย ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

คุณอาจสนใจ

Related News